เรามีโอกาสได้ไปเที่ยวพระราชวังมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นพระราชวังสุดท้ายแห่งระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของพม่าซึงถูกก่อสร้างขึ้นมาในรัชสมัยของพระเจ้ามินดง โดยพระเจ้าธีปอผู้เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่าก็เคยประทับอยู่ที่พระราชวังแห่งนี้ เมื่อเห็นพระราชวังนี้แต่ไกลครั้งแรก เรารู้สึกว่ามีความยิ่งใหญ่อลังการมาก แต่เมื่อได้เข้าไปชมสัมผัสอย่างใกล้ชิดก็เห็นได้ว่าความสวยงามวิจิตรที่น่าจะเคยมีในสมัยโบราณนั้นคงหายไปเยอะมาก เพราะเกือบทั้งหมดของที่นี่ถูกสร้างจำลองขึ้นใหม่จากของเดิมที่พังไปในระหว่างสงคราม บริเวณพระราชวังส่วนใหญ่นั้นถูกทำลายไปในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเหลือเพียงส่วนอาคารกรมธนารักษ์ หอนาฬิกา กำแพงวัง และซุ้มประตูปราสาทเท่านั้นที่เป็นของดั้งเดิมซึ่งเหลือรอดจากการถูกทำลาย ส่วนที่เราเห็นเป็นวังและท้องพระโรงนั้นถูกสร้างจำลองขึ้นใหม่ในช่วงปี ค.ศ.1990 ด้วยวัสดุสมัยใหม่โดยรัฐบาลพม่าจากการลอกแบบมาจากโครงสร้างเดิมนั่นเอง ไกด์ท้องถิ่นของพม่าบอกเราว่าวังเดิมนัั้นไม่ได้ใช้การทาสีทองแบบที่เห็นตอนนี้ หากแต่ใช้การตกแต่งประดับด้วยทองจริงเกือบทั้งหมด ต่อมาภายหลังถูกระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่สองบ้าง ถูกอังกฤษมาเผาไปบ้าง ขนของจากพระราชวังที่นี่กลับไปอังกฤษเกือบหมด ก็แทบไม่หลงเหลือทองคำกับของโบราณไว้เลย ของเก่าหลายอย่างในพม่าไปอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่อังกฤษให้คนอังกฤษได้ดู แต่คนพม่าแทบไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว พอฟังถึงตรงนี้ทำให้เรานึกถึงสมัยอยุธยาที่เคยเรียนมาว่าประดับด้วยทองอร่ามไปทั่วทั้งพระราชวัง สุดท้ายโดนพม่าเผาวอดวายในช่วงเสียกรุงครั้งที่ 2 ไม่หลงเหลือทองและความสวยวิจิตรให้เรารุ่นหลังได้เห็นอีก เหลือเพียงซากให้เราต้องจินตนาการกันเอาเองว่าอยุธยานั้นสวยงามอลังการวิจิตรขนาดไหน เราแอบคิดนะว่าเหตุการณ์ที่พม่าเจอนั้นช่างเหมือนกับช่วงที่อาณาจักรอยุธยาโดนเผาทำลายเช่นกัน พม่าในช่วงเวลาก่อนที่อังกฤษจะเข้ามายึดนั้นดูเป็นอาณาจักรที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ ใครจะไปเชื่อว่าสุดท้ายจะพบกับจุดจบของยุคสมัยแบบนี้ ซึ่งก็คงเกิดขึ้นได้กับทุกอาณาจักร คือมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เหตุการณ์ที่พม่าต้องสิ้นราชวงค์ พระราชวังก็ถูกเผา ขนทรัพย์สินไปหมดนั้น ก็เป็นเหตุการณ์ที่ชาวพม่าเจ็บปวดใจมาก ไม่ค่อยมีชาวพม่าคนไหนอยากจะพูดถึงมากนัก เมื่อได้ฟังประวัติศาสตร์แล้วทำให้รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรอยู่คงทนถาวร ไม่มีสิ่งใดหนีพ้นสัจธรรมข้อนี้ เมื่อมีวันรุ่งโรจน์ก็ย่อมต้องมีวันเสื่อมและสิ้นสุด คงเหลือแต่ดีชั่วสินะ ที่จะเป็นสิ่งที่หลงเหลืออย่างแท้จริงให้คนรุ่นหลังได้จดจำและเรียนรู้ ใครที่ได้ไปเที่ยวพระราชวังมัณฑะเลย์นั้น นอกจากจะได้ชมความสวยงามของสถานที่แล้วยังได้เห็นความเป็นไปทางประวัติศาสตร์ของพม่าในช่วงสุดท้ายของการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อีกด้วย และถ้าใครอยากเห็นภาพชัดเจนขึ้นก็ลองหาละครเรื่องเพลิงพระนางหรือเรื่องรากนคราที่ฉายจบไปนานแล้วมาดูก่อนจะไปเที่ยว ก็จะยิ่งอินไปกับการท่องเที่ยวเมืองมัณฑะเลย์แห่งนี้ยิ่งขึ้น เครดิต ภาพถ่ายโดยนักเขียน