มัตสึยาม่า (Matsuyama) เป็นเมืองหนึ่งในจังหวะเอฮิเมะ (Ehime) และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ประชากรมากที่สุดของเกาะชิโกกุ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมัตสึยาม่า คือ เมืองน้ำพุร้อนโดโงะออนเซน (Dogo Onsen) และปราสาทมัตสึยาม่า (Matsuyama Castle) ทริปนี้เรามีเวลาเที่ยวมัตสึยาม่า 1 วัน จึงไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมทั้ง 2 สถานที่นี้ค่ะ เราออกเดินทางโดยรถไฟจากเมือง Utazu มายังมัตสึยาม่า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที จากนั่งนั่งรถรางมาลงที่สถานี Okaido เพื่อที่จะนั่งเก้าอี้ลิฟต์ขึ้นไปยังปราสาทมัตสึยาม่า ระหว่างทางจากสถานีรถรางไปยังสถานีกระเช้า จะเรียงรายด้วยร้านค้าอยู่ 2 ข้างทาง สามารถแวะซื้อของฝากท้องถิ่นติดไม้ติดมือกันได้ ปราสาทมัตสึยาม่าตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง สามารถเข้าถึงได้โดยการขึ้นกระเช้าไฟฟ้า หรือนั่งเก้าอี้ลิฟต์ หากมากับผู้สูงอายุหรือเด็ก แนะนำให้ขึ้นกระเช้า แต่สำหรับใครที่ยังไหว อยากสัมผัสบรรยากาศและความตื่นเต้น ควรนั่งเก้าอี้ลิฟต์ นอกจากจะได้ชมวิวอันสวยงามระหว่างทางแบบไม่มีกระจกกั้นแล้ว ยังจะได้ลุ้นระทึกตลอดทาง เพราะเก้าอี้ไม่มีเครื่องป้องกันหรือที่กั้นใด ๆ อาศัยเกาะเสาให้แน่น ๆ เท่านั้น ขบวนเก้าอี้จะหมุนวนเป็นรอบจากด้านล่างสู่ด้านบนไม่มีการหยุดพัก ดังนั้นเวลาจะขึ้น-ลง เก้าอี้ จะต้องอาศัยจังหวะกันเล็กน้อย ปราสาทมัตสึยาม่า เป็น 1 ใน 12 ปราสาทหลังเดิมของญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ตั้งแต่ปี 1868 ด้านบนปราสาทสามารถมองเห็นวิวอันกว้างไกลของเมืองมัตสึยาม่า พื้นที่รอบ ๆ ปราสาทมีต้นซากุระมากกว่า 200 ต้น เหมาะแก่การมาชมซากุระ ส่วนภายในปราสาทใช้จัดแสดงนิทรรศการประวัติความเป็นมาของเมืองมัตสึยาม่า วันที่เราไปนั้น หมอกลงหนักมาก ทำให้เห็นวิวเมืองไม่ชัด แต่โชคดีเจอซากุระบานทั่วปราสาท ด้านล่างปราสาทมีร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร เราฝากท้องไว้ที่นี่ด้วยอุด้งร้อน ๆ 1 ชาม ก่อนกลับก็ไม่พลาดที่จะชิมซอร์ฟเสิร์ฟรสส้ม เพราะส้มถือเป็นของขึ้นชื่อเมืองมัตสึยาม่า ออกจากปราสาทมัตสึยาม่า เรานั่งรถรางไปลงที่สถานีโดโงะ (Dogo Onsen Station) ตัวสถานีมีโครงสร้างเป็นสถาปัตยกรรมสมัยเมจิ และเป็นที่จัดแสดงอนุสาวรีย์หัวรถจักรไอน้ำ “Bot-chan” บริเวณหน้าทางเข้า Dogo Onsen มีหอนาฬิกา Botchan Karakuri ตั้งอยู่ โดยจะคอยตีบอกเวลาทุก 1 ชั่วโมง หรือทุก 30 นาทีในบางฤดูกาล ความพิเศษของหอนาฬิกานี้ เมื่อตีนาฬิกา จะมีเสียงเพลงบรรเลง พร้อมกับตุ๊กตาออกมาเต้นให้ชมเป็นเวลาประมาณ 5 นาที นอกจากนี้ข้างหอนาฬิกายังมีบ่อน้ำร้อนเล็ก ๆ ให้ได้นั่งแช่เท้า ใครที่ไม่ได้วางแผนมาแช่บ่อน้ำร้อนแบบเรา จะมาแช่เท้าที่นี่ก็ไม่เสียหายนะคะ หลังจากแช่เท้าเสร็จ เราเดินผ่านย่านชอปปิ้งที่ยาวประมาณ 250 เมตร เพื่อไปยังบ่อน้ำพุร้อนโดโงะ บ่อน้ำพุร้อนโดโงะ เป็นบ่อน้ำพุร้อนเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีอายุกว่า 3000 ปี ไม่เพียงแต่บ่อน้ำพุร้อน โครงสร้างไม้ของอาคารยังมีลักษณะเป็นแบบโบราณ ที่ถูกจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมแห่งแรกของญี่ปุ่น ยอกจากนี้บ่อน้ำร้อนแห่งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจของอนิเมชั่นเรื่อง “Spirited Away” อีกด้วย น่าเสียดายที่ครั้งนี้เราไม่ได้แช่บ่อน้ำร้อน ได้แค่เพียงเดินเล่นชมรอบ ๆ ห้องอาบน้ำ แต่การได้นั่งแช่เท้าที่บ่อน้ำร้อนด้านหน้าก็พอแก้ขัดได้บ้างเล็กน้อย ก่อนกลับเราเดินไม่ไกลจากบ่อน้ำร้อนเพื่อไปยังสวนสาธารณะโดโงะ ซึ่งสวนนี้ถือเป็นจุดชมซากุระที่นิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองมัตสึยาม่า พวกเราโชคดีที่มาช่วงซากุระบาน เลยได้เจอชาวเมืองออกมาปิกนิกกัน ใครที่มีแพลนมาเที่ยวเกาะชิโกกุ อย่าลืมมาเมืองมัตสึยาม่าให้ได้นะคะ แต่ช่วงนี้ไวรัสระบาดหนัก ไว้รอสถานการณ์คลี่คลายแล้วค่อยมาเที่ยวกันค่ะ ที่สำคัญรักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ :) เครดิต: ภาพถ่ายโดยผู้เขียน