ไลฟ์แฮ็ก

ทำงานที่บ้านกับดักความสบายของการทำงาน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ทำงานที่บ้านกับดักความสบายของการทำงาน

ด้วยเหตุผลโรคภัยที่ทำที่ทำให้หลากหลายบริษัทออกมาประกาศให้ชาวออฟฟิศได้หอบงานกลับมาทำที่บ้าน โดยไม่ต้องเข้าบริษัทและใช้เทคโนโลยีเพื่อติดต่อสื่อสารในการทำงานที่บ้านแทน หรือที่เรียกว่า ' Work from home ' ซึ่งหลายคนอาจจะดีใจเพราะเราไม่ต้องเบียดเสียดผู้คนมากมายเพื่อออกไปทำงาน ให้เสี่ยงต่อโรคระบาดอย่าง COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้น และคิดว่าเราคงสบายตัวไม่ได้ออกไปไหน ทำงานเมื่อไหร่ก็ได้เพียงแค่เปิดคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่การทำงานที่บ้านก็ยังต้องคำนึงเรื่องสำคัญทั้งที่เกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงาน สุขภาพร่างกายหรือแม้แต่สุขภาพทางด้านจิตใจ ที่ทำให้เราอาจจะเกิดภาวะติดกับดักปัญหาเมื่อเราทำงานอยู่บ้านโดยไม่รู้ตัว

1. ตื่นสายได้จึงสบาย

กิจวัตรที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยจากที่เคยตื่นเช้าเพื่อทานอาหารเป็นประจำ ใช้เวลาเร่งรีบในการออกมาทำงานด้วยรถโดยสารสาธารณะหรือหลีกเลี่ยงรถติดในทุก ๆ วันจนชิน เพื่อให้ทันเวลาพร้อมกับการเข้างาน แต่ในการทำงานอยู่ที่บ้านทำให้เราไม่ต้องเร่งรีบที่จะตื่นเพื่อฝ่าฟันรถติด ขอเพียงแค่ตื่นให้ทันเวลางานหรือตอนที่เจ้านายสั่งการให้เรารับผิดชอบงานใดงานหนึ่งเท่านั้นให้เสร็จลุล่วงทันตามเวลา ทำให้หลายคนถือโอกาสตื่นสายไปบ้างหรือแม้กระทั่งลุกมานั่งเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานโดยชุดนอนกันเลยทีเดียว เป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าเท่าไหร่ ความง่วงจากการตื่นสายหรือการใช้โควต้านอนดึกจนหน่ำใจ อาจจะทำให้การตื่นมาทำงานที่บ้านของเราเองไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เปลี่ยนให้ตัวเองกลับมาทำกิจวัตรหรือกิจกรรมที่คล้ายเดิมในการทำงานเพื่อความคล่องตัว ไม่มัวทำงานทั้งชุดนอนที่ทำให้เราไม่สด่นสลัดความขี้เกียจให้ตื่นเพื่อพร้อมทำงานให้ได้ผลดีกันดีกว่า

Advertisement

Advertisement

ทำงานบนที่นอนเครดิตภาพจาก freepik.com

2. ไม่มีแพลนงานที่ชัดเจน

ตัวงานที่ลดปริมาณลงหรือการทำงานที่ต้องใช้การสื่อสารผ่านทางไกล อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่ รวมทั้งการอยู่ในบ้านของเราเองที่ไม่มีใครมาคอยตรวจเช็คได้ทันท้วงที อาจทำให้เราไม่ค่อยมีแพลนในการทำงานที่แน่ชัดให้กับตัวเอง อยากจะทำตอนไหนช่วงเวลาใดก็ได้ แล้วสุดท้ายก็ทำให้งานออกมาได้ไม่ดีเพราะเรามัวเอาเวลาที่มีให้กับตัวเองไปซะหมดจนลืมสนใจงานไปบ้างในบางครั้ง ฉะนั้นถึงแม้ว่าเราไม่ได้นั่งอยู่ที่ออฟฟิศเป็นประจำเหมือนเคยก็ต้องไม่ละเลยหน้าที่การงานและการวางแผนงานให้ออกมาเป็นระบบ ให้มีการทำงานในช่วงเวลาและแผนการทำงานให้ครบจบทุกวัน ไม่ยกงานให้คั่งค้างหรือเอาเวลาส่วนต่างที่เราจะได้พักผ่อนมาทำงาน

