สวัสดีครับผม TuesdayCat นี่เป็นการรเขียนครั้งแรกของผมฝากตัวด้วยนะครับ เอาละเรามาเริ่มเลยดีกว่า วันนี้ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวเมืองเล็กๆแต่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในประเทศเพื่อนบ้านของเรา นั่นคือ เมืองด่าหลัต (Đà Lạt) ประเทศเวียดนาม ซึ่งเราสามารถบินตรงจากประเทศไทยไปที่สนามบินของเมืองด่าหลัตได้เลย มีหลากหลายสาการบินให้เลือกใช้บริการ ขอกล่าวถึงที่มาของเมืองด่าหลัตคร่าวๆก่อนเลยนะครับ ด่าหลัตเป็นเมืองเล็กๆในหุบเขาทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี (ประมาณ 18-25 องศา) เดิมทีก็มีชนเผ่าที่เรียกว่า ชาวเกอเฮอ (Cơ Hơ) อาศัยอยู่ ต่อมาในช่วงสมัยที่เวียดนามตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ชาวฝรั่งเศสพยายามแสวงหาสถานที่ตากอากาศ เพื่อหนีจากอากศร้อนของเมืองไซง่อน จึงได้ค้นพบเมืองในหุบเขาแห่งนี้ แล้วจึงได้ริเริ่มสร้างเป็นสถานที่ตากอากาศเพื่อมาพักร้อนสำหรับบรรดาชาวฝรั่งเศส ข้าราชการ และคหบดี ชาวเวียดนามในสมัยนั้น จนถึงปัจจุบันนี้เมืองด่าหลัตก็ยังคงทำหน้าที่เป็นเมืองตากอากาศสำหรับชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ เอาละกล่าวนำมากไปแล้วเราไปเริ่มเที่ยวกันเถอะครับ ที่แรกที่ผมจะพาทุกคนไปก็คือ น้ำตก Datanla น้ำตกแห่งนี้รายล้อมไปด้วยป่าสน วิธีเดินทางจากในตัวเมืองก็คือขึ้นรถเมล์จากตลาดกลางเมือง หรือจะใช้บริการ Grab ก็ได้ครับ หลังจากเราซื้อบัตรเข้าชมแล้ว เราก็จะได้ลงไปสัมผัสกับความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้กันเลย ค่าเข้าชมประมาณ 45 บาท หลังจากนั้นเราก็จะไปนั่งกระเช้าเพื่อกลับเข้าไปในเมืองกัน ซึ่งบนกระเช้าเราจะมองเห็นทิวทัศน์ของป่าไม้ ภูขา ไปจนถึงสภาพของเมืองด่าหลัต ถือว่าเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมาก วิธีเดินทางจากน้ำตกไปยังกระเช้าผมเลือกใช้บริการ Grab อีกแล้วนะครับ 555 บรรยากาศจากภายในกระเช้ามองเห็นภูเขา แม่น้ำ และบ้านเรือน ของเมืองด่าหลัต และที่สุดท้ายคือ พระตำหนักหมายเลข 3 (Dinh 3) เป็นพระตำหนักฤดูร้อนของจักรพรรดิบ๋าวดั่ย (Bảo Đại) จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนาม ซึ่งถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1930 โดยวิศวะกรชาวฝรั่งเศสและเวียดนามเพื่อถวายเป็นพระราชวังฤดูร้อนให้แก่ องค์จักรพรรดิและครอบครัว โดยภายในวังยังคงจัดเก็บสิ่งของและเครื่องใช้ต่างๆ เหมือนสมัยที่องค์จักรพรรดิ์เสด็จมาประทับที่พระตำหนักแห่งนี้ บริเวณลานด้านหน้าพระตำหนัก และสุดท้ายที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาคือ ตลาดกลางคืนด่าหลัต ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่กลางเมือง เป็นตลาดค้าขายอาหาร พืชผัก ผลไม้ ของฝากขึ้นชื่อของเมืองนี้ และสิ่งที่ทุกท่านไม่ควรผลาดที่จะรับประทานก็คือ พิซซ่าเวียดนาม หรือ บั๊ญจร๊างเนื๊อง (Bánh tráng nướng) นั่นเอง โดยอาหารชนิดนี้ทำมาจากการนำแผ่นแป้งข้าวเจ้าตากแห้งมาปิ้ง ทาไข่ไก่ลงไป ใส่หมูสับผัดเนย ต้นหอมผัด ไส้กรอก เนื้อวัวฝอย และกุ้งแห้ง จากนั้นราดซอสพริกที่ขึ้นชื่อของประเทศเวียดนาม เป็นอันเสร็จ พิซซ่าร้อนๆกินในยามกลางคืนที่ค่อนข้างหนาวของเมืองด่าหลัต เข้ากันได้ดีทีเดียว พิซซ่าเวียดนามต้นตำหรับ ต้องมาชิมที่เมืองด่าหลัตนี้เลย สุดท้ายนี้ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะชอบบทความของผมกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะครับ ภาพถ่ายโดย TuesdayCat