สวัสดีค่า สำหรับบทความในรอบนี้เราจะมารีวิวกล้องฟิล์ม Kodak PowerFlash 800 เป็นกล้องฟิล์มประเภทใช้แล้วทิ้งกันค่ะ ซึ่งไอเจ้ากล้องใช้แล้วทิ้งเนี่ย มันมีมาตั้งแต่สมัยยุค 60 แล้วนะ แต่ในสมัยก่อนจะเป็นกล้องกระดาษ วางขายตามสถานทีท่องเที่ยวต่าง ๆ เพราะในสมัยก่อนไม่มีมือถือ ไม่มีกล้องดิจิตอลสะดวกสบายแบบสมัยนี้ และถ้าเกิดนักท่องเที่ยวอยากถ่ายรูปแล้วลืมพกกล้องมาก็จะได้ใช้กล้องใช้แล้วทิ้ง ซึ่งมีทั้งตัวกล้องและฟิล์มอยู่ในนั้น พร้อมให้ถ่ายบันทึกภาพช่วงเวลานั้นได้ค่ะ นี่คือโฉมหน้าของเจ้า Kodak PowerFlash 800 เป็นกล้องที่ผลิตโดย Kodak ชื่อรุ่นก็คือ PowerFlash ส่วนตัวเลข 800 หมายถึงค่า ISO ของฟิล์มข้างในกล้องค่ะ แต่ในเรื่อง F. กับ Speed Shutter ทาง Kodak ฟิกค่าไว้ที่ F.22 ,Speed Shutter อยู่แถว ๆ 1/100 (แต่ถึงแม้ว่าจะใส่ฟิล์ม ISO 800 แต่ถ่ายในที่แสงน้อย ยังไงก็ต้องเปิดแฟลชแน่ ๆ ไม่งั้นภาพที่ได้ก็อาจมืดหน่อย) รุ่นนี้ถ่ายได้ 27 รูป +12 (มันจะมีตัวเลขบอกที่กล่องด้านหน้าว่า 27+12) ก็คือจะถ่ายได้รวม 39 รูปโดยประมาณ ด้านหน้า มีเลนส์ น่าจะประมาณระยะ 25-28 mm (อันนี้ไม่แน่ใจระยะนะคะเพราะไม่ได้บอกมา แต่ภาพออกมากว้างอยู่) มีปุ่มเปิดแฟลชอยู่ที่ด้านหน้านี้ กดหนึ่งทีจะเปิดแฟลช ไฟจะขึ้นที่ด้านบนกล้อง แสดงว่าแฟลชพร้อมใช้งาน แต่ถ้าจะถ่ายต่อโดยที่ไม่ใช้แฟลช อาจต้องรอประมาณสองนาทีแฟลชถึงจะปิดตัวเองลง ด้านหลัง มีช่องมองภาพ ซึ่งภาพที่ถ่ายออกมาจะกว้างกว่าที่เห็นในช่องมองนี้ ข้าง ๆ กันเป็นตัวเลื่อนฟิล์ม ที่ด้านหลังนี้จะมีวิธีใช้กล้องแบบง่าย ๆ ที่ทำตามสเต็ปไปเลย ไม่ยุ่งยาก ด้านบน จะเป็นปุ่มชัตเตอร์ ข้าง ๆ จะมีตัวเลขแสดงจำนวนที่เหลือของภาพที่ถ่ายได้ ถัดไปจะเป็นไฟดวงเล็ก ๆ บอกสถานะแฟลช ถ้าติดอยู่ก็แปลว่าสามารถใช้แฟลชได้ ถ้าดับก็คือจะถ่ายโดยไม่ใช้แฟลช (ไฟดวงนี้แหละที่บอกไปข้างต้นว่าอาจต้องรอประมาณสองนาทีแฟลชถึงจะปิดตัวเองลง) และระยะการยิงแฟลชควรใช้ที่ระยะห่างจากวัตถุที่ถ่ายประมาณ 1.20-4.5 เมตรตามที่กล้องแนะนำไว้ค่ะ ด้านล่าง มีวันหมดอายุ และมีช่องใส่ฟิล์มอยู่ อย่าไปแงะมันล่ะ!! การใช้งาน 1. หลังจากแกะกล้องออกจากกล่องและห่อแล้ว ก็เลื่อนตัวเลื่อนฟิล์มไปทางขวาจนสุด จนรู้สึกว่ามันหมุนต่อไม่ได้ นั่นคือพร้อมให้เรากดถ่ายรูปแรกแล้วค่ะ 2. ถ้าต้องการเปิดแฟลช ให้กดปุ่มแฟลชด้านหน้า ให้ไฟด้านบนขึ้นสีแดง แปลว่าแฟลชพร้อมใช้งาน 3. เล็งภาพที่ช่องมองภาพ และกดชัตเตอร์ได้เลย (ตอนกดชัตเตอร์ มันจะมีเสียงดังแก๊ก! แปลว่ารูปนั้นได้ทำการบันทึกลงฟิล์มไปแล้ว) 4. หลังจากกดถ่ายรูปแรกไปก็เลื่อนตัวเลื่อนฟิล์มไปจนสุด เป็นการเริ่มถ่ายรูปต่อ ๆ ไป ขั้นตอนรวม