"ราศี" บนใบหน้า เกิดจากออร่า ทำให้เราดูดี และอาจสร้างโอกาสให้กับตัวเองอีกมากมาย เพราะหน้าสว่างสดใส ดูไม่ทะมึน หรือหมองคล้ำ เป็นเรตติ้งที่ดีอย่างหนึ่ง วันนี้เราจึงคัดข้อมูลมาเน้น ๆ ผิวหน้ากระจ่างใส 6 ประการ สามารถทำได้ง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ ควบคู่ไปกับดื่มน้ำสะอาดที่ไม่เย็นหรือร้อนจนเกินไป อย่างน้อยวันละ 6 - 8 แก้ว เมื่อเราดื่มน้ำอย่างเพียงพอต่อร่างกาย ปัญหาผิวแห้งหรือผิวเป็นขุยจะหมดไป นอกจากนี้ยังทำให้ดวงตาดูสดใส ผิวอวบอิ่มไร้ริ้วรอยอีกด้วย สำหรับสาว ๆ ทั้งหลายที่เป็นสิว ควรหลีกเลี่ยงของมันทุกชนิด แล้วเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ เช่น ผักสดและผลไม้ เป็นต้น อีกทั้งควรงดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ เพราะจะทำให้ผิวพรรณขาดความสดใส และเกิดริ้วรอยหมองคล้ำได้ง่าย ออกกำลังกายวันละ 30 นาที ช่วยให้คุณมีสุขภาพผิวที่ดีได้ ผุดผ่องสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อีกทั้งยังทำให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย ทั้งนี้ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง อีกด้วยควบคุมอารมณ์ลดความเครียดความเครียดเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าคุณหมองคล้ำ จงอย่าเครียดบ่อยนัก ค่อยๆ แก้ไขปัญหาอย่างมีสติ และพยายามทำใจไม่ให้เป็นทุกข์ การยิ้ม และการทำอารมณ์ให้ดีอยู่เสมอ มองโลกในแง่ดี จะช่วยลดความเครียดที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวได้ ทำให้หน้าใสได้ เลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว เบื่อจัง คำถามเธอใช้อะไรดี?? ถามจริงๆ ว่าดีของเขา จะเหมาะหรือดีกับเราหรือเปล่า?? ต่อไปนี้ เลือกเองเลยค่ะ เพราะผิวของเราแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อผิวหน้าสวย หน้าใส เปล่งประกาย เริ่มต้นควรเลือกโฟมล้างหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เช่น ถ้าเป็นคนผิวมัน ก็ควรเลือกใช้โฟมแบบออยล์คอนโทรล เป็นต้น และไม่ควรหน้าล้างเกินวันละ 2 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวหน้าขาดความชุ่มชื้นได้ ทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังล้างหน้า ทดแทนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปหลังการล้างหน้า ในช่วงเวลากลางวัน ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมสารกันแดด ซึ่งจะมีสารป้องกันแสงแดดจากรังสียูวีในระหว่างวัน ส่วนในเวลากลางคืน ใช้สำหรับบำรุงผิวยามค่ำคืน นอกจากนี้การทำทรีทเม้นท์ผิวหน้า ยังมีส่วนช่วยฟื้นฟูและบำรุงพร้อมกัน การทำทรีทเม้นท์นั้นสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เช่น การพอกหน้าด้วยไข่ขาว หรือ ดินสอพองผสมมะนาว เป็นต้น สครับผิวหน้าบ้าง ไม่ควรทำการขัดหน้า หรือสครับผิวหน้าบ่อยเกินไป แม้ว่าการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าจะทำให้รู้สึกถึงความสะอาดของผิว แต่การขัดหน้าหรือสครับผิวหน้าบ่อย ๆ นั้น จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้ผิวผลิตความมันออกมามากขึ้น และทำให้เกิดสิวได้ง่าย ควรทำการขัดหน้าหรือสครับผิวหน้า สัปดาห์ละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงรังสีจากแสงแดด ตัวการสำคัญที่ทำหน้าแลดูหมองคล้ำง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแสงแดดที่แรงจัด แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเผชิญกับแสงแดด ควรครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ก่อนออกจากบ้าน และควรทาระหว่างวันหากมีความจำเป็นต้องอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน รู้เคล็ดลับแล้ว ควรทำทันที โดยสถิติ คุณจะเริ่มดูดี เห็นผล ภายใน 8 สัปดาห์ หรือว่า 2 เดือน รับรองหน้าใสแบบยั่งยืนค่ะ แต่ทั้งนี้พึงระลึกว่า สภาพผิวของแต่ละคนต่างกัน โดยเฉพาะคนไทยเรามีผิวพรรณที่หลากหลาย แต่ละคนมีพื้นเพของผิวแตกต่างกัน จึงควรดูแลความสวยให้ถูกวิธี ด้วยการลองสังเกตุสภาพผิว แล้วปรับใช้ ดูว่าตัวเองไวต่ออะไร ที่ทั้งทำลายสภาพผิวเรา ก็หลีกเลี่ยง หรือฟื้นฟูสภาพผิวเราได้ดี ก็ใช้เป็นประจำสม่ำเสมอ แต่ถึงเวลาอยากเปลี่ยน เปลี่ยนได้นะคะ เฉลี่ยสามเดือนถึงหนึ่งปีขึ้นไป บางทีผิวพรรณเราอาจชินชากับส่วนผสมเดิมๆ แล้ว ถ้าได้ของใหม่ จะเห็นผลยิ่งขึ้นค่ะ (แต่อย่าเพิ่งกล่าวว่าดีกว่าผลิตภัณฑ์ตัวเก่า เพราะตามหลักวิทยาศาสตร์ ผิวพรรณเรายังไม่เคยเจอกับส่วนผสมนั้นๆ จึงออกผลไว้เป็นพิเศษ ที่ถูกต้องคือ คอยปรับใช้ เปลี่ยน ผสม หาสูตรที่ลงตัวกับตัวเอง) แต่สำหรับคนที่มีปัญหาสภาพผิวและการดูแลที่ลึกไปกว่านี้ แนะนำให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณเลยค่ะ มีเคล็ดลับดูแลผิวหน้าเหมาะกับประเภทของผิวคนไทยเพียย ยิ่งช่วงสภาวะอากาศที่แปรปรวน มลภาวะมากมาย ตัวช่วยยิ่งเยอะ นี่เป็นหลักการคร่าว ๆ ง่าย ๆ ไม่เสียสตางค์มาก เอามาแนะนำกันค่ะ ท้ายสุดขอบคุณภาพสวยๆ อีกครั้งจาก pexels.com