นักเขียนหลายคนเข้าใจว่าเรื่องราวกีฬาโดยเฉพาะ ฟุตบอล เป็นเนื้อหาเฉพาะกลุ่มที่เขียนยาก จำเป็นต้องมีทักษะความรู้ระดับเซียนบอล แต่แท้จริงแล้วทุกคนสามารถเขียนเรื่องราวฟุตบอลให้สนุก และน่าติดตามได้ด้วยทริคการเขียนแบบง่าย ๆ จะขอนำเอาประสบการณ์ที่อยู่ในแวดวงฟุตบอลมาพอสมควร ถ่ายทอดวิธีการเลือกเรื่องที่จะนำเสนอ และเทคนิคหาข้อมูล รับรองว่าสามารถทำกันได้ทุกคนครับ 1. จับประเด็นเรื่องที่จะนำเสนอ ยอดวิวเค้กก้อนใหญ่ของฟุตบอล 1 คู่ หนีไม่พ้นบทวิเคราะห์ก่อนแข่ง กับเก็บตกประเด็นที่เกิดขึ้นในสนามหลังแข่ง หากเลือกเขียน ก่อนแข่ง ช่วงเวลาในการปล่อยงานของเราที่ดีที่สุดคือ 24 ชั่วโมงก่อนเตะ คือช่วงเวลาที่พีคที่สุด ส่วนหลังแข่ง นอกจากข่าวผลการแข่งขัน สิ่งที่สามารถช่วงชิงคนอ่านได้ คือการจับประเด็นสำคัญมาขยาย เช่น เปิดสถิติน่าสนใจ, วิเคราะห์ความสามารถให้คะแนนนักเตะ หรือจังหวะสำคัญที่เป็นดราม่า เอามาขยายความให้น่าสนใจ รับรองว่าได้รับความนิยมในหมู่แฟนบอล 2. แหล่งข้อมูลมีความสำคัญ นักเขียนสายกีฬาจะมีแหล่งข้อมูลที่นิยมใช้กันแตกต่างกันไป หนึ่งในนั้นที่เป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี คือพวกเว็บรวมสถิตินักบอล เช่น Transfermarkt หากเป็นชื่อนักฟุตบอลที่เราไม่คุ้นหู เครื่องไม้เครื่องมือออนไลน์จะช่วยเราได้ เพราะจะบอกอย่างละเอียดว่าคนนี้เล่นตำแหน่งอะไร, ติดโทษใบแดงหรือเปล่า, ลงสนามมากี่นัด หรือยิงประตูไปแล้วกี่ลูก ลดโอกาสความผิดพลาดของบทความเราไปได้เยอะ 3. เทคนิควิเคราะห์การจัดทีม เป็นความยากลำดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะต้องใช้สิ่งที่เรียกว่า ความเก๋า แต่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ขอนำเสนอวิธีลัดการเดาใจผู้จัดการทีมว่าจะจัดตัว และจัดแผนอย่างไรให้ผิดพลาดน้อยที่สุด โดยปกติตัวผู้เล่นจะไม่เปลี่ยนจากนัดล่าสุดมากเท่าไหร่ แต่มีคีย์สำคัญที่ต้องใช้ความสังเกต จากภาพการฝึกซ้อมนักเตะที่จะได้ลงเป็น 11 คนแรก ซึ่งมักจะถูกแยกออกมาซ้อมเป็นกรุ๊ปอย่างชัดเจน ส่วนแผนการเล่นย้อนกลับไปที่ Transfermarkt ในหน้าสถิติหรือ Fixtures จะเห็นการจัดทีมที่ผ่านมา สามารถมองแล้วทราบได้ทันทีว่าผู้จัดการคนนี้ชอบใช้แผนการเล่นอะไร เราจะมองผังนักเตะที่จะลงสนามได้แบบอัตโนมัติ ราวกับว่านั่งอยู่ในใจโค้ชเลยทีเดียว 4. ภาพประกอบบทความ แนะนำ Instagram หรือ Twitter ของสโมสรนั้น เพราะเป็นแหล่งต้นทางที่ค่อนข้างอัปเดต พยายามหลีกเลี่ยงการบันทึกโดยตรงจากเว็บไซต์ข่าวหรือเพจอื่น เพราะอาจมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ตามมาได้ และให้เครดิตท้ายบทความทุกครั้ง การอ้างอิงข้อมูลจากแหล่ง Official ยังทำให้บทความของเราดูน่าเชื่อถือขึ้นอีกด้วย 5. คำนึงถึง SEO ตรงนี้สำคัญสำหรับโอกาสที่จะมีคนค้นหาบทความของเราเจอ จินตนาการย้อนกลับไปว่าเราคือคนอ่าน อยากจะหาข้อมูลของฟุตบอลคู่ ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คีย์ที่เราจะค้นหาใน Google คงหนีไม่พ้นคำว่า ลิเวอร์พูล, หงส์แดง, แมนยู, พรีเมียร์ลีก, แดงเดือด ต้องไม่ลืมที่จะเอาคำเหล่านี้ไปฝังอยู่ในชื่อบทความ หรือย่อหน้าแรกของบทความ เพื่อโอกาสติดการค้นหาหน้าแรก Google มากที่สุด หมายถึงยอดวิวที่จะได้รับกลับมาจากโอกาสที่คนจะมาเจอแล้วกดคลิกเข้าไปอ่าน 6. ตั้งชื่อให้ดึงดูด ขยายความประเด็นที่เรานำเสนอด้วยประโยคสั้น ๆ แต่เรียกคนให้เข้ามาอ่าน ชัดเจนว่าคือบทความอะไรเช่น “เช็ก 11 ตัวจริง! ผีเยือนเบิร์นลีย์ มีเฮ 3 แต้ม” เป็นอันทราบกันว่านี่คือบทวิเคราะห์คู่แมนยู vs เบิร์นลีย์ คนที่กำลังหาข้อมูลคู่นี้อยู่จะมีโอกาสตัดสินใจกดเข้าไปอ่านสูง มากกว่าชื่อบทความที่เค้าเองก็ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับอะไร ธรรมชาติของคนอ่านแนววิเคราะห์ฟุตบอลจะตรงไปตรงมา ชอบอะไรที่มั่นใจว่ามีสิ่งที่อยากรู้ (ใครลงสนาม, ใครจะชนะ) อยู่ในบทความนั้น 7. หลีกเลี่ยงการพนัน ข้อนี้ต้องเน้นย้ำเพราะอย่าลืมว่ายังมี พ.ร.บ.การพนัน เป็นเส้นกฎเกณฑ์ไม่สามารถล้ำได้หากต้องการเผยแพร่ในสื่อใหญ่ทั่วไป คงไม่ต้องอธิบายว่ามีคำอะไรบ้างที่ไม่สมควรอยู่ในบทความ ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้สำคัญเท่าไหร่ เพราะกลุ่มคนที่ต้องการดูเพื่อความสนุกเชียร์ทีมรักยังมีอีกมาก จะว่าแบบตรง ๆ คืออ่านมาขนาดนี้เค้าก็คงรู้กันมาแล้วล่ะ การมี หรือไม่มีข้อมูลเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ถ้าพลาดมาเมื่อไหร่ พ.ร.บ.การพนัน นั้นราคาแพงแน่นอน จึงต้องขอฝากเตือน และเน้นย้ำ 8. แล้วจะรู้ได้อย่างไรหล่ะ ว่าผลการแข่งขันจบแบบไหน ปัญหาโลกแตกที่คอลัมนิสต์กีฬามือใหม่ถามกันมาคือ จะวิเคราะห์ทายผลออกมาอย่างไร? มันมีวลีฮิตที่เป็นอมตะว่า พวกนักวิจารณ์บอลถ้ารู้อนาคตจริงคงไม่มานั่งทำงานกันแบบนี้ มันไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกครับ อย่ากลัวการทายผลสกอร์ผิดแล้วจะมีคนด่า มั่นใจอย่างไรตามความคิดเราให้ใส่ไปตามนั้นเลย แต่ต้องสัมพันธ์เนื้อหาที่ปูมาตั้งแต่ต้นบทความ เช่น ถ้าพยายามอธิบายว่าเบิร์นลีย์ มีปัญหาสารพัด แมนยูแข็งแกร่งทุกขุมกำลัง ท้ายบทความฟันธงว่า เบิร์นลีย์ 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันคงดูแปลกแน่นอน ผลสกอร์ที่คาด ต้องมีคำอธิบายสนับสนุนว่าทำไมถึงเชื่อว่าเป็นแบบนี้เสมอ แล้วเราจะสนุกกับการเขียนบทความฟุตบอล อีกวิธีที่จะทำให้เราคิดหัวข้อเรื่องราวที่จะนำมาเขียนได้ คือการติดตามเกมการแข่งขัน และอ่านข่าวความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาเสมอ เพียงเท่านี้เราจะมีข้อมูลในหัวแบบอัตโนมัติ ช่วยพัฒนางานเขียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ขอเพียงฝึกฝนพยายาม และอดทน ผลลัพธ์ที่ได้ต้องออกมาดีแน่นอน ภาพประกอบโดย ภาพปก (โดยผู้เขียน) / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / Google / ภาพที่ 4