คงมีคนเคยได้ยินหรือคุ้นหูกันดีกับคำว่า 'One Night Miracle' โดยเฉพาะกับนักเรียนหรือนักศึกษามหาวิทยาลัย ตัวผู้เขียนเองก็คุ้นเคยดีกับคำนี้ค่ะ ฮ่า ๆ สำหรับวันไนท์มิราเคิลในกลุ่มนักเรียนนักศึกษานั้นหมายถึงการใช้เวลาอ่านหนังสือก่อนสอบเพียงวันเดียวหรือคืนเดียวนั่นเองค่ะ ซึ่งสำหรับบางคนการอ่านหนังสือเพียงวันเดียวก่อนสอบนั้นก็เป็นเรื่องง่ายที่ทำให้จดจำเนื้อหาได้แต่สำหรับคนบางคนก็ไม่สามารถอ่านหนังสือแบบวันเดียวก่อนสอบหรือวันไนท์มิราเคิลได้จริง ๆ วันนี้ผู้เขียนเลยจะพามาดูกันนะคะว่า ทำไมถึงไม่ควรทำ one night miracle ก่อนสอบ?1. ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำข้อสอบการที่เรามาใช้เวลาในการอ่านหนังสือเอาตอนวันสุดท้ายก่อนสอบนั้นจะทำให้เรานอนดึกหรือบางคนอาจจะอ่านยันเช้าก็มี และเมื่อนอนดึกแล้วก็ทำให้เราตื่นไปสอบแบบมึน ๆ เบลอ ๆ ซึ่งการพักผ่อนหรือนอนไม่เพียงพออาจจะทำให้เราทำข้อสอบแบบผิด ๆ ถูก ๆ ได้เพราะตอนนั้นคงมัวแต่ง่วงนอนมากกว่ามีสมาธิในการทำข้อสอบอย่างแน่นอน 2. อ่านเนื้อหาจริง ๆ ได้น้อยการสอบแต่ละครั้งก็คงมีเนื้อหาเยอะมาก ๆ ซึ่งหากเราไปอัดในการอ่านวันสุดท้ายแต่เพียงอย่างเดียวก็คงไม่ทันหรอกจริงมั้ยคะ? หากคนที่มีเพื่อนที่จดแลคเชอร์แล้วให้เราดูก็โชคดีไป แต่คนที่เพื่อนอาจจะไม่ให้ยืมหรืออะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายเราก็ต้องพึ่งตัวเองอ่านเองอยู่ดี แล้วการที่เราจะอ่านเองโดยเนื้อหาที่ออกสอบมีเยอะมากทำให้เราอ่านไม่ทันแน่นอนหรือหากให้อ่านทันผู้เขียนคิดว่าเราคงจะอ่านเนื้อเนื้อหาได้น้อยมาก ๆ ซึ่งอาจจะทำให้เราทำคะแนนได้น้อย3. ทำให้เกรดเฉลี่ยลดลงได้บางคนพออ่านมาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่าโอเวอร์ไปรึเปล่าที่แค่การอ่านหนังสือวันสุดท้ายก่อนสอบถึงขั้นทำให้เกรดลดได้เหรอ? ลองนึกดูนะคะถ้าเรามาอ่านหนังสือเอาวันสุดท้ายก่อนสอบแล้วคิดว่าไม่เป็นไรหรอกวิชานี้ตกก็ไม่เป็นไรยังมีวิชาอื่นอีก แล้วถ้าหากว่าคุณได้คะแนนน้อยหรือไม่ดี เพราะสาเหตุมาจากการอ่านหนังสือเอาวันสุดท้ายตลอดทำให้คะแนนในทุก ๆ วิชาลดน้อยลง เกรดเฉลี่ยแต่ละวิชาก็จะลดน้อยลงไปด้วย จะส่งผลเสียต่ออนาคตเราขนาดไหน ผู้ขียนเองก็มีประสบการณ์ตรงกับเรื่องนี้เหมือนกันค่ะเลยมาบอกและแนะนำให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ได้ทราบกัน การที่เราทำวันไนท์มิราเคิลมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ผู้เขียนคิดว่าไม่ทำดีกว่านะคะ อยากให้ทุกคนอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ ตั้งใจเรียนในห้องเวลาที่คุณครูสอนไว้ดีที่สุดหรืออาจจะจดโน๊ตหรือแลคเชอร์ไว้แล้วอาจจะกลับมาทบทวนอีกครั้งเพื่อความเข้าใจก็ได้เช่นกันค่ะ หรือใครอาจจะถนัดนัดเพื่อนไปนั่งติวด้วยกันตามร้านคาเฟ่ก็ได้ ที่สำคัญเลยคือเราควรแบ่งเวลาให้เป็นและไม่ควรผัดวันประกันพรุ่งค่ะ เพราะหากเราไม่แบ่งเวลาไว้ว่าเวลาไหนควรทำอะไร ก็ทำให้การดำเนินชีวิตยุ่งเหยิงได้ การผัดวันประกันพรุ่งก็เช่นกันถ้าเรามัวแต่ผลัดวันในการอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ ค่อยอ่านวันพรุ่งนี้ดีกว่าสุดท้ายก็จะไปจบที่วันไนท์มิราเคิลนี่แหละค่ะ เพราะผู้เขียนก็เคยเป็นมาก่อน ฮ่า ๆCredit Photo : Pixabay