คาดว่าหลายคนคงเคยดู The Kissing Booth ภาคแรกเมื่อปี 2018 กันมาแล้ว เรื่องราวของเพื่อนสนิทระหว่างแอลกับลีที่ซี้กันมามาก แม่ทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนสนิทกันอีกด้วย โดยทั้งแอลและลีตั้งกฎต่างๆ ไว้ จุดเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ภาคแรกคือซุ้มขายจูบ เรื่องราวระหว่างเพื่อนและความรักที่คนใดคนหนึ่งต้องแหกกฎ และจะลงเอยอย่างไร ?? ใครที่ยังไม่เคยดูต้องอย่าพลาดค่ะกลับไปดูภาคแรกมาก่อนเลย ส่วนที่จะแนะนำวันนี้คือภาค 2 ที่เพิ่งฉายไปไม่กี่วันนี้เอง เดอะ คิสซิ่ง บูธ 2 เรื่องราวระหว่างเพื่อนที่สนิทกันโตมาด้วยกัน เรียกได้ตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา แต่เมื่อลีมีแฟนและแฟนของเขาต้องการเวลาส่วนตัวเพื่ออยู่กับลีแค่ 2 คนบ้างโดยที่ไม่มีแอลตลอดเวลา เรื่องนี้ลีจะตัดสินใจบอกเพื่อนสนิทอย่างแอลอย่างไร และนี่เป็นชีวิตมัธยมปีสุดท้ายของพวกเขาซึ่งเคยตกลงกันไว้ว่าจะไปต่อมหาลัยเดียวกัน แต่แอลกลับมีเป้าหมายใหม่เมื่อเธอมองหามหาลัยนอกเหนือจากที่คุยกันไว้ ทั้งคู่จะสามารถกลับมาเข้าใจและเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิมได้ไหม นอกจากเรื่องราวของเพื่อนไปแล้วแอลยังต้องเจอปัญหารักระยะไกลอีก เมื่อโนอาห์แฟนหนุ่มของเธอต้องเรียนต่อมหาลัยที่เมืองอื่นโดยทั้งคู่เริ่มห่างกันคุยกันน้อยลง ปัญหาครั้งนี้ก็เริ่มขึ้นเมื่อหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของโนอาห์เป็นหญิงสาวที่ดูจะสนิทสนมกับโนอาห์มากเป็นพิเศษ หลายอย่างที่แอลเจอเริ่มทำให้รู้สึกไม่สบายใจ หนักสุดคือไปเจอบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เธอคิดว่าโนอาห์นอกใจเธอแน่ๆ ภาคนี้บอกเลยว่านางเอกที่ร่าเริงตลอดเวลาต้องมีฉากเสียน้ำตา หลายๆ อย่างทำให้แอลต้องใกล้ชิดกับมาร์โคเพื่อนร่วมชั้นที่เข้ามาใหม่ เธอที่กำลังมีปัญหากับโนอาห์แล้วต้องมาเจอหนุ่มหล่อที่สาวๆ ก็ต่างพากันกรี๊ดคอยมาช่วยมาเป็นกำลังใจให้เธอ เธอจะห้ามใจตัวเองไม่ให้เกินเลยไปมากกว่านี้ได้ไหมและเมื่อมาร์โคเองก็เริ่มที่จะรู้สึกกับเธอมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นไปแล้ว แอลจะจัดการกับปัญหาทั้งเรื่องเพื่อนและเรื่องความรักของเธออย่างไร และภาคนี้ยังมีซุ้มจูบที่ถูกจัดขึ้นในงานโรงเรียนเหมือนเดิม และตอนจบหนังยังทิ้งท้ายเรื่องการเลือกมหาลัยของแอล ซึ่งแน่นอนว่ามี The Kissing Booth ภาค 3 แน่นอนที่จะฉายในปี 2021 ใครที่ยังไม่ได้ดูก็อย่าพลาดนะคะ สำหรับเราคิดว่าภาค 1 ดีแล้วแต่พอมาดูภาค 2 สนุกยิ่งกว่าเดิมอีก ลองหาดูกันนะคะรับชมกันได้แล้วทาง Netflix ♥ ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Netflix