เพราะในบทละคร ย่อมมีเรื่องราวดี ๆ ที่นอกจากจะทำให้เราประทับใจแล้ว ยังทำให้เราได้มุมมองในการก้าวเดินต่อไป ผมเลยคิดว่า อยากลองเริ่มเขียนบทความจะเรียกวิเคราะห์หนังก็ไม่เชิง จะเรียกรีวิวก็ไม่ใช่ แต่เอาเป็นว่าเป็นสิ่งที่ประทับใจ สิ่งที่ได้เรียนรู้ สิ่งที่ดูแล้วได้อะไร จากหนังแต่ละเรื่องแล้วกันครับ เริ่มเรื่องแรก Designated Survivor เฉือนคมวินาศกรรมกับผู้นำจำเป็น จาก Netflix ซึ่งเรื่องนี้จริง ๆ ผมเห็นนานแล้วแต่ไม่กล้าดู เพราะเป็นพวกติดซีรี่ย์ได้ง่าย แบบใจอ่อนกับหนังและติดหนึบไม่ไปไหนเลย คราวนี้ก็เช่นกัน จัดไป 21 ตอน เกือบ 10 ชั่วโมง ดูกันสว่าง จบไปเลย 1 Season บ้าบิ่นเกิ้น เรื่องของหนังเป็นความจำเป็นของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเคหะ ทอม เคิร์กแมน ถูกจัดให้เป็นผู้ถูกเลือก คือ ข้อปฏิบัติของสหรัฐ เวลาประชุมใหญ่ จะมีการเลือก รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งกันไว้เพื่อส่งต่ออำนาจ และเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้นรัฐบาล และ สภาสหรัฐถูกวางระเบิดตายกันหมดทำให้ผู้ถูกเลือกกลายเป็นผู้ได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐโดยอัตโนมัติ เหตุการณ์ออกชุลมุนแบบน่าเห็นใจและเข้าใจได้ครับ เมื่อรัฐมนตรีตัวเล็ก ๆ อันดับโนเนมนอกสายตา ได้เข้าสู่ตำแหน่งผู้นำของโลก ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่อไปจะเป็นสิ่งที่ผมได้เห็นจากท่าน ประธานาธิบดีเคิร์กแมน คนนี้ 1” ความโปร่งใส - สิ่งหนึ่งที่หนังพยายามย้ำเสมอในฐานะรัฐบาลเคิร์กแมน จะต้องเปิดเผย โปร่งใส่ ซึ่งบางครั้งก็เหมือนต้องยอมรับว่า บางบทก็ต้องปิดบังกับประชาชน แต่สิ่งที่ตัวเอกเขาทำก็เพื่อให้ประชาชนอเมริกันเกิดความคลายวิตกกังวล เพราะในหนังเราจะเห็นว่า มีเรื่องวุ่นวาย ปะเดปะดังมากมาย แบบบางทีตัวผมเองก็รู้สึกหายใจไม่ทัน เรื่องหนึ่งเข้าเรื่องหนึ่งออก บางเรื่องต้องบอก บางเรื่องต้องชะลอ แต่สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา หลายครั้งรัฐบาลจะเหมือนรู้ช้ากว่าสื่อ แต่ก็มักตอบว่ามันอยู่ในขั้นตอนซึ่งยังไม่เรียบร้อย ก็เท่ากับว่ารู้เท่ากัน แต่ยังไม่บอกและเมื่อรู้แล้วชัดเจนแล้ว จึงจะเริ่มบอกแต่ก็แน่นอนว่าความโปร่งใสแบบประธานาธิบดีเคิร์กแมน ต้องอาศัยความไว้วางใจเป็นที่สุด 2” ความถูกต้อง - ทุกครั้งที่มีการให้ข่าว ทุกครั้งที่มีปฏิบัติการใด ๆ หลักฐานมัดตัว ความถูกต้องแม่นยำ จะเป็นเรื่องสำคัญของ ประธานาธิบดีเคิร์กแมนเสมอ อาจเพราะเขาเป็นวิศวะกรเก่า เป็นรัฐมนตรีการเคหะ เป็นคนที่อาศัยหลักเหตุและผลความวัดได้ จะเป็นเครื่องทำให้การตัดสินใจใกล้เคียงคำว่า 100% มากที่สุด ในหนังแทบจะไม่มีครั้งใดเลยที่เขาจะตัดสินใจแบบไม่รู้จริงไม่มีข้อมูลและแทบทุกครั้งเขาจะเรียกคนที่สำคัญ ตัวจริงเสียงจริงมาคุยหรือลงไปคุยกับผู้ปฏิบัติด้วยตัวเองเพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ แต่นั่นก็เป็นเหมือนดาบสองคมที่ทำให้เขารู้สึกผูกพันธ์กับผู้คนที่ทำงานให้เขาจนทำให้เขาเองต้องเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อมีความผิดพลาด 3” ความมุ่งมั่น - บางครั้งมุ่งมั่นกับหัวรั้นก็จะออกคล้ายๆกันนะครับ หรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเขาตัดสินใจอย่าง