ช่วงกักตัวหยุดอยู่บ้านเพื่อหมอ เพื่อชาติ ถ้าไม่ใช่สายแดนซ์ ก็คงเป็นสายเชฟกันไปเลยค่ะชั่วโมงนี้ ช่วงนี้ผู้เขียนก็จะวนเวียนอยู่กับการทำอาหารทำได้ทุกประเภทแต่ที่ถนัดที่คงเป็นอาหารอีสานหรือผู้เขียนชอบเรียกว่าอาหารภูธรนั้นเองและก็มั่นใจสุด ๆ ว่าทำอร่อยที่สุดในโลก เพราะกินคนเดียว ฮ่าฮ่า!..ไม่ใช่ มีหลายคนบอกแล้วว่าอร่อยจริง ๆ ค่ะ เมนูนี้จัดว่าเป็นเมนูเปิปพิสดารกันเลยทีเดียวถ้าใครไม่ใจจริง ๆ คงไม่กล้าทานเป็นแน่เพราะมันคือ “แจ่วปลาร้าต่อน” “ต่อน” เป็นภาษาอีสาน คงจะเพี้ยนมาจากตัวปลาแดก ปลาร้านั่นเอง จริง ๆ แล้วเมนูนี้ก็มีความพิถีพิถันในการทำนะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นพริก หอมแดง กระเทียม เราต้องนำไปเผาไฟก่อนเพื่อความหอม หลังจากนั้นนำปลาร้าไปหมกใส่ใบตองเผาไฟเช่นกันเพื่อให้ปลาร้าสุกและปลาร้าก็จะหอมกับกลิ่นใบตองแต่ถ้าใครชอบทานแบบปลาดิบเหมือนแดนซามูไร เหมือนญี่ปุ่นก็สามารถทานได้เช่นกันค่ะ ก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่งแต่ผู้เขียนชอบแบบสุก ๆ เริ่มตำน้ำพริกปลาร้าก่อนเลย เอาพริก กระเทียม หอมแดง ตำให้ละเอียด จากนั้นใส่ปลาร้าลงไปคลุกให้เข้ากันใส่ผงนัวลงไปนิดหนึ่งเพื่อเพิ่มรสชาติเป็นอันเสร็จเรียบร้อย “เมนูปลาแดกต่อน” หรือ “แจ่วปลาร้าตัว” รสชาติแซ่บนัวเอาข้าวเหนียวร้อน ๆ มาจิ้มทานกับผักสดโอ้ย! แซ่บหลาย อีกหนึ่งเมนูที่จะขอนำเสนอเมนูนี้เธอเป็นซิกเนเจอร์ของอาหารอีสานหรืออาหารภูธรที่ผู้เขียนเรียก เมนูนี้คือ “แกงเปรอะหน่อไม้” หรือ “แกงหน่อไม้” ทำไมถึงเรียกแกงเปรอะเพราะแน่นไปด้วยผักใส่เครื่องปรุงเยอะจนเปรอะไปหมด คนภาคกลางจะเรียกแกงเปรอะหน่อไม้ ส่วนอีสานบ้านข่อยจะเรียกแกงหน่อไม้ ใส่น้ำยานาง ใส่ข้าวเบือ เมนูนี้อัดแน่นไปด้วยผักนานาชนิดสมุนไพรครบเครื่องถ้าถึงฤดูมีไข่มดแดงก็จะใส่ไปด้วย ใส่เห็ดฟาง เห็ดขอนขาว เห็ดนางฟ้านางลมใส่ได้ทุกเห็ดเลยค่ะ เพื่อเพิ่มความอร่อยใส่บวมหอมอีกด้วยนะคะที่สำคัญอย่าลืมใส่ลูกโดดนะคะความเผ็ดความนัวความแซ่บมันอยู่ตรงลูกโดดนี้แหละค่ะ เจ้าลูกโดดก็คือพริกอ่อนเม็ดสีเขียวพอเวลาซดเข้าปากผู้กินจะไม่รู้ว่าคือลูกโดดเพราะผักสีเขียวจะกลบไปหมดพอตักเข้าปากแล้วเคี้ยว โอ้ว!! มันเผ็ดจนน้ำหูน้ำตาไหลกันเลยทีเดียวค่ะ อีกเมนูที่ขาดไม่ได้เลย กินได้ทุกมื้อกินได้ทุกเวลาเป็นอาหารที่ต้องมีในมื้ออาหาร “ตำหมากหุ่ง” หรือ “ส้มตำ” นั่นเองค่ะ ผู้เขียนตำหมากหุ่งเหิ่ม คำว่า หมากหุ่งเหิ่ม แปลว่า “มะละกอห่าม” นะคะ ให้เพื่อน ๆ ได้ทานกันกินกับข้าวปุ้น หรือ ขนมจีน นัวหลาย ๆ ผู้เขียนและเพื่อน ๆ ลงทุ่งไปกินอาหารที่ทุ่งนาเพื่อหาหน่อไม้ตามริมห้วยหนองคลองบึงมาแกง วิถีชีวิตของคนภูธรกินง่าย อยู่ง่าย ไม่หรูหราแต่มีความสุข ชีวิตเรียบง่ายสบาย ๆ อาหารก็หาจากตามป่าตามเขารับรองไร้สารพิษแน่นอน เวลาเพื่อนผู้เขียนมาเที่ยวบ้านแทบไม่อยากจะกลับเพราะเป็นวิถีชีวิตที่ไม่วุ่นวายและหลายคนก็โหยหาความธรรมดา แต่ด้วยภาระหน้าที่ก็ต้องไปต่อสู้ดิ้นรนกันต่อไป...พร้อมเมื่อไหร่ค่อยตามข่อยมากินอาหารภูธรเด้อค่ะเด้อ ขอบคุณภาพถ่ายและภาพปกโดย facebook อนงรักษ์ ต้นยวด เรื่องโดย ผู้เขียน นามปากกาสาวภูธร