ใคร ๆ ก็อยากได้ดีกันทั้งนั้นครับ ไม่มีใครอยากทนลำบากไปตลอดชีวิต ไม่มีใครอยากกัดก้อนเกลือ อยู่อย่างรู้สึกด้อยค่า หรือรู้สึกต่ำต้อย “ฉันจะลดน้ำหนักให้ได้” “ฉันจะมีเงิน 1 ล้าน” “ฉันจะมีรถขับ” “ฉันจะหางานทำใหม่” เราได้ยินบ่อยมาก และชินหู จนเมื่อเราได้ยิน แทนที่เราจะให้กำลังใจคนพูด เรากลับรู้สึกเฉย ๆ เพราะเราต่างรู้ดีว่า ผ่านไป 2 ปี ก็ยังเหมือนเดิม.. ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไปจากเดิมแน่นอน เพราะเดือนที่แล้ว เราก็ได้ยิน ปีที่แล้ว เราก็ได้ยิน เราได้ยินซ้ำ ๆ แต่ก็ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไร เราเช่นกัน เรามีความต้องการ หรือมีกำลังใจอะไรบางอย่างมา เราจะพูดออกไปทันที ว่าจะต้องทำให้ได้ แต่ลองมองย้อนกลับไปสิครับ เราพูดมันมากี่ครั้งแล้ว แล้วมันมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือดีขึ้นบ้างแน่นอนปัจจัยสำคัญของปัญหานี้ คือ ความขี้เกียจ เป็นปัจจัยหลักสำคัญเลย ที่ยังคงทำให้เราย่ำอยู่กับที่ แต่เราก็ได้แต่หลอกตัวเองว่า เราไม่ได้ขี้เกียจ เราแค่รอเวลาที่เหมาะสม เช่น“เดี๋ยวไปวิ่งพรุ่งนี้” “เดี๋ยวสัปดาห์หน้าจะลดน้ำหนักจริงจัง” “เดี๋ยวเดือนหน้าจะเริ่มเก็บเงินละ” ได้ยินบ่อยมาก.. เราได้แต่มองภาพสวรรค์ที่จินตนาการในหัวสำเร็จรูป จินตนาการว่าเรารวยล้นฟ้า มีหุ่นที่ดี มีกล้าม มีการงานมั่นคง แต่พอเรากลับมาย้อนมองตัวเอง เราก็จะรู้สึกว่า เห้ย ตอนนี้มันห่างไกลจังเลย เราจะหาทางยังไงที่จะคว้าความฝันนั้นไว้ได้ เพียง 2 นาที ความคิดเราก็จะตันที่คำว่า ยากจัง ไว้ค่อยคิดใหม่ ตอนนี้อยากกินนั่นนี่ ตอนนี้อยากซื้อนั่นนู่นใช่ครับ เพราะเราไม่มีความอดทนที่จะทำอะไรบางอย่างให้มันค่อย ๆ สำเร็จ เราหวังแต่อะไรที่มันสำเร็จรูป ทำในเวลาอันสั้น และได้ผลทันที ซึ่งมันมีโอกาสน้อยมาก ๆ นักเพาะกล้าม ใช้เวลาเพาะมาเป็นปี ๆ แต่เราแค่ 2-3 วันก็เริ่มท้อและไม่ต้องการอะไรแบบนี้แล้ว เราก็จะมองหาอะไรที่มันให้ความสุขเราได้ทันที ที่เป็นแบบนี้เพราะเรามัวแต่เปรียบเทียบเพียงแค่ผลลัพธ์ เขามี เราไม่มี เขาทำได้ เราทำไม่ได้ จบ เราคิดเพียงแค่นี้ แต่ในทางกลับกัน เวลาเราทำอะไรซักอย่างสำเร็จเราก็จะรู้สึกภูมิใจ และไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไรมาก สิ่งที่ผมอยากแนะนำคือ แบ่งลำดับขั้นตอนออกเป็นส่วนเล็ก ๆ เช่นคุณรู้ตัวว่าต้องอ่านหนังสือ ถ้าคุณคิดในหัวว่า ต้องคอยอ่านที 4-5 บท ตาลาย ปวดหลัง คุณจะหยุดคิดและนอนต่อแต่ถ้าคุณลองแบ่งลำดับออกเป็นส่วนเล็ก คุณก็คิดก่อนว่า แค่ลุกขึ้นนั่ง หลังจากนั่ง คุณก็แค่คิดว่า จะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ หลังจากนั่งเสร็จ ก็แค่หยิบหนังสือ อ่านบรรทัดแรก อ่านหน้าแรก อ่านอีกหน้า อีกหน้า อีกหน้า ๆๆ.. ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง มันอาจจะมองเหมือนยาก แต่เราอย่าไปคิดเยอะ คิดอะไรก็ทำเลย คิดจะลุกก็ลุก คิดจะอ่าน ก็อ่าน ถ้ามัวแต่คิดเยอะว่ามันจะต้องเหนื่อย ใช่ครับ ก็จงนอนลงไปเถอะ และก็ฝันถึงความสมบูรณ์แบบในโลกจินตนาการของคุณต่อไป สลัดความขี้เกียจครับ เริ่มจากทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกวัน อย่าหักโหมทำในเวลาอันสั้น เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังทำให้เราล้มเลิกง่ายอีกด้วย “จงยกเวท 2 กิโลในทุก ๆ อย่ายกเวท 10 กิโลเพียงแค่ 5 วัน เพื่อหวังจะมีกล้าม” ขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay.comรูปที่ 1 รูปที่ 2 รูปที่ 3