บนความถูกต้องแม่นยำ มีเหตุและผลที่ดีแล้ว เขาจึงยังยืนยันในคำตอบต่าง ๆ แม้จะรู้ว่าผลของมันอาจจะไม่น่าชื่นใจนัก แต่ผมคิดว่าในซีซั่นต่อไปผมคงได้เห็นผลของการตัดสินใจเหล่านั้นที่งอกงามออกมา หลายครั้งเขาถูกกดดันให้ทำในสิ่งที่เพียงแต่ให้ตัวเองรอดรัฐบาลรอด แต่เขาก็เลือกที่จะทำให้ถูกต้องให้โปร่งใส และยืนยืนในคำตอบที่ได้ตัดสินใจลงไป 4” ความเด็ดขาด - น้อยครั้งมากครับที่จะเห็นความเกรี้ยวกราดของ ประธานาธิบดีเคิร์กแมน แต่ทุกครั้งที่ใช้ ก็มักได้ผลเสมอ อาจเพราะเขาดูเป็นคนพูดน้อยประนีประนอมและดูอ่อนแอในสายตาของคู่แข่ง แต่ด้วยความที่เขามุ่งมั่นที่จะทำให้เป้าหมายที่วางไว้บนการตัดสินใจที่กลั่นกรองมาเป็นอย่างดีลุล่วงไปได้ เขาจึงต้องเลือกที่จะแสดงฤทธิเดชมาในเวลาที่เหมาะสม หรือไม่ก็อาจเพราะในหนังปัญหาที่เกิดขึ้นมันซับซ้อนขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้งปัญหาเส้นของประธานาธิบดีเคิร์กแมนที่ต้องจัดการสารพัด ปัญหาที่พวกมาจากการติดตามเหตุการระเบิดที่เกิดขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นยิ่งสาวลึกมือที่มองไม่เห็นก็ยิ่งน่ากลัวมากเหลือเกิน 5” ความรัก - สุดท้ายสิ่งที่หนังเรื่องนี้สะท้อนได้ดีที่สุดคือ ความรัก ความเมตตา ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของเขาที่มีให้แก่ลูกน้องเพื่อนรวมกัน และประชาชน เขาไม่เคยตัดใครออกเขาไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และพร้อมจะเดินทางคู่ไปด้วยกัน สร้างความมั่นใจให้ความเข้าใจและอธิบายในวันเวลาที่เหมาะสม เพราะคุณสมบัติอีกประการของประธานาธิบดี คือการรักษาความลับของประเทศไว้และเปิดเผยมันในเวลาที่ถูกต้อง ซึ่งนั่นต้องมาพร้อมกับความเชื่อมั่นของผู้คนที่อยู่รอบข้างเขา ท้ายที่สุดประธานาธิบดีเคิร์กแมน ก็เป็นผู้นำที่ประชาชนรักศรัทธาและลูกน้องปลื้มสุดๆ หนังซีซั่นแรกก็จบลงแบบการสร้างทีมให้เกิดขึ้นรวบรวมผู้คนและแก้ปัญหาได้สำเร็จ พร้อมกับผูกปมเพื่อไปต่อในซีซั่น 2 ซึ่งผมเองก็กำลังชั่งใจว่าจะดูไหม เพราะเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลย 555 ทิ้งท้ายครับ ในหนังมีคำพูดดีๆหลายวรรค แต่วรรคหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมาก “เพราะเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่เราก็พยายามสุดความสามารถ เพราะที่นี่คู่ควรกับความพยายามนั้น เราเชื่อมั่นในสัญชาตญาณตัวเอง และสู้ต่อไปในแต่ละวัน บางเรื่องเราจะชนะ บางเรื่องเราจะไม่ชนะ และบางเรื่องก็ต้องรอให้เวลาตัดสิน แต่เราก็กลับออกจากที่นี่ทุกคืน หวังว่าการเสียสละของวันนี้จะคุ้มค่า หวังว่าสัญชาตญาณของเราจะไม่ชักจูงให้เราไปผิดทาง และหวังว่าความพยายามที่สุดของเราจะดีพอแล้ว” ฉะนั้นจากนี้เราพยายามให้เต็มที่ครับ ที่สุดเราจะชนะหรือไม่ เวลาจะทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่เช่นกัน ขอให้มีความสุขกับการดูหนังและได้มุมมองใหม่ๆเพื่อให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าครับ นฤเทพ พรหมเทศน์ https://creators.trueid.net/@35294ขอบคุณที่มาของภาพจากเพจ DesignatedSurvivor / ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3/ ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6