เครื่องดื่มสุดฮิต ที่มีชื่อว่าโกโก้ เป็นเครื่องดื่มที่มีมาตั้งแต่สมัยชาวอเมริกาโบราณ ที่ผ่านขั้นตอนกระบวนการทำมาหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเก็บเกี่ยวผลโกโก้ การแกะเมล็ด และนำเมล็ดไปหมัก จากนั้นก็ค่อยคั่วเมล็ด และนำไปบด แต่ก่อนเคยเป็นเครื่องดื่มของชนชั้นสูง ที่สามารถพบเห็นได้ในงานพิธีการต่างๆ และเป็นโอกาสพิเศษ ที่สามัญชนจะได้ไปลิ้มลองรสชาติของโกโก้ ภาพโดย gate จาก pixabay.com แต่เดิมเครื่องดื่มนี้มีชื่อเรียกว่าคาเคา (kakaw) ณตอนนี้ ยังไม่มั่นใจว่าชาวอเมริกาคนแรกที่คิดค้นคือใคร แต่ยังมีหลักฐานชิ้นแรกที่นักโบราณคดีค้นพบ การเตรียมของชาวมายาโบราณ คือ ภาชนะเครื่องดื่มที่มีอายุ 600 ปีก่อนคริสกาลมีสารเรียกว่า ธีโอโบรมีน (the obromine) หลงเหลืออยู่ นอกจากนั้นยังมีข้อพิสูจน์ที่ว่า มีภาพวาดของชาวมายาโบราณ ที่วาดภาพ คนกำลังดื่มโกโก้ ทำให้นักโบราณคดีมั่นใจเรื่องนี้ โกโก้ของชาวมายาจะมีรส ขมเฝื่อน และได้รับการปรับแต่งเล็กน้อยด้วยวนิลาอบเชย และมีการใส่พริกลงไปด้วย มันอาจจะเป็นรสนิยมที่แปลก แต่มันจะปกติสำหรับชาวมายา ชาวมายาจะกินโกโก้ในแบบเย็นและมีฟองอยู่เต็มแก้วภาพโดย RitaE จาก pixabay.com ในศตวรรษที่ 16 ชาวสเปน ที่เข้ามาบุกประเทศ ได้ลิ้มรสโกโก้ เนื่องจากว่าพวกเขาไม่ชอบ เขาจึงนำน้ำตาลอ้อยไปผสมกับเครื่องดื่ม และได้รสชาติที่หวาน และอีกทั้งชาวสเปนจะดื่มโกโก้ร้อน ซึ่งต่างจากชาวมายาภาพโดย Sabrina_Ripke_Fotografie จาก pixabay.com หลังจากนั้นชาวสเปนได้นำเมล็ดโกโก้ไปปลูกแถบยุโรป และไม่นานก็ได้เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตแถบยุโรป ในศตวรรษที่ 18 ต่อมา ในปีคริสตศักราช 1847 โจเซฟ ฟราย (joseph fry) ได้นำโกโก้ไปผลิตเป็นรูปแท่ง ทำให้กลายเป็นขนมหวานที่เราคุ้นเคย ที่เราเรียกกันว่าช็อกโกแลต ซึ่งช็อกโกแลตที่เรามักจะได้ยิน แบ่งออกได้เป็น 3 แบบใหญ่ๆ ได้แก่ดาร์กช็อกโกแลต ประกอบด้วยน้ำตาล เนยโกโก้หรือ ไขมันที่ได้จากเมล็ดโกโก้ ที่คั้นจากเมล็ดโกโก้บดละเอียด ไปผสมกับวนิลาไวท์ช็อกโกแลต ประกอบด้วย น้ำตาล ไขมันที่ได้จากเมล็ดโกโก้ นมหรือนมผง และ วนิลา โดยจะไม่มีการใส่น้ำที่คั้นจากเมล็ดโกโก้บดละเอียดมิลค์ช็อกโกแลต เป็นการเพิ่มนมหรือนมผงเข้าไปในดาร์กช็อกโกแลต ภาพปกโดย HuaHinTown_Snap จาก pixabay.comภาพโดย AlexanderStein จาก pixabay.com