ตัวรถจะไม่มีการตกของสนามแน่นอน หากไม่ได้ถูกกระแทกหนัก ๆ สามารถวิ่งบนโต๊ะเรียบ ๆ หรือบนกล่องได้โดยไม่ต้องกลัวว่าตก แถมยังสามารถหักเลี้ยวกลับไปกลางสนามต่อทั้ง ๆ ที่ไม่มีเซ็นซอร์ หรือปัญญาประดิษฐ์ใด ๆ ในตัวเลยของเล่นที่เกี่ยวกับรถ เป็นหนึ่งในของเล่นสุดฮิตสำหรับเด็กผู้ชาย มีหลากหลายรูปแบบตั้งแต่รถโมเดลสะสม รถบังคับวิทยุ รถที่สามารถแปลงร่างหุ่นยนต์ และรถที่ใช้สำหรับการต่อสู้ ชนกันสนั่นหวั่นไหว ใครคว่ำหรือตกสนามก็แพ้ไป ซึ่งรถประเภทนี้แฟน ๆ ชาวไทยจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เช่น Crushgear Turbo จากแบรนด์บันได จนถึงแบรนด์จีนทำรถต่อสู้ไปบุกตลาดฮิตกันถล่มทลาย แต่หากรู้หรือไม่ว่าทาง Takara Tomy เองก็มีการผลิตรถต่อสู้ไปบุกตลาดด้วยเช่นกัน แม้ว่าในเมืองไทยเองอาจจะนิยมเล่นกันเฉพาะกลุ่มจึงไม่ค่อยดังมาก แต่มีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างมากจนน่ามาจับรีวิวกันสักหน่อยในฐานะของเล่นสุดเจ๋งแห่งความทรงจำ ขอเชิญพบกับKIBAOH Battle Blade KB43 Savage Stealth Fighter (Final set)จากเท่าที่ได้สังเกตตัวของเล่นนั้นเป็นรถต่อสู้ที่เหมือนนำเอาลูกข่างเบย์เบลดมาและรถ Mini 4W มายำกันให้กลายเป็นรถต่อสู้รุ่นนี้ ด้านข้อมูลนั้นค่อนข้างหาได้ยากในระดับหนึ่ง ด้านข้อมูลจึงทราบคร่าว ๆ ว่า เป็นของเล่นไลน์ใหม่ที่กำเนิดขึ้นในราว ๆ ช่วงปี 2011-2012 ซึ่งได้รับความนิยมมากทั้งในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และอีกหลาย ๆ ประเทศ ส่วนในเมืองไทยก็ได้เข้ามาจำหน่ายเมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมาส่วนซีรี่ย์อนิเมะนั้นจะเป็นอนิเมชั่นจากสหรัฐอเมริกา ในชื่อว่า "Kibaoh Klashers" ผลิตโดย Saban ซึ่งผู้สนใจสามารถรับชมได้ที่ Netflix จุดเด่นของ KIBAOH Battle Blade นั้นจะเป็นการนำชิ้นส่วนเบลดขนาดใหญ่ที่อยู่หน้ารถ มาใช้ในการต่อสู่ รวมถึงพาร์ทของรถเองก็มีส่วนช่วยในการโจมตีให้เต็มประสิทธิภาพได้ แถมพาร์ทและเบลดสามารถโมดิฟายเพื่อปรับรูปแบบการต่อสู้ได้ตามต้องการแต่จุดเด่นสำคัญของของเล่นไลน์นี้ (และเป็นระบบที่แปลกกว่าชาวบ้านเค้า) ก็คือ "ตัวรถจะไม่มีการตกของสนามแน่นอน หากไม่ได้ถูกกระแทกหนัก ๆ" อ่านไม่ผิดครับ ตัวรถจะสามารถวิ่งรอบสนามได้โดยไม่จำเป็นต้องมีกำแพงกั้น