วางแผนงานเครดิตภาพจาก freepik.com

3. โซเชียลมากไป

ยืมเวลาช่วงทำงานมาใช้เป็นเวลาแห่งความสุขและเวลาที่เราจะได้สนุกเพลิดเพลินไปกับสิ่งบันเทิง จมไปกับการเอนเตอร์เทนตัวเองผ่านโลกโซเชียล เป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรทำแม้จะเป็นการทำงานที่บ้านที่รู้สึกว่าไม่เคร่งครัดกับตัวเองเท่าไหร่ แต่เราก็ควรจะทุ่มเวลาปกติให้กับความรับผิดชอบและหน้าที่ที่มีได้อย่างเสร็จสมบูรณ์มีประสิทธิภาพเสียก่อน เมื่อถึงเวลาพักผ่อนเราจะใช้เวลาเสพโซเชียลแค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่อย่านำความสบายตัวความสบายใจเป็นที่ตั้งจนหลงลืมหน้าที่งานที่ต้องรับผิดชอบไปให้ดี

Advertisement

Advertisement

ละเลยเวลาทำงานเครดิตภาพจาก freepik.com

4. โหยหาสังคม

ชีวิตในการทำงานอาจทำให้เราพบเจอผู้คนหลากหลายประเภทเป็นเหตุให้เราได้พูดคุยสังสรรค์ เล่าเรื่องกิจวัตรประจำวัน คุยกันในเรื่องที่สนใจ แลกเปลี่ยนความคิดความเข้าใจ พอมาทำงานอยู่ที่บ้านเงียบ ๆ แม้บรรยากาศรอบตัวจะสบายแต่ไม่มีใคร ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกเหงาใจขาดสีสันอะไรไปเหมือนกัน เพราะมนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคมที่มักจะอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนเพื่อความสบายใจและความปลอดภัยอะไรบ้างอย่าง หรือเป็นการรวมกลุ่มเพื่อการทำงานที่เราต้องพูดคุยกันสื่อสารกันบ้าง การทำงานที่บ้านคนเดียวก็ทำให้เราห่างหายจากสังคม อย่ามัวแต่ขลุกทำงานในห้องแคบ ๆ ลองมีบทสนทนากับใครอื่นในบ้านบ้าง ถือเสียว่าชดเวลาชีวิตที่ต้องเสียไปกับการเดินทางระหว่างวัน เมื่อเราได้ทำงานที่บ้านแล้วนั้นก็หันมาดูแลพูดคุยกับครอบครัวเติมเต็มสังคมอีกฟากที่เราอาจจะขาดความใส่ใจไปดู

Advertisement

Advertisement

พูดคุยกับคนรอบข้างเครดิตภาพจาก freepik.com

5. กระทบสุขภาพร่างกาย

ทุกวันที่เราต้องเดินทางไปทำงานขยับเขยื้อนร่างกายบ้าง เดินไปซื้อข้าวในตอนกลางวัน หรือต้องเดินไปสื่อสารกับแผนกนั้นแผนกนี้ให้เราได้ลุกจากโต๊ะทำงาน แต่การที่เราต้องทำงานที่บ้านในที่ประจำเพื่อรอรับคำสั่งงานหรือนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ๆ จนแทบไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ อาจจะทำให้การทำงานลักษณะนี้มีผลกระทบกับสุขภาพร่างกายของเราในอนาคตก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้เดินทางไปไหนเพื่อทำงานแต่ก็ขอให้เราอย่าอุดอู้อยู่กับที่จนแทบไม่ขยับร่างกายให้คลายเมื่อยกันบ้างหรือหลังเลิกงานแล้วควรมีเวลาให้ตัวเองสักนิด ด้วยการดูแลตัวเองออกกำลังกายบ้าง รักษาสุขภาพเพิ่มความสดชื่นให้เรารู้สึกคล่องตัว แถมยังไม่ทำให้เราป่วยเป็นออฟฟิศซินโดรม

รักษาสุขภาพเครดิตภาพจาก freepik.com


อย่ามัวแต่อุดอู้และทำให้การทำงานที่บ้านเป็นเรื่องน่าเบื่อ อย่าให้กับดักความสบายตัวผลักให้เราทำงานออกมาได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เพียงเพราะพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของเราเปลี่ยนไป หมั่นทำร่างกายของเราให้สดชื่นเข้าไว้ ดูแลสุขภาพตัวเองบ้างไม่มัวแต่่งทำงานที่เดิมจนทำให้เราละเลยการออกกำลังไปขยับให้ร่างกายได้กระฉับกระเฉง และหมั่นเติมความสุขเติมสังคมให้กับตัวเองด้วยการพูดคุยกับมนุษย์ทั่วไป เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนบ้างให้เราไม่รู้สึกอ้างว้าง เช็คสุขภาพร่างกายและจิตใจของเราให้ดีอยู่เสมอเพื่อการทำงานที่ดีเต็มที่อย่างมีประสิทธิภาพ

เครดิตภาพหน้าปกจาก freepik.com

#งาน #ทำงานที่บ้าน #ประสิทธิภาพการทำงาน #สุขภาพจิต #work #workfromhome #worklifebalance #workproductive #health #babyduckii #TrueIDintrend


คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์