สวัสดีจ้าาาา วันนี้เราอยากจะพาเพื่อน ๆ ไปพบกับหัวข้อที่มีชื่อว่า 10 things you better know before traveling to USA จริง ๆ เราไม่อยากเรียกมันว่า Culture shock เพราะเราไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือไม่มีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ นี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นการแนะนำและแชร์ความรู้และประสบการณ์ที่เรามีโอกาสได้ไปเจอมา จะแปลกหรือเหมือนไทยแลนด์บ้านเราไหม ไปดูกันเล้ยยยย1. Tipping culture แน่นอนว่าการให้ทิปในบ้านเรานั้นไม่ค่อยจะมีให้เห็นกันมากนัก แต่ที่อเมริกานั้นเขาให้กันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเลยจ้า มีกำหนดขึ้นต่ำไว้ด้วยว่าอย่างน้อยต้อง 15% ของค่าอาหาร จริงๆ 10% ก็พอได้ แต่คนอเมริกันนิยมให้ 15-20% โดยเฉพาะเวลาเราไปกินที่ร้าน หรือที่เรียกว่า dine in เขาก็จะบริการเราอย่างดี ซึ่งการให้ทิปก็ถือเป็นตอบแทนการบริการนั่นเอง ส่วนถ้าเป็นการซื้อกลับ หรือ take out อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความใจดีของบุคคลนั้นเลย ไม่จำเป็นต้องทิปก็ได้ หรือจะทิปก็ไม่เสียหายจ้า2. Sales tax is applied เวลาเราซื้อของทุกอย่างในอเมริกานั้นไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม ราคานั้นจะเป็นราคาที่ยังไม่รวม tax ซึ่งแต่ละรัฐจะมี sales tax ที่ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็น grocery store, pharmacy หรือแม้แต่ในร้านอาหารต่าง ๆ ก็ตาม เช่น sales tax ของ washington dc จะอยู่ที่ 6% ดังนั้นหากเราซื้อของราคา $100 in total ที่เราต้องจ่ายก็คือ $106 นั่นเองค่ะ เพราะฉนั้นแล้วจะซื้ออะไรต้องคำนวนดี ๆ น้าาา 3. Must be 21 for clubs and drinking ใช่แล้วจ้า ต้องอายุ 21 ปีขึ้นไปถึงจะเข้าคลับและดื่มแอลกอฮอร์ได้ ซึ่งเราถือว่าโชคดีที่ไปที่นั่นตอนอายุ 22 ฮ่า ๆ ที่นี่เขาตรวจบัตรกันจริงจังมากค่ะทุกคน ยิ่งพอเราเป็น Asian ที่ส่วนมากหน้าจะเด็กกันอะ โอ้โหทั้งขูดบัตรดูว่าของจริงหรือเปล่า ไหนจะส่องไฟฉายมาที่หน้าเพื่อจับผิดอีก ต้องยอมเขาเลย 4. (Almost) Everything is returnable เมื่อพูดถึงประเทศนี้เราก็ต้องไปช้อปปิ้งใช่ไหมม และเมื่อเราซื้อมาแล้วไม่ชอบ เราก็ต้องการเอาไปคืน ซึ่งที่นี่เองเป็นอะไรที่ง่ายมาก แค่เราไม่แกะ price tax ออก ยังไม่ใช้ และยังเก็บใบเสร็จไว้ ทุกอย่างสามารถนำไปเปลี่ยนหรือคืนเพื่อ refund ได้อย่างง่ายดาย โดยที่เขาจะไม่มาเซ้าซี้เอาคำตอบว่าเหตุผลที่คืนคืออะไร ส่วนมากเราจะสั่งเสื้อผ้าออนไลน์มาลองที่บ้าน แล้วพอใส่ไม่ได้ก็ส่งคืน หลังจากนั้นเราก็จะได้รับ refund เยี่ยมยอดสุด ๆ ไปเล้ยย5. Self service... อเมริกาเป็นประเทศที่สนับสนุนให้เราบริการตัวเองค่ะ หากเพื่อน ๆ ไปที่ grocery store นอกจากเราจะสามารถนำของไปวางที่เคาท์เตอร์จ่ายเงินกับแคชเชียร์ได้แล้ว เขายังมี self checkout ให้เราสามารถจ่ายเงินด้วยตัวเองได้อีกด้วย สะดวก รวดเร็วสุด ๆ และการเติมน้ำมันก็เช่นกันที่ส่วนมากเราต้องบริการตัวเอง เติมเอง จ่ายเงินเอง รูดบัตรง่าย ลื่นปื้ดกันเลยทีเดียว ที่นี่จะเป็นสังคม cashless ด้วยนะทุกคน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ใช้เงินสดกันนะ แต่ส่วนมากจ่ายบัตรมันง่าย ไม่ต้องนับแบงค์หรือเหรียญให้เสียเวลาลาเลย อีกอย่างไม่มีกำหนดขั้นต่ำในการใช้บัตรด้วย 6. Pizza or burger? สองอย่างนี้เรียกว่าเป็นอาหารที่คนอเมริกันนิยมทานเมื่อพูดถึงอะไรที่ง่ายแล้วก็เร็ว เพราะมันก็คือ fast food ใช่ไหมล่ะทุกคน grab and go คือจบ ว่าแต่เขาทานพิซซ่าใส่ซอสเหมือนเราไหม? ตอบเลยว่าไม่ค่ะ เราไม่ค่อยเห็นคนที่นี่ราดซอสบนพิซซ่าแบบบ้านเราเลย นั่นเอาจะเป็นเพราะเขาต้องการลิ้มรสความเป็นพิซซ่าอย่างแท้จริง เพราะจริง ๆ พิซซ่าแต่ละหน้าก็ให้รสชาติที่แตกต่างกันอยู่แล้ว และเบอร์เกอร์เองสำหรับเราก็หาร้านที่รสชาติดีถูกปากได้ยากเหมือนกันนะ ไม่ใช่ทุกร้านที่ขนมปังจะเด็ด เนื้อจะดี ชีสจะเยิ้ม เห้อ เรื่องของกินนี่มันพูดยากจริง ๆ7. Spectacular national parks ถ้าพูดถึงอุทยานแห่งชาติของที่นี่นะ พูดไม่ออกเลยฮะ มันสวยเกินบรรยาย มันเหมือนเราหยุดหายใจไปชั่วขณะ ถึงแม้เราจะไปมาไม่กี่ที่ แต่รับประกันเลยว่าสวยและตกหลุมรักทุกที่เลย นี่เป็นอีกเหตุผลที่เราอยากกลับไป road trip ที่นั่นอีก เพราะมีอีกหลายอุทยานที่เราอยากไปและยังไม่ได้ไป จะว่าไปย้ายไปอยู่ที่นั่นเลยน่าจะเวิร์คกว่า แต่นั่นก็มองไม่เห็นความเป็นไปได้อีก ฮ่า ๆ8. Do you see stop signs? หรือก็คือ ป้ายให้สัญญานหยุดตามถนนในตรอก ซอก ซอย เพื่อบอกให้รถหยุดดูว่ามีคนจะข้ามถนนหรือเปล่า ไม่เพียงแค่ชะลอนะ ต้องหยุดเลย เป็นกฏหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพราะคนที่นี่มักจะให้คนข้ามถนนไปก่อน ต่างจากบ้านเราที่รถมักจะต้องการไปก่อน เพราะฉนั้นการข้ามถนนที่นี่จึงให้ความรู้สึกปลอดภัย และรถที่นี่จะขับเลนขวานะทุกคน พวงมาลัยและคนขับจะอยู่ด้านซ้าย หากว่าใครขับรถเป็นอยู่แล้วจะปรับตัวได้ไม่ยากเลย9. Super expensive healthcare สิ่งที่สำคัญมากในการไปเที่ยวหรือไปอยู่ประเทศนี้ก็คือ เราต้องมีประกันสุขภาพค่ะ เพราะค่ารักษาพยาบาลที่นั่นแพงหูฉีกมาก ถ้าเป็นอะไรต้องเข้าโรงพยาบาลหรือผ่าตัดขึ้นมา ล้มละลายได้เลยทีเดียวนะ เราเองขนาดว่ามีประกันไป urgent care คล้าย ๆ คลีนิคบ้านเรา ไปให้หมอเช็คเพราะลมพิษขึ้นตัว พบหมอแป๊บเดียวเท่านั้นไม่ถึง 15 นาที โดนชาร์จ $400 คิดเป็นเงินไทยก็เหยียบหมื่น โดยประกันช่วยเราจ่ายส่วนหนึ่ง เราถึงบอกว่าสำคัญมาก ๆ เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับเราบ้างในต่างที่แบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ได้เป็นอะไรมากและรู้ว่าต้องใช้ยาอะไรก็ไปซื้อที่ pharmacy ได้ แต่ก็จะมียาบางตัวที่เราต้องยื่นใบรับรองแพทย์ด้วย 10. Clothes dryers is life saver! เมื่อการตากผ้าไม่จำเป็นอีกต่อไป ที่นี่มีเครื่องอบผ้าทุกบ้าน หรือบ้านไหนไม่มีก็มีเครื่องยอดเหรียญให้ใช้บริการ เรียกว่าไม่ต้องรอดูฝนฟ้าอากาศ ไม่ง้อแดด ไม่ต้องสะบัด ไม่ต้องตากกันไปเลยจ้าาา โยนเข้าเครื่องปุ๊บ ไปทำอย่างอื่น กลับมาผ้าแห้งเก็บเข้าตู้ได้เลย ชีวิตสะดวกสบาย และง่ายขึ้นเยอะเป็นยังไงกันบ้างคะทุกคนนน เรามองว่าแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ ให้ได้เราถึงจะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข มีใครเคยประสบพบเจอข้อไหนกับตัวกันมาบ้าง มาแชร์กันได้น้าา