สามารถวิ่งบนโต๊ะเรียบ ๆ หรือบนกล่องได้โดยไม่ต้องกลัวว่าตก แถมยังสามารถหักเลี้ยวกลับไปกลางสนามต่อได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเซ็นซอร์ หรือปัญญาประดิษฐ์ใด ๆ ในตัวเลย แต่ก่อนที่จะมาเล่าถึงจุดนี้ มาแกะกล่องรีวิวพร้อม ๆกันดีกว่าแกะกล่องลองประกอบความประทับใจอย่างแรกก็คือชิ้นส่วนจะถูกใส่แยกไว้ ไม่ต้องใช้คีมหรือมีดตัดแผงพลาสติกใด ๆ แต่การยึดชิ้นส่วนเข้ากับกล่องทำได้แน่นหนาอย่างมากทั้งเทป ทั้งลวดเมื่อแกะมาดูส่วนของตัวแชสซีส์จะมีล้อใหญ่ด้านหลัง 2 ล้อ แต่น่าสนใจที่ว่าล้อข้างขวาจะหมุนฟรีกว่าล้อข้างซ้าย, ล้อเล็ก 2 ล้อที่ไม่ได้หุ้มยางใด ๆ แถมเป็นแบบเพลาเดียวที่เกาะหลวม ๆ และมีล้อสีขาวตรงกลางอีกล้อที่วางแนวขวาง แต่ก่อนจะเล่นก็ต้องประกอบเป็นรูปร่างก่อน โดยแหล่งพลังงานนั้นจะต้องใช้แบตเตอรี่ AAA จำนวน 2 ก้อน จากนั้นให้ประกอบพาร์ทหน้า-หลัง, ใส่เบลดตรงแกนหมุนด้านหน้า สุดท้ายก็ครอบบอดี้และเสียบเดือยล็อกก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดยผู้เล่นสามารถเลือกตกแต่งสติ๊กเกอร์ได้ด้วยตัวเอง แต่ตัวสติ๊กเกอร์ค่อนข้างหนาและเหนียวทีเดียวความประทับใจของของเล่นไลน์นี้ ก็คือการออกแบบที่มีบุคลิกที่ดุดัน น่าดึงดูด เมื่อผนวกกับชิ้นส่วนเบลดขนาดใหญ่ ก็จะช่วยทำให้การต่อสู้มีความหลากหลายยิ่งขึ้นอย่างที่กล่าวข้างต้น ทีเด็ดของ KIBAOH ก็คือความสามารถในการวิ่งที่ไม่ตกขอบสนาม ความลับอยู่ที่ส่วนที่เป็นล้อสีขาวที่วางแนวนอนต่างจากล้อทั้ง 4 โดยเมื่อเวลาวิ่งตามปกติ ล้อหลังจะทำหน้าที่ส่งกำลังขับเคลื่อน เพลาล้อหน้าจะทำหน้าที่ค้ำตัวแชสซีส์ให้อยู่สูงจากพื้น แต่ถ้าล้อหน้าไม่ได้เกาะสนาม จนทำให้ตัวรถยุบลง ล้อกลางจะทำหน้าที่ควบคุมทิศทางโดยอัตโนมัติ ทำให้ตัวรถสามารถตีกลับเข้าสู่สนามได้ และหากสังเกตดี ๆ ตัวรถจะตีกลับแบบหันขวาตลอก เพราะตัวล้อกลางถูกเซ็ตไว้ให้วิ่งเลี้ยวขวาตลอด (สังเกตได้จากลูกศรที่ใต้ท้องรถ)และเพื่อความสมบูรณ์ของตัวลูกเล่นนี้ ทุกชิ้นส่วนที่ประกอบเข้าไปจนมีความสมดุลที่มีความเหมาะสม จำนวนรอบของมอเตอร์และความเร็วที่อยู่ในเกณฑ์กำลังดี และมีล้อหลังด้านขวาจะหมุนฟรี ไม่ว่าจะวิ่งเกือบตกสนามสักกี่ครั้งก็สามารถตีเลี้ยวขวากลับขึ้นสนามได้ตลอดเวลา ซึ่งนี่คือความลับของรถต่อสู้จากไลน์ KIBAOH นั่นเอง สามารถชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ Mr. Leviathan ได้ที่นี่ครับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรวิ่งบนพื้นเรียบ ๆ เช่น หลังกล่องของเล่น ไม่ขรุขระเกินไปหรือพื้นสนามไม่มั่นคง เพื่อให้การเล่นมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นหากเราเผลอจับส่วนเบลดที่กำหลังหมุนอยู่ จะทำให้เจ็บมือได้หรือไม่? คำตอบก็คือ ไม่เจ็บ แต่ไม่แนะนำให้จับตรงๆ โดยตัวเบลดนั้นมีหน้าตัดที่กว้าง ตัวพลาสติกแทบไม่มีส่วนคมรวมถึงตัวแกนที่หมุนจะแยกส่วนจากเบลด เมื่อจับไปตัวเบลดจะไม่หมุนแม้ว่าล้อและแกนกลางจะยังคงทำงานอยู่ แต่ทางที่ดีควรจับที่ด้านข้างรถหรือหลังรถจะอุ่นใจมากกว่า หากไม่กลัวนิ้วบาดก็ส่งผลต่อการพังของชิ้นส่วนได้ อะไหล่ก็หาไม่ได้ง่าย ๆ ด้วยสำหรับข้อด้อยนั้นผมมองว่าการโมดิฟายต่าง ๆ คงจะทำได้ยากนิดหน่อยเนื่องจากตัวเฟืองและชิ้นส่วนต่าง ๆ ถูกออกแบบเป็นแบบเฉพาะตัวเลย เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่สามารถหาอะไหล่เทียบได้ ตัวมอเตอร์เองนั้นใช้การบัดกรีขั้วเอา ต้องพึ่งหัวแร้งในการช่วยละลายและเชื่อมตะกั่วบัดกรี รวมไปถึงหากใช้มอเตอร์รูปแบบอื่นก็อาจจะส่งผลต่อการเลี้ยวกลับสนามได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งหากใครที่จะลองไปโมดิฟายให้แรงขึ้นก็คงต้องคิดกันหนักทีเดียวสำหรับคะแนนรีวิว ในครั้งนี้จะประเมินจากทัศนคติตัวผู้เขียนเองด้วยคะแนนจากมาก-แพงสุด 5 คะแนน ไปน้อย-ถูกสุด 1 คะแนน ดังนี้ความสวยงามของแพ็คเกจ : 3ความสวยงามตัวของเล่น : 3ลูกเล่น : 5ขนมของแถม : 0ราคา : 2KIBAOH Battle Blade KB43 Savage Stealth Fighter (Final set) สัมผัสกับเทคโนโลยีอนาล็อกแต่ให้ความเจ๋งที่ไม่แพ้เทคโนโลยีดิจิตอล อารมณ์ประมาณว่า เฮ้ย ลูกเล่นแบบนี้คิดมาได้อย่างไร มันเจ๋งกว่าที่คิด แถมดีไซน์ที่ดูโดดเด่น แตกต่างจากใคร ๆ ดูน่าสะสมอยู่ไม่น้อยแม้ว่าในเวลานี้จะกลายเป็นของเล่นที่เก่าตามกาลเวลา แต่เมื่อได้สัมผัสก็ทำให้รู้สึกถึงอดีตอันแสนหอมหวาน และได้รำลึกถึงความสนุกสนานเมื่อได้เล่นกับเพื่อน ได้ทั้งความเพลิดเพลินและสังคมควบคู่กันไป บทความต่อไปจะนำของเล่นอะไรมารีวิวกันต่อก็อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ...เครดิตภาพประกอบทั้งหมดโดย Mr. Leviathan