สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาทุกคนมาสัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายแบบบ้าน ๆ กางเต็นท์ ตากหมอก นอนรับลมที่ริมแม่น้ำโขง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคายกัน เราออกจากตัวเมืองอุดรธานี มุ่งหน้าไปที่บ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โดยใช้ระยะเวลาเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง คงเพราะไม่คุ้นเส้นทางด้วย จึงใช้เวลานานหน่อย ซึ่งเป้าหมายของเราอยู่ที่ "ตากหมอก นอนเบิ่งดาว" เป็นที่พักกางเต็นท์ติดริมแม่น้ำโขง เราหาข้อมูลที่พักก่อนที่จะมาเยอะพอสมควร เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะได้มีโอกาสคุยกับพี่เจ้าของ "ตากหมอก นอนเบิ่งดาว" พี่เค้าอัธยาศัยดีมาก เป็นกันเองสุด ๆ แถมที่พักอยู่ติดกับจุดขึ้นรถชมภูห้วยอีสันอีกด้วย ตื่นปุ๊บกระโดดขึ้นรถอีแต๊กปั๊บเลยก็ว่าได้ เรามาถึงที่พักก็ราว ๆ 4-5 โมงเย็นแล้ว ลงรถปุ๊บบอกเลยตื่นเต้นมาก นักท่องเที่ยวเยอะพอสมควร เดินเข้าไปก็จะมีพี่ ๆ มาต้อนรับ เพื่อที่จะพาไปเต็นท์ที่เราจองไว้ก่อนแล้ว ซึ่งราคาก็ไม่แพงนะคะ เต็นท์ที่เป็นโดมจะอยู่ที่ 450 บาท / 2 คน ส่วนเต็นท์เสริม 400 บาท / 2 คน ค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน พอเราเก็บของเข้าเต็นท์กันเสร็จ ก็พากันไปเดินเล่น เพื่อหาวิวถ่ายรูปตามที่พักแล้วก็ริมแม่น้ำโขง ก่อนที่พระอาทิตย์จะตก แสงสวยมาก วิวสวยใช้ได้เลยแหละ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน พอตกเย็น ก็เริ่มหิวแล้วค่ะทุกคน บอกก่อนเลยว่าเราสามารถเตรียมอาหาร เครื่องดื่มมาได้เอง โดยไม่มีการชาร์จค่าอะไรทั้งสิ้นนะคะ แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลาเตรียมหรือต้องการอะไรเพิ่ม สามารถบอกกับทางเจ้าของที่พักได้เลยค่ะ ทางร้านมีอุปกรณ์ เตาย่าง อาหาร หรือแม้กระทั่งมีขนม เครื่องดื่มไว้คอยบริการพวกเราเต็มที่ค่ะ ทางเราชอบมาก ๆ เลยก็คงจะเป็น เนื้อย่าง อีกอย่างราคาก็ไม่แพงนะคะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ตกดึกพอทุกคนเริ่มอิ่ม อากาศเย็นกำลังดี ก็คงจะพลาดไม่ได้กับการนั่งชิล คุยกัน ฟังเพลงเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะมีมาแบบครอบครัวบ้าง เพื่อนกลุ่มใหญ่ ๆ บ้าง ซึ่งทางเจ้าของที่พักก็น่ารักมาก เค้าก็จะจัดเตรียมเต็นท์สำหรับคนที่มาด้วยกัน อยู่โซนติดกันหมดเลย ทำให้สะดวก เดินหากันง่ายขึ้น ห้องน้ำก็จะเป็นห้องน้ำรวมนะคะ แต่สะอาดดี เราเก็บภาพบรรยากาศช่วงกลางคืนมาฝากค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน พอเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นประมาณตีห้า อากาศเย็นมาก หนาวกำลังดีเลย ทุกคนก็ต้องตื่นเตรียมตัว เพื่อที่จะไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ "ภูห้วยอีสัน" กัน ซึ่งเราโชคดีมากที่เลือกที่พักใกล้กับจุดขึ้นรถอีแต๊ก พอทุกคนเตรียมตัวเสร็จเราก็ไปต่อคิวขึ้นรถอีแต๊กกัน ค่ารถขึ้นภูอยู่ที่ 60 บาท ทั้งขาไปและขากลับเราสามารถเลือกนั่งคันไหนก็ได้นะคะ ระหว่างทางขึ้นภูห้วยอีสัน เป็นอะไรที่ตื่นเต้นและสนุกมาก ๆ เสียงเครื่องดังแต๊ก ๆ ๆ ๆ สมชื่อเลย ทางขึ้นเป็นทางลาดชันและขรุขระ ได้อารมณ์เหมือนผจญภัยมาก ส่วนทั้งสองข้างทางรายล้อมไปด้วยป่าสวนยางพารา แถมยังมืดมาก ๆ ด้วย เห็นแค่เพียงไฟท้ายรถอีแต๊กคันด้านหน้า และคันที่กลุ่มเรานั่งเท่านั้น นี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่าได้มาเที่ยวกลิ่นอายแบบบ้าน ๆ วิถีไท๊ยไทยของจริง เราใช้เวลาประมาณ 20 - 30 นาทีในการขึ้นไปถึงจุดชมวิว ตอนถึงยังมืด ๆ อยู่ พวกเราเลยนั่งรอ... รอหมอกและรอแสงแรกของวันกัน ตอนแรกคิดว่าโชคไม่ดีเท่าไร เพราะมีหมอกลอยขึ้นแค่นิดหน่อยเท่านั้น แต่เห้ย เราว่ามันก็สวยนะ มองเห็นหมอกจาง ๆ ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำของแม่น้ำโขง และลอยเรี่ย ๆ บนภูเขา บวกกับแสงแรงของวันกำลังขึ้นพอดี อย่างน้อยก็ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า ให้หน้าได้ปะทะลมเย็น ๆ บนภูเขา เราจึงได้ภาพนี้ออกมาค่ะ ภาพภ่ายโดยผู้เขียน ลืมบอกว่าข้างบนนี้ก็มีโอวัลติน กาแฟ ข้าวจี่ร้อน ๆ ไว้บริการด้วยนะคะ ภายถ่ายโดยผู้เขียน พอพระอาทิตย์ขึ้น หมอกหายไป ทุกคนก็จะเริ่มต่อแถวรอคิว เพื่อขึ้นรถอีแต็กลงภูกลับที่พักกันค่ะ ภาพถ่ายโดยผู้เขียน ก่อนที่เราจะเตรียมตัวกลับกัน ทางที่พักมีบริการอาหารเช้า ให้เราเลือกที่นั่งกันได้ตามสบาย จะนั่งห้อยขาชิล ๆ ชมบรรยากาศริมแม่น้ำโขงก็ได้นะคะ จบทริปนี้แล้วบอกเลยว่า บรรยากาศดีจนไม่อยากเช็คเอาท์กันเลยทีเดียว สำหรับใครที่หลงรักการแคมป์ปิ้ง บรรยากาศดี ๆ เราอยากให้ทุกคนไปลองสัมผัส เพราะเราอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกได้ไม่เท่ากับที่เราได้ไปสัมผัสจริง ๆ มานะคะ มากอดบรรยากาศของทะเลหมอก "ภูห้วยอีสัน" กัน เครดิตภาพ : ผู้เขียน สถานที่ : ตากหมอก นอนเบิ่งดาว และ ภูห้วยอีสัน อ.สังคม จ.หนองคาย