"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พบ แอตเลติโก มาดริดเป็นนัดที่สองในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังจากนัดแรกบุกไปแพ้มา 0 ประตู ต่อ 1 โดยทีมเจ้าบ้านลิเวอร์พูลพึ่งคืนฟอร์มเก่งหลังจากแพ้มา 3 นัดติด ๆ ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะบอร์นมัธไปได้ เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล จึงหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างมากว่าจะล้างตาทีมตราหมี เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปให้สำเร็จ และนัดนี้หงส์แดงได้ตัวหลักกัปตันทีม จอร์แดน แฮนเดอร์สัน คืนสนามอีกครั้ง พร้อมแบ็คซ้ายตัวเก่งชาวสก็อตแลนด์ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่ได้พักมาเต็ม ๆ ขอบคุณภาพประกอบจาก TrueID เปิดเกม ลิเวอร์พูดเปิดเกมบุกหนักตามสไตล์ กดดันทีมเยือนจนทำเกมสวนกลับไม่ได้เลย แต่แอต.มาดริด ทีมเยือนก็มาด้วยแผนรถบัสอยู่แล้ว เน้นตั้งรับรอสวนกลับเท่าที่มีโอกาส หากทำได้สักประตูในเกมเยือนโอกาสเข้ารอบก็จะเปิดกว้างทันที ในเกมครึ่งเวลาแรกนั้นเจ้าถิ่นแทบไม่มีข้อผิดพลาดอะไรให้เห็น ครองบอลอยู่ฝ่ายเดียว บุกหนัก ยิงเยอะ เล่นตามเกมของตัวเอง เน้นโจมตีครอสบอลจากด้านข้าง จนในที่สุดก็บดจนได้ประตูขึ้นนำจากจากการโหม่งอย่างสวยงามของ จอร์จินโย่ ไวนัลดุม ซึ่งวันนี้เล่นได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก เชื่อมเกมทั้งแดนหน้าแดนหลัง ประสานงาน ได้อย่างลงตัวกับ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน อีกคนที่วันนี้เล่นได้ดีเป็นพิเศษ ขอบคุณภาพประกอบจาก TrueID ครึ่งหลังก็แทบจะเป็นรูปแบบเดียวกันกับครึ่งแรก โดยเครื่องจักรสีแดงเดินหน้าเข้าใส่ทีมเยือนจากสเปน ซึ่งแม้ประตูจะตามหลังในเกมอยู่ 1 ลูก แต่ผลประตูรวมยังเสมอกันอยู่ ที่1 -1 ทำให้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ นายใหญ่ของ แอต.มาดริด ก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร ยังคงเล่นตามเกมที่ตั้งใจไว้ แต่ครึ่งหลัง แอต มาดริด มีโอกาสทำเกมสวนขึ้นมาสร้างอันตรายให้เจ้าบ้านมากกว่าครึ่งแรก ลิเวอร์พูลบุกหนัก ยิงเยอะ แต่ ยาน โอบลัค ผู้รักษาประตูทีมเยือนก็ เหนียวหนึบโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟช่วยทีมไปได้หลายครั้ง จบเกมปกติเลยเสมอกันไป 1 ต่อ 1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป 30 นาที ขอบคุณภาพประกอบจาก TrueID ช่วงต่อเวลาพิเศษ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูออกนำห่างจากลูกยิงของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ นับจนถึงเวลานี้แล้วเรียกได้ว่าแทบจะปิดประตูแพ้ไปได้เลย เพราะทั้งสกอร์ ทั้งรูปเกมตกเป็นของ ทีมเจ้าบ้าน ลิเวอร์พูล แทบทั้งหมด แต่หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าสาวกเดอะค็อป ก็ต้องช็อคกันทั้งสนาม เมื่อ อาเดรียน ผู้รักษาประตูชาวสเปน พลาดท่าเคลียร์บอลจากหลังไม่ขาด เตะบอลไปเข้าทางนักเตะแอต.มาดริด และสุดท้ายก็เป็น มาร์กอส ยอเรนเต้ ที่ซัดเข้ามุมประตูไป แอต.มาดริด กลับมากุมความได้เปรียบอีกครั้งตามกฎประตูทีมเยือน ทำให้ลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือก โหมบุกหนัก เพราะต้องได้อีกถึง 2 ประตู จึงจะผ่านเข้ารอบ ขอบคุณภาพประกอบจาก TrueID เมื่อเกมบุกหนักแนวหลังก็ต้องดันสูง ก็เลยเข้าแผนของทีมเยือนที่รอสวนกลับ แล้วก็มาได้ประตูจากลูกยิงของ มาร์กอส ยอเรนเต้ อีกลูก จากความผิดพลาดของแนวรับหงส์แดงที่ช่วงท้ายนั้นเล่นแบบหมดกำลังใจ แถมก่อนหมดเวลายังมาโดนยิงประตูตอกฝาโลงจาก อัลบาโร่ โมราต้า อีกลูก ทำให้ทีมเยือนบุกมาเอาชนะถึงแอนฟิลด์ไปได้ 3 ต่อ 2 รวมผลสองนัดผ่านเข้ารอบไปได้ด้วยประตูรวม 4 ต่อ 2 ฟุตบอลในระดับเกมยุโรปนั้นอาจจะไม่ได้วัดกันที่การยิงประตูได้เท่านั้น แต่อาจจะวัดกันเพียงที่ความผิดพลาดเพียงไม่กี่ครั้งในเกม และนั่นก็เพียงพอที่จะส่งผลให้แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ร่วงตกรอบ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปทันที ------------- รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ....... ลิเวอร์พูล : อาเดรียน, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลดแชมเบอร์เลน,โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่,โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ สำรองที่เปลี่ยนลงสนาม : ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์, ดิว็อค โอริกี้, ทาคูมิ มินามิโนะ แอตเลติโก มาดริด : ยาน โอบลัค, คีแรน ทริพเปียร์, สเตฟาน ซาวิช, เฟลิเป้, เรนาน โลดี้, ซาอูล ญีเกซ,โธมัส ปาร์เตย์, โกเก้, อังเคล กอเรอา, ชูเอา เฟลิกซ์, ดีเอโก้ คอสต้า สำรองที่เปลี่ยนลงสนาม : ซิเม เวร์ซัลจโก้, โชเซ่ ฆิเมเนซ, อัลบาโร่ โมราต้า,มาร์กอส ยอเรนเต้ ขอบคุณภาพปกจาก TrueID