ฉันเป็นเชฟและอาศัยอยู่ในลอนดอนหลายปี พักร้อนแต่ละครั้งก็ต้องหาที่ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา ทุกครั้งจะมีสถานที่ที่อยากเห็นเป็นปัจจัยหลักเพราะชอบถ่ายรูป แต่กับโปรตุเกสนี้ต่างไป ขนมหวานของนางต้นเครื่องชื่อมารีอา กียูมาร์ ดึ ปีญา ในสมัยอยุธยาตอนปลายที่เรารู้จักในชื่อท้าวทองกีบม้าคือสิ่งที่ทำให้ฉันเลือกไปโปรตุเกส ภาพถ่ายโดยผู้เขียน เวลา7วันในลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส เป็นช่วงเวลาดีๆที่น่าประทับใจ ผู้คนน่ารักและเมืองก็มีสีสันมาก ฉันทำกิจกรรมชมเมืองด้วยรถรางสลับการการเข้าออกร้านอาหาร-ร้านขนม อาชีพเชฟทำให้ฉันมีความสนใจเรื่องของกินมากกว่าปกติ แล้วก็พบว่าทาร์ตไข่นั้นมีอยู่ทุกหัวมุมถนน สนนราคาตั้งแต่35เซ็นต์ไปถึง1ยูโรกลางๆ รสชาติไม่ต่างกัน แม้แต่ร้านดังPastéis de Belémที่มีคนต่อแถวยาวราวกับแจกฟรี ก็ไม่ได้อร่อยแปลกไปมากมายแต่อย่างใด ฉันส่ายตามองหาขนมของท้าวมองกีบม้าอยู่หลายวัน และเกือบจะคิดว่ามันอาจจะไม่ได้มีอยู่อีกแล้ว ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เดินผ่านร้านขนมใหญ่โตบนถนนที่ทอดไปสู่จตุรัสPraça do Comércio (ปราซาดูกูแมร์ซียู) มันเป็นความรู้สึกแปลกใจปนดีใจ เจ้าสิ่งที่ฉันอยากเห็นนั้นมีหน้าตาไม่ต่างไปจากทองหยอดและฝอยทองที่เมืองไทยเลย หากแต่ว่ามันมีขนาดใหญ่โตกว่ามากเท่านั้นเอง ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ฉันจ่ายค่าทองหยอดไปชิ้นละ2.80ยูโร (Ovos Moles de Aveiro / โอวุสมอลีช เดอ อาไวโร) และฝอยทองละ3.50ยูโร (fios de ovos / ฟียุช เดอ โอวุส) ทันทีที่รับเอาทั้งสองสิ่งมาไว้ในมือก็พบว่ามันมีน้ำหนักมาก และมองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าจะหวานจนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของฉันมีปัญหาแน่ มันฉ่ำเงาและมีน้ำเชื่อมซึมออกมา แต่ฉันก็กินมันอยู่ดี เริ่มจากทองหยอดยักษ์ที่กัดเข้าไปแล้วน้ำเชื่อมแตกกระจายในปาก ไหลลงสู่ลำคอ ใช่...มันหวานจนแสบคอ ฉันคายมันลงถังขยะพร้อมกับส่วนที่เหลือ ดื่มน้ำจากขวดที่พกไปเพื่อกลั้วปาก มันหวานเกินกว่ามนุษย์อย่างฉันจะกลืนลงได้ รู้สึกผิดหวังหน่อยๆแล้วในตอนนี้ แต่ฝอยทองนั้นดูไม่ฉ่ำเท่าทองหยอด มันอาจจะดีกว่าก็ได้ แล้วฉันก็ส่งมันเข้าปาก กันคำเล็ก ๆ แบบเกรงใจ อืม...ดีกว่า มันหวานมากกว่าของไทยนะ แต่พอได้ ฉันกินหมดชิ้นนั้นแล้วก็นึกกับตัวเองว่า...เป็นเรื่องดีแล้วที่ฉันหาทองหยิบไม่เจอ ระดับความหวานขนาดรถน้ำตาลคว่ำนี้อาจจะทำให้ฉันต้องพบแพทย์ ใครที่เคยสงสัยเรื่องขนมของท้าวทองกีบม้าในเวอร์ชั่นโปรตุเกสจะหน้าตาเป็นอย่างไร ก็คงหายสงสัยแล้วนะ ส่วนตัวคิดว่าขนมพวกนี้ที่เมืองไทยอร่อยกว่าด้วยที่ว่ามันไม่ได้หวานมาก และแอบคิดต่อไปว่าท้าวทองอาจจะสินให้คนไทยทำทาร์ตด้วย แต่ไม่ใช้แป้งเพสตรี้เลยกลายมาเป็นสังขยาที่กินกับข้าวเหนียวมูนหรือเปล่าหนอ