ทุกวันนี้เราต่างได้รับฟังเรื่องราวที่สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกต่อจิตใจของเราอยู่หหลายเรื่อง ผู้เขียนอยากขอหยิบยกเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกของผู้เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองและครู รวมไปถึงผู้บริหารสถานศึกษา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการศึกษาอย่างกระทรวงศึกษาธิการ ล้วนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ผู้เขียนเองแม้จะผ่านพ้นจากการทำหน้าที่ในสถานศึกษามาแล้วด้วยวัยที่ครบวาระเกษียณงานยังอดมีความห่วงใยเหมือนตนเองเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากยังมีความรู้สึกห่วงใยทั้งเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบทั้งความรักเอ็นดูบุตรและความรู้สึกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับบุตรหลานในสถานศึกษาที่ไว้วางใจนำบุตรซึ่งเปรียบดังแก้วตาดวงใจมาฝากไว้กับคุณครูได้ วันนี้ผู้เขียนตั้งใจจะมาให้กำลังใจทั้งฝ่ายพ่อแม่ผู้ปกครอง และฝ่ายครูที่ได้ชื่อว่าเป็นครูดีที่ศิษย์รัก ในขณะเดียวกันก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของการได้ชี้แนะแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมดีงามแก่เพื่อนครูน้อง ๆ หรือครูพี่เลี้ยงที่มีบทบาทไม่แพ้กันเมื่อได้ทำหน้าที่เป็นครูผู้ช่วยของครูประจำชั้นที่บางครั้งอาจมีเวลาและมีบทบาทมากกว่าครูประจำชั้นของนักเรียนก็มีอยู่ไม่น้อย ดังนั้นผู้เขียนจึงอยากให้ครูพี่เลี้ยงหรือครูผู้ช่วยได้ให้ความสำคัญกับตนเองในการทำน้าที่ให้ได้ใกล้เคียงหรือบางคนอาจทำได้เท่าเทียมหรืออาจทำได้ถึงดีมากกว่าครูประจำชั้นก็เป็นไปได้ อยู่ที่การขวนขวายหาความรู้ประสบการณ์และเทคนิควิธีการที่เป็นกัลยาณมิตรกับนักเรียนที่คุณครูมีโอกาสได้ดูแล ผู้เขียนอยากให้กำลังใจแก่คุณครูที่วันนี้อาจเป็นครูพี่เลี้ยงหรือครูผู้ช่วยแต่ด้วยความขยันใฝ่เรียนรู้หมั่นพัฒนาความสามารถของตนเอง ศึกษาเพิ่มเติมความรู้ จะส่งผลให้ครูสามารถก้าวหน้าได้เช่นเดียวกัน ลองมาติดตามดูว่าการดูแลเด็กนักเรียนโดยไม่ต้องใช้ความรุนแรงนั้นทำได้อย่างไรนะคะ ผู้เขียนอยากบอกเล่าถึงวิธีการดูแลเด็กนักเรียนในวัยอนุบาลถึงวัยประถมศึกษา ที่พ่อแม่ผู้ปกครองมีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ความร่วมมือกับคุณครูที่โรงเรียนเพื่อช่วยให้การพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนเป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม อย่างที่เราเคยได้ทราบกันว่าพ่อแม่บางคนทิ้งให้เป็นหน้าที่ของครู พร้อมกับคาดหวังว่าครูจะช่วยให้ลูก ๆ สามารถพัฒนาตนเองได้จากการอบรมสั่งสอนของครู แบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้องนะคะที่ถูกต้องคือพ่อแม่ผู้ปกครองต้องคอยติดตามจากครูอยู่เสมอถึงการพัฒนาของลูก ๆ ระหว่างอยู่ที่โรงเรียน ในขณะเดียวกันครูก็ไม่ควรเก็บภาระของการพัฒนาพฤติกรรมที่บางกรณีอาจมีเรื่องราวที่ควรต้องรับรู้ร่วมกันเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือให้นักเรียนได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องจากความรักความเอาใจใส่ทั้งจากที่บ้านและที่โรงเรียน