ไม่ว่าจะลงมือทำอะไรก็ตาม เราต้องรู้ก่อนใช่มั้ยคะ ว่าเป้าหมายคืออะไร เพราะถ้าหากไม่มีการตั้งเป้าหมาย พอทำไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็อาจจะหลงทางเสียแรง เสียเวลาเปล่าๆ วันนี้จะมาแนะนำวิธีตั้งเป้าหมายอย่างฉลาด (SMART) กันค่ะคำว่า SMART เป็นตัวย่อของหลักการตั้งเป้าหมายตามนี้ค่ะS = Specific เจาะจง / M = Measurable วัดผลได้ / A = Achievable ทำได้ / R = Realistic อยู่บนโลกความจริง / T = Timely มีกรอบเวลาเรามาดูความหมายทีละคำกันนะคะSpecific - จำเพาะเจาะจง ระบุให้ได้ว่าต้องการทำอะไร ทำไมต้องทำ แล้วจะทำอย่างไรMeasurable - วัดผลได้ คือมีวิธีวัดผลงาน และมีมาตรฐานหรือจุดที่ทำให้รู้ว่าผลงานที่ได้นั้น ตรงกับความต้องการของเราหรือยังAchievable - ทำได้ เป้าหมายควรเป็นสิ่งที่ทำให้สำเร็จได้ แต่ต้องไม่ง่ายจนแทบไม่ต้องพยายาม หรือ ยากเกินไปจนเคร่งเครียดRealistic - อยู่บนโลกความจริง การตั้งเป้าหมายที่ดูเหมือนเพ้อฝันไม่ใช่สิ่งผิดค่ะ แต่ก็ไม่ใช่วิธีที่ SMART เป้าหมายควรมีเหตุผลรองรับบ้าง เพื่อให้พอเห็นความเป็นไปได้ Timely - มีกรอบเวลา เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า ดังนั้นในการทำอะไรก็ควรกำหนดช่วงเวลาด้วยค่ะ ว่าจะทำสิ่งนี้ให้เสร็จเมื่อไร ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายอย่าง S.M.A.R.Tบริษัทต้องการเพิ่มยอดขาย 30% ภายใน 6 เดือนผมอยากทำงานโปรแกรมเมอร์ในบริษัทที่เป็น Software House หลังจากผมเรียนจบคอร์สสอนการเขียนโปรแกรมฉันต้องการมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท ไว้ใช้เมื่ออายุ 60-80 ปี ดังนั้นฉันต้องเก็บเงินให้ได้ 20,000 x 12 x 20 = 4,800,000 บาท ก่อนอายุ 60 ปีจะเห็นว่าตัวอย่างข้างต้นระบุเจาะจงว่าต้องการอะไร เท่าไร เมื่อไร และจะทำอย่างไรบ้าง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เหล่านี้เป็นการตั้งเป้าหมายอย่างฉลาดค่ะ เราสามารถนำหลักการนี้มาใช้ในการตั้งเป้าหมายในเรื่องต่างๆ ได้หมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนชีวิต การทำธุรกิจ การทำงาน เพราะถ้าเราเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายอย่างฉลาด และ ลงมือทำอย่างพากเพียรแล้ว จะส่งผลทำให้เราประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ ได้แน่นอนค่ะเครดิตรูปภาพ https://www.freepik.com/ภาพปก / รูปประกอบ 1 / รูปประกอบ 2 / รูปประกอบ 3