อื่นๆ

ซอยหลอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ซอยหลอน

ซอยเล็กๆ ในย่านฝั่งธนที่ทอดยาวผ่านวัดและบ้านเรือนแถวแบบชุมชนสลับผ่านแนวรั้วสวน แม้จะเป็นซอยเล็กแต่ก็ยาวมากเดินกันหลายกิโล ผู้คนจะเดินขวักไขว่กัน แต่ในยามค่ำคืนจะบางตาและเงียบสงัดเพราะไม่มีแสงไฟจากเสาไฟฟ้า จะอาศัยแสงสว่างจากแสงจันทร์และแสงไฟจากบ้านเรือนให้พอมองเห็นทาง หากเดินผ่านสวนจะค่อนข้างมืดและเย็น ส่วนใหญ่มักพกไฟฉายติดตัวคอยส่องทาง

เมื่อเดินผ่านวัดเล็กน้อยจะมีอาม่าแก่ๆเชื้้อสายจีนใส่เสื้อแพรคอจีนยาวกรอมเท้าสีมอๆ นั่งหน้าบ้านยามค่ำคืนมือถือพัดโบกไปมา พอดึกๆหน่อยก็จะเข้าบ้านทิ้งเก้าอี้ที่นั่งประจำไว้หน้าบ้านเป็นภาพที่คนกลับบ้านค่ำๆเห็นประจำแรมปี แต่คนที่กลับหลังห้าทุ่มจะไม่เคยเห็นเพราะอาม่าจะเข้าบ้านแล้ว

สองสามวันนี้อาม่ามักจะชอบนั่งดึกกว่าเดิมยังความแปลกใจให้แก่ผู้ที่กลับดึกๆ แต่ก็ไม่เคยมีใครสนใจ เพราะอาม่ามักจะนั่งเงียบๆไม่พูดจากับใคร

Advertisement

Advertisement

ชัยเป็นคนหนึ่งที่มักจะออกจากบ้านแต่เช้ามืดและกลับเข้าบ้านหลังเที่ยงคืนเสมอ คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดแสงจากบ้านเรือนเริ่มน้อยเพราะส่วนใหญ่จะนอนกันแล้ว เขาใช้ไฟฉายช่วยส่องทางเมื่อเดินเกือบจะถึงวัดหมาเริ่มหอนกันเป็นทอดๆ อากาศเริ่มเย็นเพราะเดินผ่านสวน เมื่อผ่านบ้านอาม่าก็เห็นแกยังนั่งก้มหน้าในมือถือพัดสีดำอยู่หน้าบ้าน

ชัยเริ่มแปลกใจเพราะปกติเวลานี้จะเห็นเพียงเก้าอี้เปล่าตั้งอยู่ แกอยู่ดึกแบบนี้มาสามวันแล้วและทุกครั้งที่ผ่านหมาก็มักหอนจนชิน ชัยทักอาม่าทำไมสองสามวันนี้นั่งดึกและไม่คิดว่าจะได้คำตอบเพราะแกมักไม่พูดแต่ครั้งนี้ผิดคาดอาม่าตอบด้วยเสียงแหบๆ แต่นั่งก้มหน้าเห็นเป็นเงาตะคุ่มดำๆ ว่ายังไม่ง่วง ชัยรับคำแล้วเดินผ่านเพราะยังต้องเดินอีกหลายกิโล เสียงหมาหอนเริ่มเบาบางลงหลังจากเดินมาไกลแล้ว

เช้ารุ่งขึ้นชัยลางานและออกจากบ้านเพื่อหาของกิน ก่อนจะผ่านบ้านอาม่าได้ยินคนละแวกนั้นคุยกันว่าสามวันก่อนอาม่าเดินเข้าบ้านแล้วเป็นลมล้มหัวกระแทกพื้นตาย ชัยได้ยินนึกถึงสามวันที่เห็นอาม่านั่งอยู่ก็เป็นลมทันที

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์