4 ตุลาคม 2563 เวลาบ่ายโมง ท้องฟ้าไม่สดใส มีเฆมฝนครอบคลุมไปทั่ว แสงแดดแทบไม่สามารถทะลุลงมาได้เลย ผมนั่งประจำหน้าที่พลขับ สาว ๆ ทยอยขึ้นรถ "หนูรู้สึกเหมือนว่าเรากำลังเดินทางไปบุรีรัมย์เลย" ดาต้าลูกสาวคนเล็กพูดขณะก้าวเท้าขึ้นรถ นางเปรย ๆ มาหลายวันแล้วว่าอยากเดินทางไปต่างจังหวัดบ้าง แต่ก็นั่นแหละนะ สถานการณ์อะไรมันก็ไม่เป็นใจในขณะนี้ และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการเดินทางไกลของบ้านเราในเวลานี้ แต่ตามประสาเด็กก็คงไม่เข้าใจอะไรได้ไปมากกว่านี้ เราหมายถึงผมกับภรรยา จึงคิดและวางแผนกันแล้วว่าต้องมีกิจกรรมออกนอกบ้านบ้าง แต่เชื่อไหมถึงวินาทีที่ล้อรถเริ่มหมุ่นแล้วนั้น ผมก็ยังไม่ได้ปักหมุดการเดินทางว่าควรจะไปทางทิศใด รู้แค่ว่าไม่ควรเดินทางผ่านกรุงเทพฯ เอาแค่ชานเมืองก็พอแล้ว "ลองหาดูหน่อยว่าใกล้ ๆ แถวนี้มีตรงไหนน่าสนใจบ้าง เอาแถวฉะเชิงเทราก็ได้" ผมพูดกับภรรยาขณะขับรถออกจากหมู่บ้าน ภรรยาผมก็ก้มหน้าก้มตาหาข้อมูลผ่านหน้าจอมือถือ "เอ๊ะ! หรือว่าไปตลาดน้ำปีกกากันไหม" ผมเสนอ เพราะคิดขึ้นมาได้ว่าเลยคลองด่านไปไม่ไกล มีตลาดน้ำแห่งนี้อยู่ ผมขับรถผ่านบ่อย ๆ เวลาทำงาน ภรรยาพยักหน้าเห็นด้วย "งั้นเราแวะกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหม้อดินนายกรกันก่อนนะ ดูสิหน้าสนใจนะ" เธอเสนอมา พร้อมกับยื่นมือถือให้ดูเพจที่มีการรีวิวร้านไว้ ผมก็ไม่ได้ขัดอะไร จึงปักหมุดตั้งเข็มทิศไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ว่านั่น ที่สำคัญอยู่บนเส้นทางเดียวกันเสียด้วย "เอ้า อยู่ที่เดียวกับตลาดสดคลองด่านเลยนี่" ผมเปรยขึ้นอย่างแปลกใจ ทันทีที่เลี้ยวเข้าซอยตลาด เราเคยมาที่นี่เมื่อสักเดือนก่อน แต่เราไม่ได้เข้าไปที่ตลาด เพียงแค่หาที่จอดรถ แล้วเข้าไปเลือกซื้อปูแถว ๆ สะพานคลองด่านเท่านั้น ตลาดสดคลองด่านตั้งอยู่เบื้องหน้าเรา โครงสร้างอาคารเป็นทรงหลังคาโค้งสภาพใหม่มาก เวลาบ่ายตลาดเงียบมาก และยังมีที่จอดรถให้กับเรา ร้ายก๋วยเตี๋ยวอยู่ท้ายตลาดมองเห็นชัดเจนจากลานจอดข้างตลาด ที่ร้านมีลูกค้าเยอะ แต่ยังพอมีที่นั่งตามระเบียงเขื่อนคลองอยู่บ้าง และเราก็เลือกนั่งตรงนั้น จากที่นั่งของเราเบื้องหน้าเป็นคลองน้ำ เลยจากคลองเป็นป่าชายเลน ที่มองยังไงก็ไม่อยากเชื่อว่าเลยจากป่าชายเลนไปแล้วจะเป็นถนนสุขุมวิท ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ป่าชายเลยฝั่งตรงข้าม มีสะพานให้เดินเล่นด้วย ส่วนฝั่งตลาดก็มีสกายวอล์คให้ชมวิวมุมสูงด้วย ระหว่างนั่งละเลียดก๋วยเตี๋ยวกันอยู่นั้น ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่าจะพาสาว ๆ ไปเดินเล่นกันก่อน อิ่มกันแล้ว ผมพาสาวไปเดินเลาะริมเขื่อน เด็ก ๆ ตื่นเต้นกันมากกับภาพปูแสมที่วิ่งหลบลงรูเมื่อเราเดินผ่าน นั่นแสดงให้เห็นว่าชายเลนที่นี่ยังพอมีความสมบูรณ์อยู่บ้าง เราแวะกันเข้าไปที่อาคารของตลาด เพื่อเข้าห้องน้ำ และเซอร์ไพรส์มาก ๆ เมื่อเจอบริการห้องน้ำติดแอร์ แน่นอนว่าสะอาดสะอ้านไม่เสียชื่ออย่างแน่นอน ระหว่างที่รอสาว ๆ อยู่นั้น ผมก็กวาดสายตาสำรวจตลาด แล้วรู้สึกใจหายมาก เพราะตลาดเงียบเหงา พ่อค้าแม่ค้ามากกว่าคนเดินซะอีก แผงอาหารทะเลส่วนใหญ่ปิด ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าเพราะเป็นเวลาบ่าย ตลาดวายแล้ว หรือว่าเป็นสภาพปกติของตลาดกันแน่ เพราะถ้าเป็นอย่างหลัง ผมกลัวว่าพ่อค้าแม่ค้าจะอยู่กันอย่างไรไหว ผมสลัดความกลัดกลุ้มนั้นทิ้งไป เมื่อสาว ๆ ออกมากจากห้องน้ำ เราจึงพากันเดินขึ้นชั้นสอง เพื่อชมวิวสูงบนสกายวอล์คกัน แหม! แม้จะไม่ใช้แผ่นกระจกพิเศษเหมือนของที่อื่น ใช้เพียงแผ่นสแตนเลสเจาะรู ก็ให้อารมณ์หวาดเสียวไม่ต่างกัน เล่นเอาดาต้าไม่กล้าเดินเลยทีเดียว ต้องคอยประคองจึงกล้าเข้ามาจนสุดทาง "สวยมากเลยพ่อ" เนิร์ส ลูกสาวคนโตพูดชมด้วยความตื่นเต้น เราใช้เวลาบนสกายวอล์คพักใหญ่ ๆ ให้สาว ๆ เก็บภาพตามใจชอบ จากนั้นเราก็ข้ามคลองไปเดินเลาะป่าชายเลนกัน ทางเดินเป็นสะพานไม้ที่สร้างอย่างแข็งแรงบนเสาปูนและคานเหล็ก บรรยากาศร่มรื่นมาก ๆ ให้อารมณ์เหมือนเดินอยู่แถวชายเลนของตากอากาศบางปู มีปลาตีน มีปู มีนกให้ดู และมีมุมสวยให้เก็บภาพด้วย ปลายสุดของสะพานเป็นศาลาให้นั่งพักชมท้องน้ำและชายเลน ต่อจากศาลาเป็นสะพานไม้ไผ่ยาวไปถึงบ้านพักของชาวบ้าน ให้อารมณ์หลุดจากวิถีเมืองไปอีกแบบหนึ่งเลย เราจมอยู่กับบรรยากาศนั้นนานนับชั่วโมง เด็ก ๆ ก็ชอบดูทั้งปู ปลาตีน และมองเด็ก ๆ ริมคลองลงเล่นน้ำกันสนุกสนาน เมื่อมองดูเวลาอีกที เราก็ไม่เหลือเวลาพอสำหรับตลาดน้ำปีกกาอีกแล้ว "อาทิตย์หน้าก็แล้วกัน" ผมให้สัญญากับภรรยา และขอบคุณสำหรับการชักชวนให้แวะทานก๋วยเตี๋ยวกันที่นี่ มันทำให้กิจกรรมนอกบ้านวันนี้มันสมบูรณ์ และน่าจดจำมากอีกทริปหนึ่ง