ๆ ก็มีแค่นี้ค่ะ กดถ่าย เลื่อนฟิล์ม กดถ่าย วนไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะถ่ายจนครบ ซึ่งเราสามารถดูด้านบนได้ว่าเราเหลืออยู่กี่ภาพ มันจะมีตัวเลขคอยบอก เมื่อถ่ายครบก็พาไปที่ร้านล้างฟิล์มได้เลย ตัวอย่างภาพ โลเคชั่นในภาพ : เขาตะเกียบ พระราชวังมฤคทายวัน และ หาดหัวหิน ภาพเหล่านี้ถ่ายในช่วงระยะเวลา 7:00-12:00 น. ช่วงกลางวันท้องฟ้าโปร่งแดดกำลังแรง โลเคชั่นในภาพ : เกาะกูด จ.ตราด ภาพเหล่านี้ถ่ายในช่วงระยะเวลา 8:00 - 16:00 น. ช่วงกลางวันท้องฟ้าโปร่งแดดกำลังแรง ประมาณนี้นะคะสำหรับเจ้ากล้องใช้แล้วทิ้งของโกดักตัวนี้ เท่าที่ลองในหลาย ๆ สภาพแสง เราว่ากล้องและฟิล์มมันให้ภาพที่ออกมาถูกใจมากเลยทีเดียว กับราคาประมาณแถว ๆ 400 บาท ถ่ายได้ตั้ง 39 รูป มันก็ง่าย ๆ แต่คุ้มดีนะคะ สรุป เราคิดว่ากล้องตัวนี้ก็เหมือนกับกล้องใช้แล้วทิ้งทั่วไปที่มีการ ฟิก F. และ Speed Shutter ไว้ กล้องประเภทนี้น่าจะเหมาะสำหรับการถ่ายภาพระหว่างวันที่มีแสงสว่างมาก เช่น ภาพ Outdoor กลางแจ้ง และถ้าได้แดดดี ๆ สีสันก็จะออกมาสดมาก (ส่วนเวลานอกเหนือจากนั้นก็ยังถ่ายได้แต่ต้องเปิดแฟลชเพื่อให้ได้ภาพออกมาไม่มืดจนดูไม่รู้เรื่อง) แต่ด้วยความที่มันเป็นกล้องใช้แล้วทิ้ง ทำให้คุณภาพของภาพมันจะต่ำกว่ากล้องฟิล์มทั่วไปนิดนึง แต่การใช้งานมันจะง่ายกว่ามาก เพราะมันแทบไม่ต้องคิดอะไรเลย ดูแสง ดูมุมที่ต้องการถ่าย (ถือให้ห่างจากแบบเกิน1เมตรขึ้นไปพอ) แล้วก็กดถ่ายเลย มาลุ้นเอาตอนล้างฟิล์มพอค่ะ ข้อดี 1. ใช้งานง่าย มีตัวเลขกำกับว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง มีขนาดเล็กมาก พกพาง่าย แต่ไม่พังง่ายนะคะ 2. ได้อารมณ์ของภาพฟิล์มของจริง (ก็มันเป็นกล้องฟิล์มจริงๆอ่ะเนอะ) ข้อเสีย 1. ปรับค่าอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ได้แค่เปิดปิดแฟลชนะคะ 2. คุณภาพของภาพต่ำกว่ากล้องฟิล์มปกติทั่วไป ถ้าคนชอบความเบลอ ๆ มัว ๆ ของฟิล์ม อันนี้ก็จะเป็นข้อดีค่ะ 55555 3. การถ่ายภาพฟิล์มก็มักจะมีค่าใช้จ่ายในการล้างฟิล์มด้วย ค่ากล้องก็ประมาณ 400 กว่าบาทแล้ว ค่าล้างจะประมาณ 120-160 แล้วแต่ร้าน เฉลี่ยแล้วรูปนึงก็จะประมาณเกือบ 10 บาท (ภาพถ่ายมีมูลค่านะคะ) เท่านี้นะคะกับการรีวิวกล้อง Kodak PowerFlash 800 เป็นกล้องที่เหมาะกับคนที่อยากลองถ่ายรูปด้วยกล้องฟิล์ม หรือคนที่ต้องการภาพแนวฟิล์ม ๆ เก่า ๆ ถ้าหากยังไม่คิดจะซื้อกล้องฟิล์มจริง ๆ จัง ๆ ก็ลองมาเล่นตัวนี้ก่อนได้นะคะ ไว้เจอกันใหม่บทความหน้านะ บ๊ายบายยยยย **ภาพประกอบบทความทั้งหมดนี้ถ่ายโดยผู้เขียนค่ะ ขอความกรุณาไม่นำรูปไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตนะคะ