อื่นๆ
คุณย่าที่รัก
ตอนนั้นเราอายุ 13 ปี และเป็นช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งปกติคุณย่าจะเดินมาหาเราในทุก ๆ เช้า และเย็น คุณย่าเป็นคนนิสัยดี รักหลาน ซึ่งเราจะติดคุณย่ามากๆ ไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะบอกคุณย่าตลอด เรื่องที่เกิดนี้ผ่านมา 11 ปีแล้ว แต่เราก็ยังคิดถึงคุณย่าตลอดเพราะทำใจไม่ได้เลย เพราะเราอยู่กับท่านตั้งแต่เกิด
คุณย่าป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง และต้องไปหาหมอกินยาตลอด การที่ไปโรงพยาบาลเอายาต้องนั่งรถประจำทางไป ซึ่งไกลจากบ้านค่อนข้างมาก ทำให้เราอดเป็นห่วงไม่ได้ เราเลยนั่งรถประจำทางไปดูแลคุณย่าด้วยเสมอ นั่นทำให้เรายิ่งรักคุณย่ามาก ๆ ในวันปกติป้าของเราจะทำขนมขายที่โรงเรียน และตอนเย็นคุณย่าชอบเอาขนมใส่ถังน้ำสีดำ เดินมาให้เรา แล้วเรียกชื่อเรา แล้วเราก็วิ่งไปหาคุณย่า ชอบเอาของกินที่เราชอบมาให้ทุกๆวัน
ต่อมาไม่นาน มีอยู่วันนึงคุณตาซึ่งเป็นน้องของคุณย่าได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุรถชน ทำให้คุณย่าของเราร้องไห้หนักมาก เหมือนแทบจะขาดใจ ท่านได้ไปงานศพคุณตา และคุณย่าได้พูดกับกุณตาว่า
Advertisement
Advertisement
คุณย่า : นี่เราเสียน้องชายไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม ด่วนจากไปแบบนี้ ฉันจะฝากผี ฝากไข้กับใคร
หลังจากนั้น คุณย่าก็เป็นลมล้มพรุบลงไปที่พื้น ต่อมาหลังจากเสร็จงานศพของคุณตา คุณย่าก็เกิดอาการตรอมใจ ไม่กินข้าว ไม่ยอมทำอะไร ได้แต่นั่งเหม่อทีนั่งร้องไห้คนเดียว
หลังจากนั้น อาก๋งของเราได้ออกมานั่งเล่นหน้าบ้านและเห็นคุณย่าของเรานั่งเหม่ออยู่ที่เล้าเลี้ยงไก่ (บอกก่อนเลยนะ อาก๋งของเรามีสัมผัสพิเศษ) และได้มองไปทางคุณย่า และมองไปสักพักก็ตกใจ เพราะตอนที่อาก๋งมองไป คุณย่าไม่มีหัว คือไม่เห็นเงาหัวของคุณย่า
และหลังจากงานศพคุณตาไม่เกิน 1 อาทิตย์ คุณย่าได้เดินมาหาเราที่บ้าน และมาบอกว่าให้พาแกไปทำผมหน่อย เราก็เดินกลับไปหาป้า บอกป้าว่าคุณย่าให้พาไปทำผม แล้วป้าก้บอกว่า ป้าบอกคุณย่าแล้วว่าให้อยู่บ้าน ทอดปลา ทำกับกับข้าวกินที่บ้าน แต่คุณย่าไม่ยอม เราเลยพาคุณย่าไปร้านทำผม ไม่นานคนที่ร้านทำผมมาบอกว่าคุณย่าเป็นลม ตอนนี้ให้กินน้ำหวานแล้ว แล้วให้เราไปรับ เราก็ไปรับ ไปรอบแรกคิดว่าอาการแกคงทุเลาลง เราเลยกลับมารับพี่สาว แล้วพาคุณย่าไปหาหมอคลีนิคที่ใกล้บ้าน
Advertisement
Advertisement
หลังจากไปหาหมอใกล้บ้าน หมอบอกว่าต้องรีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด เราก้พาคุณย่ามานอนพักที่บ้านแล้วไปเรียกรถป้าให้มารับคุณย่าไปหาหมอ แต่คุณย่าไม่ยอมขึ้นรถ แกจะเอาเสื้อตัวโปรดของแกไปด้วย แล้วก็วิ่งไปหาให้ แต่ป้าบอกให้ขึ้นรถไปโรงพยาบาลเลย แกเลยไม่ได้เสื้อตัวโปรดแกไป แกเสียใจมาก เรานั่งรถไปโรงพยาบาลกับแก แกบอกเราว่า คุณย่าขอกอดหน่อยได้ไหม เราก็ให้กอด หลังจากนั้นเราก็เห็นเงาของคุณตา น้องของคุณย่าทีึ่เสียชีวิตไปเมื่ออาทิตย์ก่อน
เราก็มองหน้าคุณย่าแล้วนึกในใจ สงสัยคุณตาจะมารับคุณย่าสินะ แต่ในใจคือบอกคุณตาไปว่า อย่ามารับคุณย่าก่อนเลย เรายังไม่ได้ทำให้คุณย่าภูมิใจเลย ยังไม่ได้สอบเข้าม.4 ให้ท่านเลย แล้วน้ำตาเราก็ไหลอาบแก้ม
พอถึงโรงพยาบาล คุณหมอก็เข็นคุณย่าเข้าไปในตึกแล้วก็ได้ฉีดย่าเข้าเส้นเลือดคุณย่า แต่ไม่สามารถฉีดย่าเข้าไปได้เพราะเส้นเลือดแตกหมดแล้ว สักพักคุณหมอให้เข้าไปเยี่ยมได้ เราเลยวิ่งเข้าไปหาคุณย่า ท่านบอกว่าท่านปวดขา เราก็บีบนวดให้ท่าน
Advertisement
Advertisement
สักพักท่านได้หลับไป พยาบาลมาปั้มหัวใจให้ท่าน 2 ครั้ง จนมีชีพจร
และรีบส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในตัวเมือง เราและป้าได้นั่งรถไปกับคุณย่าปละพยาบาล เสียงรถAMbulance ที่ดังตลอดทางที่ไปยังโรงพยาบาล มันทำให้เรารู้สึกปวดใจมาก ๆ พอไปถึงโรงพยาบาลในเมืองเวรเปล ก็วิ่งมารับรถเข็นเตียงคุณย่าเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เราก็ได้แต่ยืนรอข้างนอก กังวนใจมาก น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากตา ข้างในหัวใจมันจุก จนมันจะหยุดหายใจ พยาบาลเริ่มบั้มหัวใจใหม่อีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง จนคุณหมอเดินออกมาบอกกับป้าว่าจะปั้มหัวใจอีกไหม ถ้าปั้มไปแกก็จะไม่อยู่กับเราละนะ ป้าแกเลยบอกว่าให้ลองปั้มหัวใจต่ออีกครั้ง เพื่อรอให้ป๊า และแป๊ะ ของเรามาถึงโรงพยาบาล
แต่แล้วสวรรค์ไม่ได้เข้าข้างเรา คุณย่าจากเราไปแล้ว เรานั่งซุดลงกับพื้น ร้องไห้โฮ ออกมาอย่างหนัก ในใจคิดว่าถ้าเราขาดย่าไปแล้วเราจะเดินต่อไปยังไง เพราะเรารักท่านมาก ๆ
ช่วงเวลาเกือบๆๆ ห้าทุ่มครึ่ง หมออนุญาตให้นำศพคุณย่าไปบำเพ็ญกุศลได้ หมอที่เป็นญาติกันได้ติดต่อนำรถขนศพที่มีหลังคาครอบ มารอรับ และได้นำศพคุณย่าขึ้นรถ เราก็เป็นคนที่พอรุ้เรื่องการเชิญวิญญาณบ้าง ก็ได้เชิญวิญญาณคุณย่ากลับไปกับเราด้วย
ช่วงระหว่างการเดินทางกลับ พี่คนขับรถหันมาบอกป้าว่า เห็นหรือป่าว ว่าคุณย่าได้กลับมากับรถของเราด้วยนะ ของพิงกับหลังกะบะมา เราก็ใจชื้นว่าคุณย่ากลับมากับเราด้วย แกบอกว่าไปส่งศพของคนอื่นไม่เห็นตามมาแบบนี้เลย แต่ศพคุณย่า วิญญาณตามกลับมาด้วย
พอกลับถึงบ้าน ทางบ้านญาติ ๆ ได้จัดเตรียมงานไว้บ้างแล้ว เราเดินเข้าไปหาเสื้อตัวโปรดที่แกจะเอาไปด้วยตอนจะไปโรงพยาบาล เดินเข้าไปในบ้านหลังสุด ที่เป็นบ้านสวน เงียบสงัด มืด มองไม่เห็นทาง ไฟก็ไม่มีสักดวง เราเดินเข้าไปคนเดียว คิดในใจ ขอให้เจอเสื้อตัวโปรดของคุณย่านะ สุดท้ายก็เจอ เราได้เอาเสื้อตัวโปรดใส่ให้คุณย่าแล้ว
ตลอดเวลาการจัดงานศพไม่มีใครพบเจอย่า แต่พอวันสุดท้ายที่จะพาท่านไปณาปนกิจ มีคนที่มาเก็บเต้นท์เช่า เครื่องครัวเห็น คุณย่านั่งอยู่ตรงประตูโรงรถ จะมีเก้าอี้ตัวสีขาววางอยู่กึ่งกลางประตู มองดูเราถ่ายรูปหน้าโลงศพของแก
หลังจากนั้นแกก็ไม่มาให้เห็นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน อาก๋งบอกพี่สาวเราว่า แกไม่อยากมาให้เห็นเพราะพวกเราจะกลัว แกเลยไม่ให้เห็นและได้สั่งเสียไว้ว่า พี่สาวเราอย่าแกล้งเราเยอะ แล้วแกก็จากไป
คุณย่าที่รัก
ความคิดเห็น