อื่นๆ

คิดถึงบ้านเกิด.....!!!!!

561
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คิดถึงบ้านเกิด.....!!!!!

สวัสดีครับท่านนักอ่านทุกท่านวันนี้ผมก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเท่าไรหรอกนะครับบทความบทนี้อาจจะเป็นเพียงการเขียนบรรยายความสุขสมัยอดีตที่ผมอยู่ที่บ้านเกิดของผมซึ่งก็อาจจะเป็นอะไรที่ใครหลายๆคนมองว่าเป็นอะไรที่มันหาสาระไม่ได้เลยแต่ถ้าสำหรับผมแล้วนั้นมันคือความสุขความอบอุ่นและความเป็นตัวตนขอผมและก็คือชีวิตของผมซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้วถึงมีมันก็ค่อนข้างที่จะแตกต่างกันมากพอสมควร

คุณชายต้น

ผมเริ่มเข้ามาทำงานในกรุงเทพตั้งแต่ปี2558ซึ่งก็น่าจะประมาณ6-7ปีได้แต่น้นก็อาจจะไม่ใช่ประเด็ดอะไรที่สำคัญมากนักเพราะทุกคนก็ต้องมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบแตกต่างกันออกไปนั้นก็คือต้องมีงานมีการทำเป็นหลักแหล่งมีรายได้ส่งเสียและก็เลี้ยงดูครอบครัวกันเป้นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วใช่ไหมครับ ถ้าแต่ว่าความสุขในเมืองใหญ่ที่ว่าเจริญไปด้วยแสงสีเสียงนั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบของใครหลายๆคนเช่นเดียวกันกับผม

Advertisement

Advertisement

คุณชายต้น

ถ้าหากจะให้พูดถึงความสุขที่แท้จริงแล้วล่ะก็คงจะหนี้ไม่พ้นการที่ทุกคนได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาร่วมกันกินข้าวเย็นอย่างอบอุนหรอกใช่ไหมผมเป็นคนต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาหางานทำในกรุงเทพมหานครซึ่งก็มีงานมีการเป็นหลักแหล่งและแน่นอนมั่นคงซึ่งสิ่งที่พูดมาทั้งหมดนี้ผมก็คงอยากบอกท่านนักอ่านทุกว่าชีวิตในเมืองใหญ่นั้นมันไม่ได้มีความสุขเลยเหตผมผลของผมก็คือสู้บ้านนอกเราไม่ได้ยิ่งสถานะการณ์วิกฤตอย่างนี้แล้วยิ่งทำให้ตัวของผมเองคิดถึงบ้านเกิดมากขึ้น

คุณชายต้น

เพราะว่าอีสานนั้นอุดมสมบูณร์ของกินก็หาได้ง่ายและก็ปลอดภัยไม่ว่า จะเป็น หน่อไม้  เห็ด  ปู  ปลา หอย กุ้ง ผักหวาน ซึ่งปลอดภัยและที่สำคัญไม่มีสารพิษและที่สำคัญไปกว่านั้นมันสนุกมากในตอนที่ไปหาแต่ก็อาจจะเหนื่อยบ้างเป็นธรรมดาแต่ก็สนุกโดยที่เราไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากมายก็มีทุกอย่างที่เราอยากจะกินแล้ว

Advertisement

Advertisement

คุณชายต้น

ซึ่งหากมองดูดีๆแล้วล่ะก็ไม่มีที่ไหนที่จะให้ความสุขกับเราเท่าบ้านเกิดของเราได้อีกแล้วถึงช่วงทำนาก็หาใส่เบ็ด ใส่ที่ดักปลา ช่วงเก็บเกี่ยวก็ อาจจะมีหาหนูนา(แต่ผมไม่เคยไปนะครับ555)ก็มีจับปลาซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เรามองเห็นถึงความรักความสามัคคีของคนในหมู่บ้านหรือชุมชนเป็นอย่างมากเพราะพวกเค้ามีความโอบอ้อมอารีซึ่งกันและซึ่งหาแทบไม่ได้เลยในเมืองใหญ่เพราะผู้คนในเมืองใหญ่ต่างก็พากันดิ้นรนเอาตัวรอดด้วยกันทั้งนั้น

คุณชายต้น

หากเป็นไปได้ตัวของผมเองอยากกับไปอยู่ที่บ้านนอกดีกว่าเพราะไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไรมากมายเท่ารัยก็พออยู่ได้และก็อาจจะมีความสุขมากกว่าด้วยซ้ำนี่คือความคิดส่วนตัวของผมนะครับเพราะส่วนใหญ่บ้านนอกเราก็ไม่ได้จำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายอะไรมากมายเท่ารัยอาจจะมีบ้างที่จำเป็นที่จะต้องจับจ่าย ยกตัวอย่างเช่น เนื้อสัตว์ ยารักษาโรค พลังงานต่างๆไม่ว่าเป็นเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ เป็นต้นเพราะสิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถที่จะผลิดใช้เองได้แต่ก็มีหลายคนนะครับที่เขาสามารถผลิตพลังงานใช้เองได้ซึ่งก็ยิ่งทำให้ลดค่าใช่จ่ายลงไปได้อีกเยอะเลย

Advertisement

Advertisement

คุณชายต้น

แต่ถ้าพูดถึงความสุขในการที่ได้อยู่ในเกิดนั้นมันมากมายเหลือเกินจนไม่สามารถที่จะนำมาบรรยายได้หมดและผมก็เชื่อว่าหลายๆคนก็คงมีความคิดแบบเดียวกับผมนั้นก็คือสักวันเราก็คงจะได้กลับไปอยู่ที่บ้านเกิดกลับไปทำนาทำสวนทำไร่แบบที่เราตั้งใจนั้นเมื่อถึงวันนั้นแหละความสุขที่เราวิ่งตามหามาตลอดเกือบทั้งชีวิตเราจะรู้เลยว่าความสุขมันอยู่ที่นี่เองซึ่งเราเสียเวลาให้การตามหามาตั้งนานหลายปี....ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ผมก็ขอให้ทุกคนสู้และอดทนแล้วก็ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปให้ได้นะครับผมเป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ

เรื่องและรูปภาพโดย : คุณชายต้น (ผู้เขียน)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์