ดีปลี ถือเป็นสมุนไพรเก่าแก่ที่มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง ใช้เป็นยากระจายลม ระบายความเจ็บปวด ช่วยทำให้เจริญอาหาร แก้ลมวิงเวียน เป็นต้น และผลของดีปลียังสามารถ ใช้มาเป็นเครื่องเทศแทนพริกเนื่องจากมีกลิ่นที่หอมมีรสชาติที่เผ็ดร้อน และมีสรรพคุณทางยาที่เหมือนกัน ลักษณะของต้นดีปลี คือเป็นไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะและเลื้อยพัน เถาค่อนข้างเหนียวและแข็ง มีกิ่งก้านมากมายจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น มีแสงแดด ลักษณะเมล็ดมีขนาดเล็ก กลมและแข็ง ในประเทศไทยจะนิยมปลูกในภาคเหนือและภาคใต้ส่วนในภาคกลางและภาคอีสานจะพบได้แค่บางพื้นที่เท่านั้น เพราะถ้าไม่รู้จักและไม่เคยกินมาก่อนก็จะไม่ปลูกไว้ การนำดีปลีมารับประทานนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความคุ้นชินและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ แต่สำหรับผู้เขียนที่เป็นคนในพื้นที่ ภาคอีสาน ที่คุ้นชินกับ ดีปลี มาตั้งแต่เด็กทำให้มีวิธีการกินดีปลีกับอาหาร และรู้จักสรรพคุณในแบบที่ได้รับข้อมูลมาจากผู้ใหญ่ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ที่ท่านเคยบอกและสอนมาว่าให้กินดีปลี เวลาที่รู้สึกปวดหัวหรือมีอาการวิเวียนรู้สึกไม่สดชื่น เพราะเวลาที่ทานดีปลีเข้าไปจะช่วยให้อาการเหล่านั้นดีขึ้น และผลปรากฎว่าดีจริง ๆ ทำให้ตั้งแต่ตอนนั้นผู้เขียนเลยเชื่อมาตลอดเลยว่าการทานผลของดีปลีนั้นมีประโยชน์สำหรับผู้เขียน และวิธีทานดีปลีในแบบสของผู้เขียนก็คือการนำผลที่ใกล้จะแก่ มาตำใส่ลงไปในส้มตำรวมกับพริกกระเทียมให้ละเอียดหลังจากนั้นก็ปรุงรสตามปกติทั่วไปเสร็จแล้วก็นำมาทานได้ เวลาที่ทานจะรู้สึกเผ็ดร้อนมากแต่หลังจากที่ทานเสร็จ ร่างกายจะรู้สึกโล่งไม่มีอาการปวดหัวหรือว่ามึนงงอะไรเลย หรือแม้แต่บางครั้งที่มีอาการท้องอืดมีลมในกระเพราะอาหาร ก็จะเก็บผลที่เป็นสีน้ำตาลไว้ แล้วนำมาตากแดดให้แห้งจากนั้นก็นำไปต้มแล้วดื่มช่วยให้อาการดีขึ้น และก็ยังมีสรรพคุณอีกมากมายที่เลยค่ะ ว่าแล้วเราก็ไปดูลักษณะและประโยชน์เพิ่มเติมของดีปลีกันเลยค่ะ ลักษณะต้นดีปลีจัดเป็นพืชไม้เลื้อยที่มีลักษณะคล้ายกับต้นใบย่านาง ทั้งใบและการเจริญเติบโตแต่จะต่างกันแค่มีผลของมัน ใบเรียวยาวสีเขียวเข้มส่วนใบอ่อนจะเป็นสีเขียวจาง ๆ เถาของดีปลีสามารถเลื้อยไปได้ไม่มีสิ้นสุด อยู่ที่เราจะวางให้เค้าไปในแนวไหน แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมปลูกและเหมาะสำหรับต้นดีปลี คือตีไม้ไว้ตรงกลางตอนเริ่มปลูก เพราะเมื่อโตขึ้นดีปลีจะได้เลื้อยข้นอย่างเต็มที่และเจริญเติบโตได้อย่างงดงาม ผลดีปลีดีปลีจะมีลักษณะผลที่ยาวขนาด 1.5-5.5 เซนติเมตร ตามขนาดของการเจริญเติมโตที่มีขนาดเล็กไปจนถึงแก่เต็มที่ ผิวจะมีตุ่มเม็ดเล็ก ๆ อยู่โดยรอบเวลาสัมผัสจะรู้สึกได้ชัดเจน และในส่วนโคนผลดีปลีจะมีขนาดใหญ่และส่วนปลายจะมีขนาดที่เล็กลงมาคลาย กับผลของพริกนั้นเองค่ะความแตกต่างของดีปลีผลเล็กและใหญ่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ว่าแตกต่างกันทั้งสีและผิวภายนอกของผล ดีปลีที่พึ่งงอกออกมาจะมีสีเขียวปานกลางไม่เข้มและอ่อน มีขนาดที่เล็กประมาณ 1-2 เซ็นติเมตร ส่วนผลดีปลีที่โตเต็มที่จะมีสีส้มอมแดงผสมน้ำตาล ผิวภายนอกจะมีรอยขรุขระอย่างชัดเจน มีขนาด 3.5-5.5 เซนติเมตร ผลที่แก่จัดและนิยมนำมารับประทาน หรือนำมาประกอบอาหารจะมีขนาดสีที่เห็นได้ชัดเจนคือ ผลมีสีเขียวแก่สีส้มเหลืองบวกกับสีน้ำตาลผสมอยู่ด้วย เมื่อนำมาตัดดูข้างในจะเห็นว่า มีเมล็ดเล็ก ๆ ที่แยกออกจากกันชัดเจนและการนำดีปลีขนาดเท่านี้มาทาน เพราะจะมีรสชาติที่เผ็ดกำลังดีมีกลิ่นที่หอมเต็มที่ จึงช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมและมีรสชาติที่เผ็ดร้อนเต็มที่นั้นเอง ดีปลีอาจจะเป็นพืชที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก และไม่เป็นที่นิยมในการปลูกมากนัก แต่ดีปลีกลับมรสรรพคุณมากมายต่อร่างกายของเรา ทั้งช่วย แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้จุกเสียดแน่นท้อง ขับลมในลำไส้ให้ผายและเรอ แก้หืด ไอ แก้ริดสีดวง คุดทะราด แก้ลมวิงเวียน แก้เสมหะ น้ำลายเหนียว แก้ไอ บำรุงธาตุ แก้ท้องเสีย บำรุงธาตุไฟ แก้หืดไอ แก้เสมหะ และอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง และนอกจากนี้ยังมีงานวิจัยใหม่ที่พบว่าดีปลี เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพต้านมะเร็ง เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์ เป็นยังไงกันบ้างคะเมื่อทราบสรรพคุณของดีปลีที่มีมากมายขนาดนี้ ผู้เขียนคิดว่าเราควรจะปลูกดีปลีเก็บไว้ทานและใช้เป็นยากันบ้างแล้วละคะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านทุก ๆ คนนะคะ ภาพจาก:ผู้เขียน