อื่นๆ

ถ้าคุณกำลังจะเรียนมหาลัย เเต่คุณยังนิ่งนอนใจ ระวัง! คุณจะเป็นเช่นเรา

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ถ้าคุณกำลังจะเรียนมหาลัย เเต่คุณยังนิ่งนอนใจ ระวัง! คุณจะเป็นเช่นเรา

เราDek63 ส่วนตัวเราเป็นคนที่ถ้าไฟไม่ลนก้น คือจะไม่มีความกระตือรือร้นเลย เป็นคนที่จริงจังกับอะไรได้ไม่นาน อ่านหนังสือไม่เยอะเเลจัดการเวลาไม่ดี เราจึงอยากให้เรื่องราวของเรานี้ได้เป็นบทเรียนสำคัญ สำหรับหลายคนที่ยังนิ่งนอนใจอยู่ทั้งๆที่เวลาของการสอบเข้ามหาลัยนั้นใกล้เข้ามาทุกวัน หลายคนอาจจะคิดว่า โห!อีกตั้งหลายเดือนกว่าจะถึงการสมัครรอบเเรก ค่อยอ่านก็ได้หนังสือ ถ้าคุณคิดอย่างนั้นคุณคิดผิดอย่างมหันต์เลยล่ะ!!!  เราเชื่อว่าถ้าคุณได้อ่านเรื่องของเราคุณจะต้องเปลี่ยนความคิดทันที

ต่างความต่างความฝันเครดิต: เป็นภาพที่ผู้เขียนเเต่งขึ้นเองโดยใช้แอปhttps://www.canva.com/

เราอยากประกอบอาชีพเป็นพยาบาลทหาร เเต่เราก็สอบไม่ติดวิทย์-คณิตแต่เราติดสายศิลป์ไทย-สังคม-อังกฤษแทน(โรงเรียนเรามีแผนการเรียนนี้) ทำให้เราต้องเปลี่ยนความฝันเเต่เราก็ยังไม่รู้ว่าอยากทำอาชีพอะไร ช่วง ม.ปลาย สำหรับเราสิ่งแวดล้อมรอบข้างทั้งเพื่อนทั้งครอบครัวดีหมดทุกอย่าง ต่อไปช่วงปิดเทอมใหญ่ ม.4 มีเพื่อนหลายคนเริ่มทำพอร์ตกันเเล้ว บางคนก็ตะเวนหากิจกรรม ค่ายวิชาการต่างๆเพื่อนำมาเป็นผลงาน ซึ่งเราก็ได้สมัครไปค่ายของมหาลัยเเห่งหนึ่ง ซึ่งเราก็ได้ค้นพบตัวเองว่าอยากเข้าคณะอะไร สุดท้ายเราเลยค้นหาข้อมูลต่างๆของคณะนั้นเเละหากิจกรรมที่พอจะใกล้เคียงกับคณะนั้น เราตั้งใจทำพอร์ตจนเกือบเสร็จ เมื่อหลายคนรู้ว่าคณะที่เราอยากเข้าคืออะไรก็ต่างพากันพูดวิจารณ์จนทำให้ความตั้งใจของเราลดลงจนเหลือ 0 สุดท้ายคณะที่เราตั้งใจเราก็ไม่ได้ยื่นไปเหตุเพราะความไม่หนักแน่นในใจของเราเอง มันทำให้เรารู้สึกพลาดและเสียใจมาก เเต่เราก็ได้ยื่นที่มหาลัยอื่นไว้ด้วย ไปพร้อมเพื่อน3คนทุกคนติดหมดยกเว้นเรา มันทำให้เราเสียใจหนักอีก (ทุกคนคงเข้าใจความรู้สึกที่เเบบเพื่อนทุกคนไปไกลเเล้วเเต่เรายังอยู่ที่เดิมใช่ไหม) เราจึงตั้งเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนตัวเองในช่วง ม.6

