หลังจากเข้าสู่สถานการณ์โควิด-19 เลยทำให้เรามีเวลาว่างเยอะมากขึ้น มากซะจนฟุ้งซ่าน จนเบื่อ จนต้องบอกกับตัวเองว่า จงลุกขึ้นมาหาอะไรทำก่อนที่จะฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้ ทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องออกจากบ้าน คิดไปคิดมา เออ...นึกขึ้นได้ว่า ตั้งแต่เริ่มทำงานมาค้นซื้อหนังสือไว้เยอะมาก ตั้งใจจะอ่านทุกเล่มที่ซื้อมา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้อ่านสักที เมื่อคิดได้ดังนั้น เราก็เริ่มแผนการคลายเบื่อ ด้วยการอ่านหนังสือกันเลยดีกว่า ต้องบอกเลยว่า หนังสือเล่มนี้ซื้อมาตอนช่วงงานยุ่งมาก ๆ ยุ่งชนิดที่ว่าทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ ทั้งกดดัน จนเริ่มหาวิธีการที่อยากจะบริหารเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ยังสามารถมีเวลาว่างให้กับตัวเองได้อยู่ แต่สุดท้ายพอเหนื่อยเข้ามาก ๆ เปิดอ่านหนังสือไปได้สัก 4-5 หน้าก็ผลอยหลับไปซะยังงั้น จริง ๆ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกคนมากนะคะ ไม่จำเป็นเฉพาะคนวัยทำงานอย่างเรา แต่ทุกคนที่ต้องใช้เวลา หรืออยากจัดการกับเวลาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่างหากล่ะ ที่สมควรอ่านอย่างยิ่ง "ทำน้อยให้ได้มาก" เขียนโดย Leo Babauta ซึ่งเป็นทั้งนักข่าว นักเขียนบทความ รวมถึงเจ้าของบล็อกชื่อดังมากในต่างประเทศอย่าง Zen Habits ซึ่งมีคนอ่านมากกว่า 260,000 คน และติด 1 ใน 25 บล็อกยอดนิยมจากนิตยสารไทม์ ในส่วนของเนื้อหาและใจความของหนังสือเล่มนี้ จะเป็นเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือส่วนของหลักการ กับ ส่วนของการนำไปใช้จริง ซึ่งรวมทั้งสองส่วนแล้วมีทั้งหมด 18 บท ด้วยกัน โดยส่วนของหลักการแบ่งได้ 6 บท เป็นการเกริ่นนำการบริหารเวลาและการจัดการกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิผลอย่างสูงสุด ถ้าคุณได้มีโอกาสอ่าน คุณจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว เรื่องบางเรื่องที่เราคิดว่ามันยากต่อการจัดการนั้น ที่จริงแล้วมันง่ายมาก ๆ จาก 18 ตอนทั้งหมดในเล่ม ส่วนตัวเราชอบบทที่ 11 ว่าด้วยเรื่อง "อินเทอร์เน็ตที่เรียบง่าย" ซึ่งเราว่ามันเหมาะกับยุค 2020 นี้มากเพราะการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตนั้น ถือเป็นปัจจัยที่ 6 ไปแล้วรองมาจากมือถือนั้นเอง เราปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเราทุกคนต้องใช้มัน จะด้วยเรื่องการทำงาน หรือเพื่อความเพลิดเพลินก็ตาม จนทำให้ในบางครั้งในการใช้อินเทอร์เน็ต ที่ให้ประโยชน์กับคนใช้ แต่กลับให้โทษด้วย หากเราไม่รู้จักใช้มัน ในบางครั้งเจ้าอินเทอร์เน็ตเนี่ยล่ะ ที่ทำให้งานหรือสิ่งที่เราต้องทำ มักไม่เสร็จตามกำหนดระยะเวลา ซึ่งการได้อ่านบทนี้ มันทำให้เราได้ฉุดคิดขึ้นมาว่า ใช่ค่ะในขณะที่ทำงานอยู่นั้นเราก็มักสมาธิหลุดกับการเล่นอินเทอร์เน็ต จนลืมตัว ลืมเวลา สุดท้ายแล้ว งานก็ไม่เสร็จ แล้วก็มีงานใหม่ทับถมขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเราคิดไปเองว่า ทำไมฉันยุ่งแบบนี้ ทำไมงานฉันเยอะขนาดนี้ บทนี้อ่านแล้วเข้าใจง่าย เห็นภาพคิดตามเลย โดยที่เขาจะแบ่งหัวข้อทั้งหมด 4 หัวข้อ คือการรู้ตัว : เขาบอกว่าให้เราลองติดตามการใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเองดูว่า ในหนึ่งวันเราหมดเวลาไปกับเว็บไซต์ใดที่สุด เมื่อคุณรู้ คุณจะเริ่มตระหนักว่าอะไรที่ทำให้คุณเสียเวลามากเกินไป การมีสติ : เมื่อรู้ตัวแล้ว คราวนี้ก็จะเริ่มมีสติ เมื่อมีสติแล้ว คุณก็ต้องวางแผนการใช้มัน ซึ่งเขาก็แนะนำดีมาก แถมยังนำใช้ได้จริง นั้นคือควรแบ่งเวลาการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นช่วงรา ๆ เช่น ถ้าคุณต้องเขียนบทความให้เสร็จทั้งหมด 3 บทภายในวันนี้ คุณก็แค่กำหนดว่า เขียนเสร็จครึ่งบทแล้วหยุดพักสัก 20 นาทีเพื่อผ่อนคลายโดยการท่องอินเทอร์เน็ต เมื่อคบกำหนดก็เริ่มเขียนบทที่เหลือ ทำแบบนี้วนไป จนกว่างานคุณจะเสร็จ ต้องบอกว่า คุณต้องตั้งใจจริง และมีวินัยกับมันนะคะการจดจ่อ : ก็คือทำงานอย่างจดจ่อโดยที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเลย หากคุณต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตแล้วล่ะก็ แนะนำให้ค้นคว้าหาข้อมูลไว้ก่อนล่วงหน้าไปเลย ความมีวินัย/วิธีการออกห่างจากสิ่งที่ทำให้วอกแวก : ถึงตรงนี้ก็เข้าใจว่า บางคนอยากรู้สึกอึดอัดกัน ที่ไม่ได้เล่นอินเทอร์เน็ต เขามีทริคง่าย ๆ ว่า คุณก็แค่กำหนดเวลาเข้าออก เช่น ท่องอินเทอร์เน็ตได้ตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า กับ บ่าย 4 โมงเย็น อย่างล่ะ 1-2 ชั่วโมง ส่วนเวลาที่เหลือ คุณก็จดจ่อกับงานของคุณเท่านั้นเอง เป็นไงคะ การทำน้อยให้ได้มาก จริง ๆ แล้วมันสำคัญกับการใช้ชีวิตมากนะ เพราะเมื่อคุณสามารถจัดการกับเวลาได้อย่างเต็มที่แล้ว ไม่ว่างานจะล้นมือมากแค่ไหน คุณก็จะไม่เปลืองพลังงาน และไม่ใช้เวลามากเกินความจำเป็น เมื่อเวลาเหลือคุณก็สามารถแบ่งเวลาไปใช้กับตัวเอง ให้เวลากับครอบครัว ได้ท่องเที่ยวพักผ่อน ออกกำลังกาย เมื่อไม่เครียดแล้ว โรคต่าง ๆ ที่เขาฮิตเป็นกันสำหรับยุคนี้ จะไม่มากล่ำกรายคุณแน่นอน ใครอยากบริหารเวลาอย่างคุ้มค่า เชิญอ่าน : The Power of LESS / ทำน้อยให้ได้มาก ( หาซื้อได้ตามแผงหนังสือ ) ซื้อ Online : https://www.naiin.com/ https://www.se-ed.com/ผู้เขียน : Leo Babauta นักข่าว นักเขียนบทความ เจ้าของบล็อก Zen Habits จำนวนหน้า : 190 หน้าราคา : 170 บาท ภาพหน้าปก : โดยผู้เขียนเอง / เครดิตภาพ 1 โดยผู้เขียนเอง / เครดิตภาพ 2 : Pixabay / เครดิตภาพ 3 : Pixabay / เครดิตภาพ 4 : Pixabay / เครดิตภาพ 5 โดยผู้เขียนเอง