ซาปาเป็นเมืองเล็กๆ บนภูเขาในจังหวัดลาวไก ของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 350 กม. ใกล้กับชายแดนจีน ชื่อเมือง “ซาปา” แปลว่า "หมู่บ้านทราย" ในภาษาจีน แต่สำหรับผู้เขียนแล้วที่นี่สวยงามราวกับอยู่ในปราสาทแห่งธรรมชาติ จึงได้ตั้งชื่อบทความนี้ว่า “ซาปา ปราสาททราย” เมืองในเวียดนามอันเงียบสงบแห่งนี้เป็นที่อยู่ของชนเผ่าหลายชาติพันธุ์ โดยกลุ่มชาติพันธุ์หลัก 5 กลุ่มในซาปา ได้แก่ Hmong (ม้ง), Dao (เย้า), Tay, Giay และ Xa Pho ว่ากันว่าเมืองซาปานั้นถูกยึดครองโดยกลุ่มชาติพันธุ์ 4 กลุ่มแรกเนื่องจากชาวเวียดนามจากที่ราบลุ่ม (หรือรู้จักกันดีในชื่อ Kinh) ไม่ได้ตั้งรกรากอยู่ในหุบเขาสูงมาก ประวัติศาสตร์ซาปา พลเรือนชาวฝรั่งเศสคนแรกเดินทางมาถึงซาปาในปี 1909 และด้วยสภาพอากาศที่น่าสนใจ ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื่อว่าพื้นที่นี้มีศักยภาพด้านการฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นในปี 1912 จึงมีการจัดตั้งโรงพยาบาลทหารสำหรับเจ้าหน้าที่ทหารที่เจ็บป่วย พร้อมกับจัดตั้งกองทหารรักษาการณ์ นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 เป็นต้นมา ผู้มีเงินทุนเพียงพอก็มาสร้างวิลล่าส่วนตัวที่เมืองแห่งนี้ ช่วงสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 การสู้รบภายในเวียดนามก็เริ่มต้นขึ้นและกินเวลายาวนานจนถึงปี 1954 ผลที่เกิดขึ้นคือ อาคารยุคอาณานิคมในหรือรอบๆ ซาปา เกือบทั้งหมดประมาณ 200 หลังถูกทำลายลง ไม่ว่าจะโดยฝีมือของเวียดมินห์ ช่วงปลายทศวรรษที่ 1940 หรือโดยการโจมตีทางอากาศของฝรั่งเศส ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 ประชาชนชาวเวียดนามส่วนใหญ่หนีเอาชีวิตรอด และเมืองเล็กๆ แห่งนี้ก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง ช่วงต้นทศวรรษ 1960 เวียดนามมีโครงการโยกย้ายเขตเศรษฐกิจใหม่ที่กำหนดขึ้นโดยระบอบสังคมนิยม โดยให้ผู้อยู่อาศัยจากที่ราบลุ่มอพยพไปยังภูมิภาค แต่กระนั้นก็มีอุปสรรคเกิดขึ้น เพราะกองกำลังของจีนเข้ามายึดครองพื้นที่ชายแดนทางตอนเหนือในปี 1979 จนทำให้โครงการถูกชลอในช่วงเวลาหนึ่ง จนกระทั่งปี 1993 เวียดนามตัดสินใจเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ ซาปาจึงกลับมาสู่เส้นทางการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ก็ได้กลุ่มนักท่องเที่ยวใหม่ในท้องถิ่นรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ปัจจุบันเมืองซาปาได้เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเต็มที่โดยส่วนใหญ่มาจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ชื่นชอบทัศนียภาพแบบธรรมชาติ ทะเลสาบซาปา ทะเลสาบซาปาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งในเมืองและอยู่ห่างจากโบสถ์หลักโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที ผิวน้ำที่ทะเลสาบแห่งนี้ สะท้อนภาพความงามของซาปาออกมาได้งดงาม และเป็นสถานที่ยอดนิยมในช่วงสุดสัปดาห์สำหรับครอบครัวคนท้องถิ่น หนึ่งในไฮไลท์ที่ยอดเยี่ยมของทะเลสาบคือ นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหงส์เป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เพื่อถ่ายภาพไปทั่วผิวน้ำที่สะท้อนดั่งแก้วและเพลิดเพลินกับอาคารสถานที่สวยงามโดยรอบ โบสถ์ซาปา เนื่องด้วยซาปาเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวฝรั่งเศสที่หลีกหนีจากความร้อนจากฮานอย ปี 1902 โบสถ์ซาปาซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง หรือรู้จักกันในชื่อ โบสถ์หิน หรือ โบสถ์โฮลีโรซารี จึงถูกสร้างขึ้น โบสถ์แห่งนี้สร้างด้วยหิน เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิกของโรมัน ภายในตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกสีที่สวยงามในสไตล์โมเดิร์น คริสตจักรแห่งซาปาเป็นสถานที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนกลุ่มน้อยอยู่เสมอ ด้านหน้าโบสถ์เป็นพื้นที่ซึ่งมีกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของคนในท้องถิ่นในวันเสาร์ เช่น การเป่าทรัมเป็ต การร่ายรำ“ xòe” สร้างบรรยากาศที่มีมนต์ขลังในซาปา ช้อปปิ้งในซาปา เช่นเดียวกับพื้นที่ชนบทส่วนใหญ่ในเวียดนาม เมืองซาปาไม่มีห้างสรรพสินค้า แต่การช็อปปิ้งจะเกิดขึ้นที่ตลาดที่ชาวบ้านซื้อและขายสินค้าหลายประเภท และเนื่องจากซาปามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากหมู่บ้านที่ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์ในท้องถิ่นซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในเวียดนาม และแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้มีชื่อเสียงในการทำหัตถกรรมท้องถิ่นที่น่าทึ่ง ยามค่ำคืนในซาปา จะมีชนเผ่ามาวางขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อเครื่องทอผ้าหรืองานแกะสลักแบบดั้งเดิม เพื่อเป็นของขวัญและของที่ระลึก เป้าหมายการเดินทางครั้งต่อไป ให้ซาปาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทาง ไปสัมผัสปราสาททรายแห่งนี้ ปราสาทแห่งธรรมชาติที่จะตราตรึงในใจไปตลอดกาล ภาพประกอบโดยผู้เขียน