ความเกลียดชังจะถูกทำลายลงด้วยความเข้าใจที่จริงแท้

มนุษย์เราทุกคนต้องการมีคุณค่า ต้องการให้คนอื่น ๆ มองเห็นความสำคัญ แต่กลับเป็นว่าทุกคนใช้วิธีที่จะได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างกันโดยอิงอาศัยประสบการณ์เดิม ความเคยชิน หรือการลอกเลียนแบบจากคนอื่น ๆ หรือสื่อต่าง ๆ ที่นำเสนอมากมายออกมาเป็นรูปแบบละคร เช่น นางร้ายในละครที่ต้องการความรัก อยากมีคุณค่าในสายตาคนที่เธอรัก เธอจะต้องทำโดยการวิ่งไล่ตามคนรัก ทำในสิ่งที่น่ารังเกลียดในสายตาคนอื่น ๆ ลดคุณค่าตัวเอง และสุดท้ายใช้ความตายเข้ามาแลกคะแนนความสงสาร หรือเป็นการประชดประชัน จนสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลย มารักตัวเองในวันที่เสียทุกอย่าง อาจจะสายเกินไปจนไม่มีโอกาสได้รู้สึกถึงสิ่งนี้ว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดในการใช้ชีวิตจริง ๆ

Cr. Photo by Freepik.com

คนทุกคนเติบโตกันมา ทุกคนต้องมีความรู้สึกชอบ รู้สึกเกลียดเป็นธรรมดา แต่คำว่ามนุษย์นั้นก็มีหลายบุคลิกภาพ หลายความรู้สึก หลายตัวตน ที่ไม่เหมือนกัน มีตัวอย่างที่ในละครสื่อสารออกมาบ่อยครั้ง มีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน คนพี่ประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของธุรกิจ มีเงินมากมาย มีคนชื่นชม และมีแต่คนเข้าหาอยากผูกมิตรสัมพันธ์ด้วย ส่วนคนน้องไม่เอาไหน โตมาจากการถูกเปรียบเทียบกับพี่เสมอมา ว่าไม่เก่งเหมือนพี่เลย ทำอะไรก็มีแต่ล้มเหลว ผิดหวังในความรัก รักใครใครก็ไม่รัก ไม่มีใครต้องการหรือนึกถึงในโอกาสสำคัญ ๆ สิ่งแวดล้อมที่เขาเติบโตมาดูน่าสางสารไหม

Cr. Photo by Freepik.com

คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในครอบครัว ในบทความนี้อาจจะไม่ได้พูดถึงวิธีการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตมามีความคิดที่ดี มีชีวิตที่ดี และมีจิตใจที่ดี

แต่เรากำลังจะพูดถึงวินาทีของการเปลี่ยนความรู้สึก จากคนที่เกลียดเรามาก ๆ เหตุเป็นเพราะเขาต้องการมีคุณค่าในสายตาคนอื่น ๆ ได้รับความรักความเข้าใจจากใครสักคนบ้าง หากเราสามารถสื่อสารกับเขาได้ จนมีเจตนาที่ดีในการให้กำลังใจเขาเสมอมา ชื่นชม มองเห็นสิ่งดี ๆ ที่เขาทำ ไม่เปรียบเทียบ ให้ความเข้าใจเขาแบบจริงแท้ที่มาจากความรักที่มอบให้ รักและมองเห็นเขาในแบบที่เขาเป็น ให้โอกาสเขาได้ทำในสิ่งที่ถนัด เพื่อให้เขาได้เดินทางไปยังจุดของความสำเร็จได้แบบภูมิใจ เพิ่มการสัมผัสบ้าง กอดเขาบ้าง บอกเขาว่าเราอยู่เป็นกำลังใจให้เสมอนะ หากเขาต้องการขอความช่วยเหลือ เราก็พร้อมที่จะสนับสนุนให้เขา แต่ทุกอย่างก็ต้องมีความ Balance จะมีแต่เรื่องดี ๆ ไปหมดก็คงไม่ใช่การใช้ชีวิตที่ดีหรอก เราก็จะต้องพูดในสิ่งที่เขาอาจจะทำไม่ดี ทำไม่ถูก หรือเป็นสิ่งที่สากลอาจจะมองไม่ดี อธิบายให้ Feedback กลับไปหาเขา ให้เขาได้เรียนรู้และเติบโตในทางที่ดี มันคือความจริงใจ และการใส่ใจแบบใกล้ชิดเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีขึ้น ค่อย ๆ สอนด้วยความรักความเข้าใจ เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นกำแพงชั้นดีที่จะไม่ทำให้เขาต้องรู้สึกเกลียดชังใครง่าย ๆ เพราะการมองโลกของเขาเต็มไปด้วยความเมตตา และเชื่อว่าทุกคนมีคุณค่าในตัวของเขาเอง เพียงเท่านี้ในสังคมของเราอาจจะลดปัญหาการทะเลาะกัน การทำร้ายกัน และการอิจฉาริษยากันให้น้อยลง เราจะมีคนที่ใช้ความเมตตา ความเข้าใจ ความรักในชีวิตมากขึ้น และมันจะสร้างสิ่งเหล่านี้เป็นทอด ๆ ส่งต่อกันออกไป และมันจะเป็นการให้ในสิ่งดี ๆ ที่จะไม่มีวันสิ้นสุดลง

Cr. Photo by Freepik.com

ขอบคุณรูปภาพ Cover บทความนี้จากแม่แบบ https://www.canva.com