อื่นๆ
ความเสียใจที่ไม่เปล่าประโยชน์
ในเรื่องของการวิ่ง จะเป็นอย่างไรถ้าผลลัพธ์ไม่ได้เป็นดั่งใจ เมื่อเปรียบเทียบกับการที่ไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย แบบไหนจะส่งผลกระทบต่อตัวเราได้มากกว่ากัน เราสามารถที่จะจำกัดความเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป หรือลบความเสียดายในสิ่งที่เราไม่ได้ทำได้หรือไม่
เหตุผลของการไม่ตัดสินใจลงมือทำ
มีงานวิจัยหนึ่ง ของนักจิตวิทยา "ทอม ไกโลวิช" ระบุไว้ว่าในชีวิตคนเราจะมีความรู้สึกเสียใจอยู่สองแบบ คือความเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป (Regretful Action) และ ความเสียดายในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ (Regretful Inaction) แน่นอนว่าเมื่อวันนี้เราทำในสิ่งที่ผิดพลาดไปเราจะรู้สึกเสียใจกับสิ่งนั้นมาก แต่ในทางกลับกันถ้าเราเลือกที่จะไม่ทำมัน วันนี้หรือวันพรุ่งนี้เราคงจะไม่รู้สึกอะไรมากมาย ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงไม่ตัดสินใจลงมือทำ เพราะอาจกลัวที่จะล้มเหลว และต้องมาจัดการกับความรู้สึกนั้น แต่ในอนาคตความเสียดายที่ไม่ลงมือทำ อาจย้อนมาทำความเจ็บปวดให้กับตัวเรามากกว่าก็ได้ขอบคุณภาพจาก : www.pxfuel.com
Advertisement
Advertisement
การฝึกซ้อม
- ความเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป
การวางแผนการฝึกซ้อมที่ดี จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยทั้งในเรื่องของศักยภาพร่างกาย และเวลาของตัวเราเอง ดังนั้นตารางซ้อมที่เหมาะสมกับคนอื่น แต่เมื่อนำมาใช้กับตัวเองอาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ ตารางซ้อมที่เหมาะสมกับตัวเองจะต้องไม่ทำให้ร่างกายบาดเจ็บ และจะต้องไม่ทำให้ชีวิตในด้านอื่น ๆ ของเราได้รับผลกระทบจาการฝึกซ้อม
- ความเสียดายในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ
คุณเคยรู้สึกเสียดายกับผลงานในวันแข่งขันไหมครับ ผมลองมานึกย้อนดูในหลายรายการการแข่งขัน และคิดเล่น ๆ ว่า ถ้าสามารถซ้อมได้ตามตารางที่วางไว้มากกว่านี้ ถ้าไม่ขี้เกียจและถอดใจในการฝึกซ้อม ถ้ามีการพักผ่อนที่มากกว่านี้ ถ้ากินอาหารที่ดีกว่านี้ล่ะ ผลลัพธ์อาจจะดีกว่าที่ทำได้ก็ได้
การแข่งขัน
- ความเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป
เป็นเรื่องธรรมดาที่เรามิสิทธิ์ที่จะเสียใจ เมื่อผลการแข่งขันไม่ได้เป็นดังที่หวังไว้ แต่อย่าลืมว่าไม่มีความประสบความสำเร็จใด ๆ ที่ปราศจากความล้มเหลวมาก่อน ถ้าเรานำบทเรียนนั้นมาปรับปรุงแก้ไข และที่สำคัญมีสิ่งหนึ่งที่คิดว่าทุกคนคงได้รับเหมือนผม นั้นคือการได้มีความสุข และสนุกกับการวิ่ง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็ตาม
Advertisement
Advertisement
- ความเสียดายในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ
ผมเชื่อว่าทุกคนมีภาพความคิดไว้ในจินตนาการ แต่จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราสามารถทำภาพนั้นให้เป็นความจริงขึ้นมา ส่วนที่ยากที่สุดคือการกล้าตัดสินใจที่จะทำ ถ้าได้เริ่มต้นทำแล้วถึงแม้ว่าจะมีแต่ความยากลำบาก และมีความท้าทาย ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ ยิ่งถ้าวางแผน และตั้งใจทำมันอย่างจริงจัง คงจะไม่ยากเกินความสามารถของเราแน่ ๆ ผมคิดว่าประสบการณ์เป็นสิ่งที่จะหาไม่ได้ ถ้าเราขาดการทดลองทำ
ขอบคุณภาพจาก : www.pxfuel.com
การตัดสินใจออกกำลังกาย
หลายครั้งที่ผมเองก็แอบคิดว่า "เราทำไปเพื่ออะไร" ต้องการมีสุขภาพที่ดีหรือเปล่า แต่คนที่ไม่ออกกำลังกาย ตอนนี้เขาก็ยังแข็งแรงดีอยู่ เอาเวลาไปทำสิ่งอื่นได้อีกมากมาย อาจจะรู้สึกเหนื่อยเป็นครั้งคราว ท้อเป็นบางเวลา แต่เมื่อลองพิจารณาตัวเองอย่างละเอียดแล้ว เราก็พอใจกับสุขภาพของเรา เวลาสำหรับการงาน การพัฒนาตัวเอง และครอบครัวก็ไม่ได้หายไป ผมก็ไม่รู้ว่าถ้าไม่ได้ออกกำลัง จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงไหม แต่ในเมื่อตอนนี้เรารู้สึกดีกับตัวเอง ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเลิกทำมัน
Advertisement
Advertisement
ผมเป็นคนหนึ่งที่กลัวความล้มเหลว จนบางครั้งไม่กล้าที่จะตัดสินใจทำอะไร แต่เมื่อมาลองถามตัวเองว่าล้มเหลวแล้วยังไงต่อ ล้มเหลวไม่ได้แปลว่าจะต้องเลิกทำมัน คนเรามีสิทธิ์ที่จะล้มเหลวได้ ที่สำคัญคือเราได้ประสบการณ์อะไรจากความล้มเหลวในครั้งนี้มากกว่า เช่นเดียวกับความเสียดายในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ผมเชื่อว่าถ้าเรายังมีความหลงไหลกับมัน ยังมีความตั้งใจจริง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ เราสามารถที่จะเริ่มต้นทำมันได้อยู่เสมอ
อ้างอิง
ความคิดเห็น