การทำน้ำเต้าหู้จากถั่วเหลือง เป็นอาหารหนึ่ง ที่คนรักสุขภาพ นิยมดื่มแทนนม เพื่อเป็นอีกทางเลือก ของคนที่ไม่เบียดเบียนสัตว์ น้ำเต้าหู้มีโปรตีน ดื่มแล้วอิ่มท้อง แบบเบาสบาย ทำให้ระบบการย่อยอาหารไม่ทำงานหนักเกินไป น้ำเต้าหู้ที่ทำจากเมล็ดถั่วเหลืองทั้งเมล็ด จะให้ปริมาณน้ำข้นมากกว่า น้ำเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลืองซีก ในซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปเราจะพบถั่วเหลืองแบบซีกมีขายง่ายกว่าแบบเมล็ด ที่หาซื้อง่ายก็จะเป็นยี่ห้อไร่ทิพย์ ราคาถุงละประมาณ 36 - 40 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม การทำน้ำเต้าหู้ทานเอง เราจะได้น้ำเต้าหู้ที่เข้มข้นกว่า สดอร่อย เราสามารถทำแบบไม่ใส่น้ำตาลก็ได้ ( ถ้าใครต้องการหวาน ค่อยเติมน้ำตาลตอนที่นำมาอุ่นก็ได้ ) เรามาลองทำกันดู วัตถุดิบ 1. ถั่วเหลืองซีก 300 กรัม 2. ถั่วลิสง 90 กรัม จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถั่วลิสงนอกจากมีความมัน ทำให้อร่อยเพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้น้ำเต้าหู้ไม่เหม็นเขียวอีกด้วย ผู้เขียนเคยทำแบบไม่ใส่ถั่วลิสง แม้ว่าจะล้างถั่วเหลืองอย่างดี ก็ยังเหม็นเขียวนะ ( แต่ก็ทานได้ เพราะเราทำเอง ) 3. น้ำสะอาด 13 ถ้วยตวง ( ไม่มีกลิ่นคลอรีน ) 4. เกลือ และ น้ำตาล แล้วแต่ชอบ อุปกรณ์ 1. กะละมัง 2-3 ใบ 2. กระชอน 3. ผ้าขาวบาง 4. เครื่องปั่น 5. หม้อต้มน้ำเต้าหู้ ในที่นี้ ผู้เขียนใช้หม้อหุงข้าว ( เพราะถ้าติดก้นหม้อก็ไม่ไหม้ ) วิธีทำ 1. นำถั่วเหลืองซีก และถั่วลิสง มาล้างน้ำหลาย ๆ รอบ จนใสสะอาด เลือกถั่วเสียออก แยกเปลือกที่ปนมาออกทิ้ง 2. แช่น้ำสามชั่วโมง ห้ามเกินสี่ชั่วโมง (ถ้ารีบอาจใช้น้ำอุ่นแช่ได้ ) จนถั่วนิ่ม แล้วนำมาล้างซ้ำหลาย ๆ รอบอีก เทน้ำทิ้ง ให้สะเด็ดน้ำ 3. นำถั่วเหลืองและถั่วลิสง ผสมน้ำให้พอปั่นได้ดี แบ่งปั่นตามกำลังเครื่องปั่นของเรา 4. เทส่วนผสมที่ปั่นได้ ลงไปบนกระชอนที่รองผ้าขาวบางตาถี่ไว้ บนหม้อใหญ่ ให้น้ำถั่วเหลืองไหลลงไป ระวังกากลงไปในน้ำถั่วเหลือง เอากากใส่ไว้ในกะละมัง (เพราะเราต้องปั่น สองครั้ง) 5. นำถั่วมาปั่นอีกครั้ง ก็ยังได้น้ำเต้าหู้อีกเยอะเลยนะ 5. เอามือบีบถั่วเหลือง จนน้ำออกหมด แบบคั้นกะทิเลย จะได้น้ำข้น ๆ ออกมาอีก (กากเก็บไว้ปรุงเป็นอาหารชนิดอื่นได้ ) 6. ใส่เกลือเล็กน้อย 7. เอาน้ำถั่วเหลืองดิบ ใส่ในหม้ออะไรก็ได้ เราใช้หม้อหุงข้าว แบบที่มีหม้อเคลือบอย่างหนา เพราะเวลาต้มน้ำถั่วเหลือง มันจะได้ไม่ไหม้ 8. กดปุ่มหุงข้าว พอครึ่งชั่วโมง จะร้อนมาก คอยเฝ้า หมั่นเปิดดู อย่าให้ล้นเป็นอันขาด คอยคน ***ขั้นตอนนี้สำคัญมาก อาจเสียหม้อหุงข้าวไปเลยก็ได้ คอยตักฟองเต้าหู้ออก เอาไว้ทานพร้อมน้ำเต้าหู้ที่สุกแล้ว พอเดือดได้สักสิบนาที ปิดไฟ อย่าปิดฝาหม้อ เพราะมันยังมีความร้อนอยู่ มันจะล้นได้ ตอนร้อน ๆ เติมน้ำตาลได้ แต่เราไม่ใส่นะ 9. เสร็จแล้ว ยกหม้อออกมา ได้น้ำเต้าหู้พร้อมรับประทาน เมื่อตักใส่แก้ว ตอนนี้ใครอยากเติมน้ำตาล นมสด นมข้นหวาน เครื่องต่าง ๆ ก็ได้ ถ้ามันข้นไป ( ผู้เขียนเคยเผลอให้เดือดนานไป น้ำระเหยไป จนน้ำเต้าหู้ข้นมาก แบบนี้ไม่อร่อย ต้องแก้ด้วยการเอามาเติม ) เฉพาะเวลาจะทาน ให้ตักแบ่งเท่าที่ต้องการเท่านั้น ใส่น้ำสุก นมสด ผสมในแก้วที่เราเอามาอุ่นไมโครเวฟ มันก็ผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกันได้ อร่อยเหมือนทำเสร็จใหม่ ๆ ที่เหลือตั้งให้เย็น เก็บใส่ตู้เย็น ได้หลายวัน ลองทำทานกันดูนะคะ เจ้าไหนที่ใครว่าดัง และอร่อยนักหนา สู้เราทำเองไม่ได้แน่นอน น้ำถั่วเหลือง แต่เรามักเรียกน้ำเต้าหู้ ถ้าเอาน้ำถั่วเหลืองไปทำให้แข็งตัว ถึงจะกลายเป็นเต้าหู้เนาะ มีข้อควรระวัง ผู้สูงอายุบางท่าน ที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็ง เช่น ต่อมลูกหมาก หรือวัยที่ไตเสื่อม ไม่ควรทานอาหารที่มีโปรตีนสูง สตรีที่เคยผ่าตัดเต้านม หมอเค้าจะแนะนำไม่ให้ทานพวกเต้าหู้ พวกถั่วเหลืองนะ ใครที่ไม่มีภาวะแบบนี้ ยังทานได้ ก็ทาน แต่พอดี อย่าทานอะไรที่ซ้ำ ๆ ร่างกายของเราจะได้ไม่รับสารอาหารเดิม ๆ มากเกินไป ภาพโดย ผู้เขียน