ละครเรื่องฟากฟ้าคีรีดาว ออกอากาศทางช่อง 3 ที่เพิ่งอวสานไปไม่นาน ท่ามกลางกระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างท่วมท้น ด้วยเรตติ้งตอนจบ 5.49 ในกลุ่มผู้ชมที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ และเรตติ้งระดับ 4.33 ในกลุ่มผู้ชมที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังติดอันดับหนึ่งในทวิตเตอร์หลายครั้งตลอดช่วงที่ละครออนแอร์ ด้วยเนื้อหาที่น่าติดตาม การผูกโครงเรื่องให้ตัวละครเอกทุกตัวมีความสัมพันธ์กัน ฉากที่สวยงาม ความสมจริงของตัวละคร ทุกองค์ประกอบล้วนส่งเสริมให้ฟากฟ้าคีรีดาวกลายเป็นละครที่น่าประทับใจดานิกา เป็นตัวละครเอกหญิงที่โดดเด่นในฐานะสตรีผู้เพียบพร้อมและงดงาม ด้วยความงดงามทั้งกายและใจของเธอ จึงนำไปสู่ปมสำคัญในโครงเรื่อง (Plot) ได้แก่ ความขัดแยังระหว่างพี่น้อง คือ 'สันธรากาศ' ชายหนุ่มเจ้าสำราญผู้เพียบพร้อมไปด้วยเงินทองและความกล้าหาญ และ 'คิรี' ชายหนุ่มที่มีฐานะยากจน แต่มีจิตใจอ่อนโยน อบอุ่นบุคลิกภาพของดานิกาแตกต่างจากนางเอกในละครไทยตามแบบฉบับทั่วไป ที่โดยปกติแล้วนางเอกต้องรักเดียวใจเดียว รักนวลสงวนตัว เรียบร้อย แต่ดานิกาผู้งดงามกลับฉีกภาพแบบฉบับนางเอกเหล่านั้นไปแทบหมดสิ้น เธอโลเลในความรักจนผู้ชมถึงขั้นคอมเม้นต์ลงสื่อออนไลน์ทำนองว่าเธอเป็น 'วันทอง 2020' เพราะเธอดูจะมีใจให้ทั้งสันธรากาสและคิรี ... เรามาค้นตัวตนของดานิกากันดีกว่าค่ะดานิกา เป็นลูกสาวของดารารัตน์ และเป็นลูกเลี้ยงของศิขรินทร์ หลายครั้งที่ศิขรินทร์พยายามลวนลามเธอเพราะเขาชื่นชมและหลงใหลในความงดงามของลูกเลี้ยง ดานิกาพยายามบอกกับแม่ว่าศิขรินทร์เป็นคนไม่ดี เพราะเขายักยอกเงิน และพยายามกอบโกยผลประโยชน์จากดารารัตน์ แต่ดารารัตน์ไม่เคยเชื่อเธอเพราะถูกศิขรินทร์เป่าหูและสร้างภาพ 'คนดี' ต่อหน้าเธออย่างแนบเนียน พอเป็นอย่างนี้แล้ว แน่นอนค่ะว่า "บ้าน" จึงไม่ใช่ที่ปลอดภัยสำหรับดานิกา เธอพยายามดิ้นรนเพื่อจะมีชีวิตเป็นของตัวเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่บ้าน ไม่ต้องหวาดระแวงศิขรินทร์ที่พยายามเข้ามาลวนลามเธอพ่อแท้ ๆ ของดานิกาเป็นใครไม่ปรากฏในเรื่อง ทราบแค่เพียงว่าดารารัตน์ท้องเพราะเป็นเด็กใจแตก ศิขรินทร์จึงรับเพื่อเข้ามาเป็นพ่อให้กับดานิกาแทน ซึ่งศิขรินทร์ก็ไม่สามารถทำหน้าที่นั้นได้ เหตุที่ขาดความรักจากพ่อและความไม่ปลอดภัยจากพ่อเลี้ยง ทำให้ดานิกาพยายามขวนขวายหาความรักจากนอกบ้านเพื่อมาทดแทนความเปล่าเปลี่ยว อ้างว้าง เธอหวังว่าความรักจากผู้ชายสักคนจะปกป้องให้เธอรอดพ้นจากศิขรินทร์ และได้ออกไปจากบ้าน บ้านที่ไม่เคยปลอดภัย และไม่เคยมีความเข้าใจเพราะแม่ฟังแต่พ่อเลี้ยงเมื่อดานิกามาพบกับสันธรากาศ ชายหนุ่มผู้หลงใหลในดาราศาสตร์ เขาศึกษาดวงดาวในเชิงลึก ขณะที่ชื่อของดานิกาซึ่งแปลว่าดวงดาวยามเช้าทำให้เขาหลงรักเธอ ดานิกาชอบดูดาว เธอเดินทางไปถึง 'หิมาลัย' เพื่อจะดูดวงดาวให้ชัดเจน ตามคำบอกเล่าว่าหิมาลัยเป็นสถานที่สามารถมองดวงดาวได้ชัดเจน สันธรากาศเป็นชายหนุ่มที่ช่วยเติมเต็มชีวิตเธอ เขาปกป้องเธอจากศิขรินทร์ได้ เขาช่วยให้เธอรู้จักดาวแต่ละดวง ถ้าหากจะตีความที่สันธรากาศสอนให้เธอทำความรู้จักกับดาวบนฟ้าแต่ละดวงน่าจะเป็นสัญญะของการทำความเข้าใจโลก เข้าใจชีวิตนั่นเอง สันธรากาศเป็นคนโรแมนติกแต่ไม่ใช่คนอ่อนโยน ความร่ำรวยจากธุรกิจสีเทาของพ่อทำให้สันธรากาศใช้เงินซื้อทุกอย่าง และเขามักปิดบังภูมิหลังของตัวเองทำให้ดานิกาเริ่มไม่แน่ใจและคลางแคลงความรักของเขาขณะที่คิรีเป็นชายหนุ่มยากจน มีแม่ขี้เมา แต่คิรีเป็นคนขยัน เอาใจใส่ และคอยห่วงใยดานิกาด้วยหัวใจ สำหรับคิรีแล้วดานิกาได้ทำหน้าที่ปกป้องเขาตลอด ปกป้องจากการใช้กำลังจากสันธรากาศ ปกป้องจากศิขรินทร์พ่อเลี้ยงของเธอที่ส่งคนมาทำร้ายเพราะคิรีใกล้ชิดกับดานิกา หากมองตามหลักจิตวิทยาแล้วสันธรากาศเป็นคนที่เติมเติมส่วนที่ขาดหายในชีวิตของเธอ ส่วนคิรีคือคนที่ทำให้เธอได้แสดงความเป็นผู้นำ ผู้ปกป้อง และผู้เสียสละ ในขณะที่ 'บ้าน' ไม่เคยให้ความรู้สึกเหล่านี้กับเธอ ท้ายที่สุดคิรีไม่สามารถได้หัวใจของดานิกาไปครอบครอง สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงเกิดจากหัวใจ ไม่ได้เกิดจากความสงสารและไม่สามารถเกิดได้ท่ามกลางอารมณ์ชั่ววูบสิ่งที่หล่อหลอมจากภูมิหลัง ปมที่ทำให้โหยหาความรัก การชดเชยและเติมเต็มส่วนที่ขาดหายในชีวิต บทเรียนจากแม่ที่ถูกผู้ชายสวมเขา ทำให้บุคลิกภาพของดานิกาดูโลเล โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หลาย ๆ ครั้งเธอแสดงออกมาว่า 'ไม่รู้จะเลือกใคร' หรือบางครั้ง 'อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน' เช่นตอนไปดูดาวเธออยากไปดูดาวกับสันธรากาศแต่ก็อยากคิรีไปด้วย ก็เลยไปด้วยกันทั้ง 'สามคน' ;)ในช่วงต้นเรื่องเธอตัดสินใจเลือกคิรี เพื่อจะหนีปัญหาที่บ้าน จนถึงขั้นวิ่งไปขวางงานบวชเพื่อขอคิรีแต่งงาน "ฉันจะให้แม่ยกมรดกให้เราเป็นสินสมรส แต่งงานกับฉันนะคิรี ช่วยฉันที" แต่เมื่อคิรีหายไปจากงานแต่งงาน ดานิกาจึงกลายเป็นหม้ายขันหมาก ดานิกาจึงหันมาเปิดใจให้กับสันธรากาศชายหนุ่มผู้ปกป้องเธอจากพ่อเลี้ยงได้ ให้ปลอดภัยกับเธอได้ และเติมเต็มส่วนที่ขาดหายในชีวิตให้กับเธอ เขาใช้เงินซื้อทุกอย่างให้เธอตามแบบเจ้าพ่อสายเปย์ โดยเฉพาะการขอตั้งชื่อดาวดวงหนึ่งว่า "ดานิกา" และมอบหลักฐานการตั้งชื่อดาวนั้นกับเธอ แม้สันธรากาศไม่ละมุนละไมเหมือนกับคิรี แต่เขาก็ทำให้เธอใจอ่อนและยอมรับในตัวเขาดานิกาเกิดมาท่ามกลางกองเงินกองทอง เพราะแม่เธอมีเงินมาก และใช้เงินซื้อทุกอย่างให้เธอ เพราะแม่รักเธอ ขณะที่แม่ก็รักผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อของเธอด้วย ทำให้หัวใจของดานิกาไม่เคยเต็ม ผู้ประพันธ์พยายามสร้างคาเร็กเตอร์ของดานิกาให้เป็นหญิงที่มีความรัก โลภ โกรธ หลง เพื่อความสมจริงตามแบบฉบับ Round Character โดยใช้ความขาดหายเป็นภูมิหลังเพื่อให้ส่งผลต่อการแสดงพฤติกรรมของตัวละครตามแบบจิตวิทยา ความโลเล ความเอาแต่ใจ แต่หลาย ๆ ครั้งที่คาแร็คเตอร์เหล่านี้ก็ขัดใจคนดูจนกลายเป็นเสียงผ่านคอมเม้นต์ในสื่อออนไลน์ของผู้ชมละครย้อนหลัง แต่หากเราพิจารณาแบบรอบด้านก็จะเห็นว่าผลจากพฤติกรรมล้วนมาจากปม (Complex) และสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมเธอทั้งสิ้นการตั้งชื่อ "ดานิกา" ที่แปลว่าดวงดาวยามเช้า ย่อมชี้ชัดอยู่แล้วว่าเธอเป็นตัวละครสำคัญ และเน้นความสวยงาม ชื่อที่แปลว่าดวงดาว เป็นสัญญะสื่อความหมายถึงความสูงส่ง ความเป็นดอกฟ้าทั้งความงดงามและความเพียบพร้อมทางกายภาพ ดังนั้นดาวย่อมคู่กับท้องฟ้าก็คือชื่อของสันธรากาศ ซึ่งเเปลว่าท้องฟ้า ...ใช่ค่ะ ... ทั้งคู่อยู่บนฟ้า ส่วน คิรี เป็นชื่อที่มีความหมายถึงภูเขา แม้จะเเข็งแรง ตระหง่าน หรือยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ก็ยังคงฝังรากหยัดยืนกับพื้นดิน ไม่อาจเทียบท้องฟ้าได้บทเรียนจากเรื่องราวของดานิกาชี้ชวนให้ผู้ชมตระหนักถึงความสำคัญและความอบอุ่นในครอบครัว ที่เงินซื้อไม่ได้ ความร่ำรวยมหาศาลของดานิกา หรือแม้แต่สันธรากาศที่มีเงินล้นฟ้าแต่ก็ไม่สามารถมีความสุขอย่างแท้จริงได้ แสดงให้เห็นว่าแม้เงินจะสามารถซื้อทุกอย่างได้ แต่เงินไม่เคยเติมความรู้สึกลึก ๆ ในหัวใจได้ ความสุขและความอบอุ่นจากครอบครัวต่างหากที่จะเป็นเกราะป้องกันสมาชิกในครอบครัวให้แข็งแกร่งและงดงาม... เช่นนั้นแล้วเราหันกลับมามองครอบครัว มองความรักใกล้ตัว และซึมซับความรู้สึกที่งดงามเหล่านั้นกันเถอะค่ะ ถึงแม้เราจะไม่ได้ร่ำรวยแบบพระนางในละคร แต่เราก็สามารถหาความสุขจากสิ่งที่เรามีได้ไม่แพ้กันนะคะขอขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก Ch3Thailand