อื่นๆ
ทำไม คริสเตียน จึงดูเป็นมิตรจนน่ากลัว
ในสังคมเราทุกวันนี้ แน่นอนว่าเราคงต้องเจอทั้งคนที่นิสัยดีหรือนิสัยแย่ ซึ่งแน่นอนว่า ความเป็นมนุษย์ของคนเรานั้นแตกต่างกันไป คุณอาจจะเคยมีเพื่อน คนรู้จัก ที่เป็น ”คริสเตียน” หรือนับถือศาสนาคริสต์
บางครั้งคุณอาจจะสงสัยว่า ทำไม เค้าถึงทักทายคุณทุกครั้งที่ได้เจอ หรือทำไมเค้าถึงมีรอยยิ้มตลอดเวลาที่เจอหน้าคุณ แถมบางครั้งยังอาสาช่วยคุณในบางอย่างที่คุณเองก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือด้วยซ้ำ
เคยรู้สึกมั้ยครับว่า ทำไมเค้าถึงดูเป็นมิตรจนบางครั้งก็น่ากลัว กลัวว่าเค้าจะมีอะไรแอบแฝงรึเปล่าถึงมาคอยทำดีกับคุณ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังครับ
จริง ๆ แล้วเพราะพวกเราชาวคริสเตียนนั้น เชื่อในพระวจนะ หรือคำสอนของพระเจ้าในเรื่องการทำดีกับผู้อื่นนั่นเอง ดังข้อพระคำภีร์ที่ว่า “จงถือว่าผู้อื่นดีกว่าตัว” ในโรมบทที่ 12 ข้อที่10 หรือข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย” ในฟีลิปปีบทที่ 2 ข้อที่ 3-4
Advertisement
Advertisement
ก็จะเห็นได้ว่า พวกเราชาวคริสเตียนนั้น ถูกสอนให้คิดถึงผู้อื่น เห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีความถ่อมตัว ซึ่งการนำมาปฏิบัติในชีวิตจริงนั้น ก็จะทำให้เกิดผลดีต่อผู้อื่น ต่อสังคม และทำให้คริสเตียนนั้นรู้สึกชื่นชมยินดีที่ได้ทำตามที่พระเจ้าทรงพอพระทัยด้วย
ในบางครั้ง อาจจะมีคนที่คิดร้ายกับเรา หรือคิดไม่ดีกับเรา คริสเตียนก็ถูกสอนให้รู้จักให้อภัย และมองศัตรูให้เหมือนมิตร เพราะตามคำสอนของพระเจ้านั้น เราทุกคนคือเพื่อนมนุษย์กัน อาจจะมีความผิดพลาดได้ อาจจะพลั้งเผลอคิดไม่ดี หรือทำไม่ดี คริสเตียนสามารถให้อภัยได้ไม่ยากเลย ดังคำสอนหรือพระวจนะที่ว่า
“แต่เราบอกท่านที่ฟังอยู่ว่าจงรักศัตรูของท่าน จงทำดีแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน จงอวยพรคนที่แช่งด่าท่าน จงอธิษฐานเผื่อผู้ที่ทำร้ายท่าน ถ้าผู้ใดตบแก้มท่าน จงหันแก้มอีกข้างให้เขาด้วย ถ้าผู้ใดเอาเสื้อคลุมของท่านไป จงยอมให้เขาเอาเสื้อของท่านไปด้วย จงให้แก่ทุกคนที่ขอท่าน และถ้าใครเอาสิ่งที่เป็นของท่านไป อย่าเรียกร้องสิ่งนั้นกลับคืน จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน” ในลูกาบทที่ 6 ข้อที่ 27-31 นั่นเอง
Advertisement
Advertisement
เพราะชาวคริสเตียนมีความเชื่อว่า พระเจ้าทรงรักมนุษย์ และทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์มาบนโลกมนุษย์เพื่อไถ่บาปให้พวกเราทุกคนบนโลกนี้ เมื่อพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาป เราทุกคนจึงถูกอภัยบาปจากพระผู้เป็นเจ้า พวกเราจึงถูกสอนให้อภัยให้คนอื่น เหมือนที่พระเจ้าทรงอภัยให้พวกเรานั่นเองครับ
หรือบางครั้ง อาจจะมีเพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นคริสเตียน มาคอยถามไถ่ ทำดีกับคุณ แล้ววันนึงก็เอ่ยปากชวนคุณไปโบสถ์กับเค้า ไม่ต้องตกใจนะครับ พวกเราไม่ได้ชวนคุณไปทำอะไร หรือแอบแฝงอะไรเลย
แท้จริงแล้ว คริสเตียนอยากจะชวนคุณไปหาพระเจ้านั่นเอง เพื่อพบกับ “ความรอด” ในชีวิตนั่นเอง ไม่ได้หลอกไปฆ่าแกงอะไรนะครับ เพราะตามความเชื่อของศาสนาคริสต์ ผู้ที่เข้าหาพระเจ้าและเชื่อในพระองค์จะได้รับความรอด ไม่ว่าคุณจะเคยทำบาปมา หรือทำผิดพลาดอะไรก็แล้วแต่ คุณจะได้รับการอภัยบาปจากพระองค์ได้เช่นกันครับ
Advertisement
Advertisement
และเพราะคริสเตียนที่เป็นเพื่อน เป็นคนรู้จักของคุณ “รักคุณ” นั่นเอง ถึงได้ แบ่งปันข่าวประเสริฐของพระเจ้าให้คุณฟัง และกล้าเอ่ยปากชวนคุณไปโบสถ์ และถ้าคุณลองเปิดใจซักเล็กน้อย คุณจะเจอคริสเตียนที่คล้าย ๆ กันเต็มไปหมดที่โบถส์
พวกเค้าจะทักทายคุณเหมือนรู้จักคุณมาก่อน พวกเค้าจะยิ้มแย้มแจ่มใส หรืออาจจะช่วยเหลือในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเต็มใจพร้อมกับรอยยิ้ม คุณจะได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า และได้รับประทานอาหารร่วมกันกับคนอื่น ๆ ซึ่งอาจจะมีหลาย ๆ คนมานั่งคุยกับคุณอย่างตั้งอกตั้งใจ หรือชวนคุณคุยเหมือนอยากรู้จักคุณซะเหลือเกิน ก็ไม่ต้องตกใจอีกนั่นแหละครับ เพราะสิ่งเหล่านี้คือ พระวจนะหรือคำสอนที่พวกเราชาวคริสเตียนปฏิบัติกันจนเป็นเรื่องปกติ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง
ถ้าเจอคริสเตียนซักคนที่ดูเป็นมิตร เป็นคนดีซะเหลือเกิน ก็ไม่ต้องตกใจนะครับ พระเจ้าอวยพรครับ
ภาพปกโดย : unsplash.com
ภาพประกอบที่ 1 โดย : unsplash.com
ภาพประกอบที่ 2 โดย : www.pexels.com
ภาพประกอบที่ 3 โดย : unsplash.com
ภาพประกอบที่ 4 โดย : pixabay.com
ภาพประกอบที่ 5 โดย : pixabay.com
ภาพประกอบที่ 6 โดย : unsplash.com
ความคิดเห็น
