รัฐบาลญี่ปุ่น ได้ประกาศที่จะให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าประเทศได้ หลังจากที่ได้ประกาศสั่งห้ามชาวต่างชาติใน 146 ประเทศทั่วโลกเข้าญี่ปุ่นไปเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 โดยในวันที่ 5 สิงหาคม 2563 นี้ ทางการจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ถือวีซ่าพำนักถาวร วีซ่าทำงานและวีซ่านักเรียน ได้เข้าประเทศ โดยกลุ่มหลักที่ได้รับอนุญาตจะเป็นนักเรียนต่างประเทศ กลุ่มฝึกงานและพนักงานชาวต่างชาติ ทั้งนี้ญี่ปุ่นยังได้ทำข้อตกลงกับเวียดนามและไทย ในการอนุญาตให้นักธุรกิจเข้าประเทศ พำนักแบบระยะยาวได้ ภายใต้เงื่อนไขด้านสุขภาพ การมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลต่าง ๆ และอาจจะต้องทำเรื่องยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตก่อน โดยมีเงื่อนไขและรายละเอียดดังนี้ 1.ชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวร (Permanent Resident) คู่สมรสหรือบุตรของชาวญี่ปุ่น คู่สมรสหรือบุตรของชาวต่างชาติที่มีสถานะเป็นผู้มีถิ่นพำนักถาวร หรือผู้มีถิ่นพำนักระยะยาว (Long Term Resident) จะได้รับการยกเว้นให้สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นจากประเทศและพื้นที่ต่าง ๆ 146 ประเทศ/เขตได้ รวมทั้งประเทศไทย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 1.1 มีเอกสารการได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศญี่ปุ่น (Re-Entry Permission) ที่ทางการญี่ปุ่นออกให้ก่อนวันที่ 2 เมษายน 2563 1.2 นับตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ผู้ที่ถือเอกสาร การได้รับอนุญาตให้กลับเข้าประเทศญี่ปุ่น (Re-Entry Permission) จะเข้าประเทศได้นั้น ต้องมีเหตุผลเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น 2.การเข้าประเทศญี่ปุ่นได้นั้น ต้องมีเอกสารแสดงผลการตรวจ PCR ภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเวลาออกเดินทางเข้าประเทศ เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นแล้ว ทุกคนต้องเข้ารับการตรวจค้นหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงกักตัวในสถานที่ที่ทางรัฐบาลกำหนดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน รวมถึงห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงเดือนสิงหาคม 2563 และอาจมีการขยายเวลาต่อไปอีก สำหรับนักท่องเที่ยวไทย ที่คาดหวังจะไปเยือนญี่ปุ่นนั้น อาจจะต้องรอไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากทางรัฐบาลยังระงับมาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าญี่ปุ่น 15 วันเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการประกาศจากรัฐบาลอีกทีในภายภาคหน้า จุดเริ่มต้นของการแพร่ระบาดในญี่ปุ่นครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อ 16 มกราคม 2563 ที่จังหวัดคานะงาวะ ที่มีการยืนยันว่ามีชายในวัย 30 ที่ได้เดินทางไปยังอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน แล้วกลับเข้าประเทศ ในวันที่ 24 มกราคม 2563 ในกรุงโตเกียวก็พบผู้ติดเชื้อ เป็นชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นเช่นกัน จนทำให้นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ต้องออกมาตรการกักกันตัวสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 จังหวัดฮอกไกโด ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน จากการที่มีติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก โดยสั่งห้ามประชาชนเดินทางออกนอกเมือง ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศญี่ปุ่นพุ่งทะยานขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ด้วยจำนวน 1,301 