ทั้งผู้ปกครองและครูไม่ควรผลักภาระเรื่องการพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนให้แก่กันละกันฝ่ายเดียว จะก่อให้เกิดการโทษกันไปมาอย่างไม่สบายใจว่า "ที่โรงเรียนไม่สอนไม่เอาใจใส่เด็ก ๆ " หรือ "ที่บ้านไม่สนใจช่วยสอนลูก ๆ ในทางที่ถูกต้อง" อย่างที่เคยได้ยินกันบ่อย ๆ ผู้เขียนจึงใคร่ขอกล่าวถึงสิ่งที่แต่ละฝ่ายพึงปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลดีสูงสุดที่ตัวของเด็กซึ่งเป็นทั้งศิษย์รักของคุณครูและแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้ปกครองร่วมกิจกรรมในชั้นเรียนกับคุณครูและบุตรหลานสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แนวการปฏิบัติของพ่อแม่ผู้ปกครอง ผู้เขียนขอฝากไว้ 3 ข้อ คือ 1. เริ่มจากการมีทัศนคติที่ดีต่อคุณครู มีความรักความศรัทธาในความเป็นคุณครูของลูก ๆ สิ่งนี้จะเป็นเหมือนต้นแบบที่ดีที่ลูก ๆ จะมองเห็น ซึมซับ และปฏิบัติเช่นเดียวกันต่อคุณครูของเขา ซึ่งจะส่งผลดีต่อตัวลูก ๆ เองที่จะเป็นเด็กดีเป็นลูกศิษย์ที่ดีของคุณครู แน่นอนที่จะส่งผลให้ความตั้งใจและขยันเรียนหนังสือย่อมตามมาเสมอ ข้อ 2.ให้ความร่วมมือกับคุณครูในการรับฟังคำแนะนำหรือการรายงานพฤติกรรมใด ๆ จากครูอย่างพร้อมที่จะร่วมกันแก้ไข ตั้งอยู่บนความถูกต้องไม่เข้าข้างลูกพียงฝ่ายเดียว มีความเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน และข้อ 3.มีความรอบคอบ อดทน ใจเย็น ไม่ใจร้อนวู่วามเมื่อเกิดปัญหากับลูก ๆ ควรนิ่งและฟังเหตุผล เชื่อมั่นว่าเรื่องใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูก ๆ คุณครูที่ผู้ปกครองไว้วางใจต้องสามารถชี้แจงได้ สถานศึกษาต้องช่วยเหลือได้เสมอ อยากให้มีความเชื่อมั่นและร่วมมือกันฟันฝ่าอุปสรรคปัญหาทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้น ความรักของครูและศิษย์ ที่ได้ร่วมกันหล่อหลอมเติมต่อจากที่บ้านส่งผลต่อความสุขในโรงเรียนของเด็ก ๆ แนวการปฏิบัติของครู ในที่นี้ขอเริ่มจากครูประจำชั้นก่อน เนื่องจากคุณครูจะได้รับการยกย่องและได้รับความไว้วางใจจากทางโรงเรียนให้ทำหน้าที่อบรมดูแลพัฒนาพฤติกรรมของนักเรียนควบคู่ไปกับการจัดการเรียนการสอน ดังนั้นครูจึงมีบทบาทสำคัญเป็นอันดับแรก ครูจึงควรภูมิใจและทำสิ่งสำคัญที่ทางโรงเรียนไว้วางใจอย่างเต็มความสามารถ ครูประจำชั้นจึงควรให้ความรักความเอใจใส่ดูแลนักเรียนในชั้นของตนเองมากเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กห้องอื่นไม่รักไม่สนใจนะคะ ความเป็นครูเรามีจรรยาบรรณต่อศิษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกันไม่ลำเอียงครูจึงพึงรักและดูแลศิษย์ทุกคนไปในเวลาเดียวกันด้วย เพียงแต่ทำหน้าที่อย่างใกล้ชิดกับลูก ๆ กลุ่มที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ครูประจำชั้นอย่างดีที่สุดเสมอ ผู้เขียนเชื่อว่าความรักที่ครูมีต่อวิชาชีพจะส่งผลสู่ความรักความเมตตาที่ครูมีต่อลูกศิษย์ที่ได้ดูแลรุ่นต่อรุ่นเสมอ เพียงครูเชื่อมั่นและให้ความรักกับนักเรียนทุกคน ไม่ว่าปัญหาอุปสรรคใดที่เกิดขึ้นครูย่อมสามารถแก้ไขและผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเสมอ ผู้เขียนขอยืนยันจากประสบการณ์ตนเองและขอเป็นกำลังใจให้คุณครูที่รักศิษย์ทุกคนด้วย แววตาสดใสใฝ่เรียนรู้เพื่อเป็นครูที่รักศิษย์ในอนาคตของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ฝากถึงครูรุ่น้อง ๆ ที่กำลังศึกษาและมุ่งมั่นที่จะเป็นครู ผู้เขียนได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสและสอนน้อง ๆ นักศึกษาคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เมื่อเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณอาจารย์คะเณยะ อ่อนนาง อาจารย์ของนักศึกษาที่มีความรักต่อลูกศิษย์จึงนึกถึงผู้เขียนที่อดีตเคยเป็นครูของอาจารย์ท่านนี้ด้วย ได้ให้โอกาสให้ผู้เขียนได้แบ่งปันประสบการณ์ของ "การสอนนักเรียนด้วยความรักนั้นทำอย่างไร" เพียงช่วงเวลาครึ่งวันที่ได้จัดกิจกรรมให้นักศึกษากลุ่มนี้ ผู้เขียนได้สื่อสารโดยใช้ความรักความเมตตาที่สอนให้นักศึกษาได้เห็นได้เรียนรู้ ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงความน่ารักของลูกศิษย์ของอาจารย์คะเณยะกลุ่มนี้ เชื่อว่าน้อง ๆ ทุกคนจะมีความศรัทธาและรักในการสอน รักในวิชาชีพที่กำลังศึกษาอยู่ เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถพัฒนาประสบการณ์ของการเป็นครูที่รักศิษย์ จนนำไปสู่การเป็นครูผู้สอนที่ประสบความสำเร็จด้วยความรักความเมตตา ปัญหาความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ครูมีความรักแก่กันก็ส่งผลถึงการทำงานอย่างมีความรักเมตตาต่อศิษย์ได้ มาถึงตอนท้ายของบทความผู้เขียนอยากฝากถึงทุกฝ่าย เริ่มจากตัวผู้ปกครอง ครูผู้สอน ครูผู้ช่วยครูพี่เลี้ยง ทุกฝ่ายควรเริ่มต้นจากความรักความเมตตา ในส่วนของความรักที่ผู้ปกครองที่มีต่อบุตรหลานเต็มเปี่ยมอยู่แล้ว ผู้เขียนขอให้เพิ่มความรักศรัทธาต่อคุณครูของลูก ๆ ด้วยเพราะความรักจะส่งผลให้เกิดความเข้าใจ จะช่วยให้การแก้ปัญหาทุกอย่างง่ายขึ้น ครูเองนอกจากมีความรักเมตตาต่อลูกศิษย์แล้วอยากให้มีความรักความเข้าใจมีความเป็นกัลยาณมิตรต่อผู้ปกครองของศิษย์ด้วย เพื่อนำไปสู่การร่วมมือในการส่งเสริมให้การเรียนการพัฒนาพฤติกรรมของลูกศิษย์ราบรื่นประสบความสำเร็จ และสุดท้ายฝากถึงครูผู้ช่วยและครูพี่เลี้ยงให้มองเห็นคุณค่าและความสำคัญของตนเองที่มีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของครูประจำชั้นได้อย่างมาก ที่สำคัญครูพี่เลี้ยงครูผู้ช่วยควรมีความรักเมตตาต่อลูกศิษย์ด้วย จะส่งผลให้ทุกท่านทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างมีความสุข ศิษย์และผู้ปกครองก็มีความสุขไปพร้อมกัน บรรยากาศแบบนี้ต่างหากที่การศึกษาของไทยเราต้องการให้เกิดขึ้นในทุกระดับการศึกษาไม่เพียงแต่ระดับปฐมวัยและประถมศึกษาที่ผู้เขียนหยิบยกมาเป็นประเด็นตัวอย่างเท่านั้น ฝากถึงทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยนะคะ ภาพโดยนักเขียน