Advertisement

Advertisement

ทุกสิ่งอย่างล้วนมีขอบเขตของมันเสมอเเม้กระทั่งใจคนที่เรารัก

เครดิต: เป็นภาพที่ผู้เขียนเเต่งขึ้นเองโดยใช้แอปhttps://www.canva.com/

ช่วง ม.6 ในช่วงนี้ทุกคนต้องรู้ตัวเองเเล้วว่าอยากเรียนคณะไหนต่อ อยากทำอาชีพอะไรเเละก็เป็นช่วงที่ป้าข้างบ้านเริ่มเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้น ทำให้ความกดดัน ความเครียดเพิ่มมากขึ้น เเต่เรายังไม่รู้เลยว่าเราจะเรียนต่อคณะไหน เรารู้มาว่าในเเต่ละมหาลัยใจเกรดเเค่ 5 เทอม (เริ่มตั้งเเต่ ม.4-ม.6 เทอม 1 ส่วนเกรดม.6 เทอม 2 ไม่ใช้) เราเริ่มอ่านหนังสือมาขึ้นเเน่นอนการบ้านก็มีมากขึ้นเช่นกัน ทำให้เรานอนไม่เพียงพอ เราจึงหยุด!อ่านหนังสือเพื่อมาทุ่มเทกับการบ้านเเละโครงงานต่าง ๆ จนละเลยการอ่านหนังสือนานมาก เวลาในเเต่ละวันดำเนินมาอย่างรวดเร็ว เพื่อนหลายคนเเบ่งเวลาได้ทำไมเราเเบ่งไม่ได้เราคิดแบบนี้มาซ้ำๆเเต่เราก็นิ่งเฉยอ่านนิยาย เล่นเกมส์ มีสอบวันไหนอ่านเเค่หน้าห้องสอบก็พอ เมื่อผลคะแนนออกมาก็ไม่ดีเลยล่ะ เรารู้สึกอายมากกว่าเสียใจเพราะปกติคะแนนเราจะนำโด่งมาตลอด มันทำให้เราหมดกำลังใจต่อมาสอบในหลายๆวิชาคะแนนเราก็เริ่มลดบ้างเพิ่มบ้าง จนถึงช่วง ม.6 เทอม 2 เราคิดว่าเทอมนี้เกรดไม่สำคัญกับมหาลัยเราก็เลยปล่อยเลยตามเลย ซึ่งเราคิดผิดมาก!!อย่าทำตามเราล่ะเราก็เลยเปลี่ยนตัวเองอีกครั้ง

Advertisement

Advertisement

ม.6 เทอม 2 มีทั้งงานบ้าน การบ้าน รายงาน สอบกลางภาค สอบปลายภาค สอบเก็บคะแนนรายวิชา (ซึ่งเราไม่ซีเรียสมาก) ต่อมาสอบ O-net Gat-Pat และ 9 วิชาสามัญ (คะแนนส่วนนี้ใช้ยื่นมหาลัยด้วยตั้งเเต่รอบ2เป็นต้นไปนะ) ซึ่งเวลามันใกล้กันมากจนทำให้เราอ่านหนังสือไม่ทัน ช่วงเวลาที่เราว่างเราก็ทำตัวไร้สาระไปวันๆ เหลือเวลา 1 วันก่อนสอบ O-net เราก็อ่านวันนั้นแหละ5วิชาเลย เเต่คิดเหรอว่าจะทัน หึ!อ่านดึกจนเบลอ เมื่อเข้าห้องสอบก็ไปหลับ เราเกลียดตัวเองมากที่ไม่คิดจะอ่านหนังสือ ต่อมาgatpatในการสอบนี้เราเตรียมตัวมาดีเลยไม่มีปัญหา ต่อมา 9 วิชาสามัญซึ่งในรอบ 2 ที่เรายื่นมหาลัย คะแนนส่วนนี้สำคัญมาก ๆ เราคิดว่าจะอ่าน 5 วันสุดก่อนสอบ ผลจะเป็นยังใงเราก็ยังไม่ทราบเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงกำหนดการสอบ เมื่อเรารู้เป้าหมายเราเเล้วเราก็ตั้งใจทำมันให้ดีที่สุด (กว่าเราจะรู้ว่าอยากเรียนอะไรก็นานเหมือนกัน ยินดีกับคนที่รู้ความชอบของตัวเองเร็วด้วยนะ)

Advertisement

Advertisement


ดังนั้นประเด็นหลักที่เราจะบอกเลยคือ

1. ต้องมีเป้าหมายที่เเน่นอน

2. อย่าหวังน้ำบ่อหน้า คิดอะไรก็ลงมือทำเลย

3. ความรับผิดชอบเเละการเเบ่งเวลาเป็น นั้นสำคัญมากๆ

4. อ่านทบทวนข้อสอบเก่าบ่อยๆ เมื่อเราสอบจริงจะมีหลายข้อมากที่คล้ายกับข้อสอบเก่า

5. พักก่อนการเล่นโทรศัพท์ ดูหนัง เมื่อเราทำทุกอย่างสำเร็จ เรามีเวลาอีกหลายเดือนก่อนไปมหาลัยจริง ช่วงนั้นค่อยเต็มที่กับโทรศัพท์

6. อย่าเลือกคณะตามเพื่อนเพียงเพราะไม่มีใครไปด้วย

7. เชื่อในตนเอง เรารักเราชอบอะไรเราก็จะทำสิ่งนั้นได้ดี

8. สู้ ๆ เเล้วเรามาพยายามไปด้วยกันนะ

เราทำได้เเน่เครดิต: เป็นภาพที่ผู้เขียนถ่ายเองเเละใช้แอปhttps://www.canva.com/ในการตกแต่ง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ศิริวีระ
ศิริวีระ
อ่านบทความอื่นจาก ศิริวีระ

จะเป็นทั้งนักอ่านเเละผู้เขียนที่จะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์