รายจากทั่วประเทศ โดยแบ่งได้ดังนี้ กรุงโตเกียว 367 ราย จังหวัดโอซาก้า 190 ราย จังหวัดไอจิ 160 ราย จังหวัดฟุกุโอกะ 121 ราย จังหวัดคานะงาวะ 76 ราย จังหวัดไซตะมะ 57 ราย จังหวัดเฮียวโกะ 53 ราย จังหวัดชิบะ 49 ราย เกาะโอกินาว่า 49 ราย จังหวัดกิฟุ 17 ราย จังหวัดชิสึโอกะ กับ คุมาโมโตะ 16 ราย จังหวัดอิบะระกิ 12 ราย โดยพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อน้อยคือจังหวัดอาคิตะ จังหวัดอิวาเตะ จังหวัดโทโทริ จังหวัดโอคายามะ และจังหวัดแถบภาคใต้อย่างจังหวัดมิยาซากิกับจังหวัดคาโงชิมะ ที่มีค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อน้อย ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 33,049 ราย ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,004 ราย รักษาหาย 24,179 ราย (ข้อมูลวันที่ 31 กรกฎาคม 2563) แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นสูง รัฐบาลมีมาตรการควบคุมให้ประชาชนสวมหน้ากาก งดการรวมตัว ให้ร้านค้าต่าง ๆ เปิดถึงแค่สี่ทุ่ม รวมถึงให้เงินอุดหนุนร้านค้ารายย่อยถึงร้านละ 3 แสนเยน (ราว ๆ แปดหมื่นเก้าพันกว่าบาท) แต่ก็ไม่ทำให้ผู้ติดเชื้อลดลง ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบภาพรวมประชากรทั้งประเทศ 120 กว่าล้านคน ยังถือว่าผู้ติดเชื้อยังคงน้อย แต่สิ่งที่น่ากังวลนั้น คือจำนวนโรงพยาบาลโรงแรมที่อาจจะไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ หากตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นสูง โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่คือคนสูงอายุและคนหนุ่มสาววัยทำงาน ถือเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่ทางญี่ปุ่นต้องประสบ ไวรัสระบาด เศรษฐกิจต้องเดินหน้าต่อ รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นระยะ อันเรื่องใหญ่ที่ชาวญี่ปุ่นล้วนฝ่าฟันไปร่วมกัน อีกทั้งการบริหารงานภายใต้รัฐบาลของนายชินโสะ อาเบะ ที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ 26 ธันวาคม 2555 ที่มีการใช้นโยบายเศรษฐกิจที่เรียกว่า "อาเบะโนมิกส์" ที่ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน ตั้งเป้าอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2% ลดค่าเงินเยน เพิ่มการลงทุนของภาครัฐ จนเกิดปริมาณเงินมหาศาลในระบบ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ขึ้นสูง จนนักเศรษฐศาสตร์หลายคนกังวลว่าอาจจะเกิดภาวะทางเศรษฐกิจขึ้นอีกครั้ง หลังเคยเกิดภาวะฟองสบู่เศรษฐกิจแตกมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2529 ถึงช่วง พ.ศ. 2534 ถือเป็นบทเรียนประวัติศาสตร์ครั้งใหญ่ ที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ และต้องจดจำพร้อมทำการบ้านรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และทั้งประเทศอาจจะต้องตั้งคำถามว่า เมื่อนายชินโสะ อาเบะ ลงจากอำนาจแล้ว การดำเนินงานต่าง ๆ ที่นโยบายของเขาได้ฝังไว้ในระบบงาน จะปรับใช้อย่างไรต่อไป เมื่อคนอื่นต้องมารับไม้ต่อ ข้อมูลอ้างอิง ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เรื่อง ญี่ปุ่นขยายมาตรการระงับการเดินทางเข้าญี่ปุ่นสำหรับผู้ที่เดินทางจากไทย จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 Japan to give 300,000 yen in cash to each household in need https://www.pref.shizuoka.jp/kinkyu/covid-19-tyuumokujouhou.html https://www.worldometers.info/coronavirus/ https://www.japan.travel/en/coronavirus/ Japan set to grant reentry to foreign residents Tokyo reports new daily record of 367 cases Japan to allow back foreign residents who left before entry ban Japanese asset price bubble Abenomics