สถานการณ์โควิด-19 ดูเหมือนจะกำลังอยู่ในจุดที่ต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าต่อ หรือ ยังรอให้ถึงเวลาที่เหมาะที่ควร แต่ที่แน่ ๆ ร้านรวงต่าง ๆ โดยเฉพาะในร้านสรรพสินค้าที่ได้ปิดยาวอย่างต่อเนื่องนั่นได้รับผลกระทบแน่นอน ปี 2020 เริ่มต้นมาด้วยความท้าทายอย่างใหม่ที่ไม่คิดว่าสถานการณ์ใดในโลกที่เคยทำให้กระทบได้มากเท่านี้มาก่อน ความท้าทายต่อภาคธุรกิจอาหารจะเดินต่อไปทางใด การปรับตัว( Adaptation )ต่อสถานการณ์นั้นถือเป็นหัวใจสำคัญ มาตรฐาน New Normal เป็นเรื่องที่ภาคร้านพยายามยื่นให้ร้านอาหารตอบรับหากจะมีการเปิดให้บริการปกติ หากแต่การจะกลับมาให้บริการแบบปกติได้นั้นถูกควบคุมไว้ด้วยกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ต้องน้อมรับ เพราะความกังวลต่อการกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง แต่ในระยะยาวหากไม่มีการปรับตัวเกิดขึ้น สถานการณ์ที่ดูจะน่าเป็นห่วงมากกว่าคงหนีไม่พ้นเศรษฐกิจที่ทรุดตัว เนื่องจากการหยุดงานทั้งภาคธุรกิจ คนมีกำลังซื้อน้อยลง รายได้หดหาย เพราะได้รับผลการะทบทั้งภาคส่วน ดังนั้นการผ่อนปรนเปิดห้างสรรพสินค้ารวมไปถึงห้าง-ร้าน จึงเป็นความท้าทายต่อผู้ประกอบการมาก ๆ หลังการล็อคดาวน์ วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา มติครม. ได้ผ่อนปรนให้กับธุรกิจร้านอาหาร และหลาย ๆ ประเภทที่รัฐระบุ เช่น ตลาด และร้านตัดผมต่าง ๆ แต่ในส่วนของร้านอาหารในห้างร้านยังปิดให้บริการอยู่ จนการผ่อนปรนระยะที่ 2 ได้ประกาศออกมาให้ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้ในวันที่ 17 พฤษภาคม แต่ทุก ๆ ที่ ๆ จะเปิดจะต้องมีความพร้อมในระดับหนึ่ง เพราะหากเปิดแล้วมีความเสี่ยงอาจจะทำให้ต้องกลับมาปิดอีกรอบ ห้างสรรพสินค้าหลาย ๆ แห่งมีการลดค่าเช่าที่และค่าบริการให้แก่ผู้เช่าเนื่องจากภาวะที่คนไม่สามารถออกมาได้ ไม่เกิดการใช้จ่ายจนต้องปิดตัวลงตามคำสั่งรัฐบาลเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อโรคโควิด-19 นอกจากนั้นเมื่อไม่นานนี้ที่กลับมาเปิดปกติ ห้างสรรพสินค้าได้ออกมาตรการช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มมาตรการช่วยเหลือร้านอาหาร เรียกความเชื่อมั่นของคนให้กลับมาเดินห้างตามเดิมไม่ว่าจะเป็นการตรวจวัดอุณหภูมิ วางแอลกอฮอล์ไว้ก่อนทางข้าง แสกนข้อมูลติดตามเป็นรายคนได้ รวมไปถึงจัดที่ทางไว้สำหรับการ PickUp&Delivery ทำให้ร้านอาหารที่ยังคงเปิดแต่เปลี่ยนไปบริการเฉพาะ Delivery&Take away ได้เกิดความเชื่อมั่นแก่คนส่งอาหารและพนักงงานรวมถึงลูกค้าที่สั่งอาหาร และหากร้านอาหารกลับมาเปิดเหมือนเดิมช่องทางเดลิเวอรี่คาดว่าจะยังอยู่ตามเดิม แต่มีมาตรการในการเปิดร้านอื่น ๆ เข้ามาให้สอดคล้องกับทางห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่จะกลับมาเปิดนั้นต้องปรับเปลี่ยนวิธีการให้บริการให้สอดคล้องกับวิถี New normal ของประชาชน ร้านอาหารอาจจะแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นทั้งเรื่องอุปกรณ์รักษาความสะอาด การรับลูกค้าได้น้อยลง เวลาเปิดปิดที่เปลี่ยนไป คนออกมาใช้บริการน้อยลงไปแต่เมื่อก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ร้านอาหารต้องบริหารจัดการโดยคำนึงถึงต้นทุนความอยู่รอดเป็นหลักสำคัญ อาจจะเพิ่มช่องทางการจำหน่าย เพิ่มโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า ลดราคาอาหาร รวมไปถึงเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายไปบน Application ชื่อดังต่าง ๆ รวมไปถึงเพิ่มการจ่ายเงินแบบ E-payment ไม่ใช้เงินสดนั่นเอง ความท้าทายในการกลับมาเปิดให้บริการของร้านอาหารในครั้งนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน มิเช่นนั้น จะพากันล้มเป็นโดมิโน เพราะร้านขาดรายได้ ขาดการจ้างงาน คนไม่มีรายได้ ก็ไม่มีกำลังซื้อสินค้า ส่งผลกระทบกันหมด การร่วมมือกันในครั้งนี้ทั้งภาคประชาชน ผู้ประกอบการและภาครัฐจะทำให้เราสามารถเอาตัวรอดในวิกฤติครั้งนี้ การปรับตัวได้เร็วให้สอดคล้องกับพฤติกรรมกับจับจ่าย การใช้ชีวิตของประชาชนจึงเป็นหัวใจหลักในการดำรงอยู่รอด เครดิตรูปภาพ : หน้าปกโดย pxhere, ภาพที่ 1 โดย pxhere, ภาพที่ 2 unsplash, ภาพที่ 3 flickr บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ COVID-19 : ❌ อัพเดท ❌ สถานการณ์ Covid-19 ล่าสุด <กักตัว 14 วัน> 😷 ปฎิบัติตัวอย่างไร เมื่อกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง COVID-19 วิธีรับมือกับเชื้อโควิด-19 อย่างถูกต้อง ❌ ป้องกันทั้งตัวเองและคนรอบข้าง เหตุการณ์โรคระบาดร้ายแรงในประวัติศาสตร์ 🌍 เรียนรู้คำศัพท์ ... ภาษาอังกฤษจากข่าวไวรัส COVID-19 😷 สถานการณ์ผีน้อยเกาหลี 🇰🇷 VS โคโรน่า ธนบัตรกับไวรัสโคโรน่า 💵 COVID-19 ประกันโคโรน่า 😷 คุ้มครองไว้อุ่นใจหายห่วง ⚠️ WHO ยกระดับ COVID-19 เป็นการระบาดใหญ่ (Pandemic) ผลกระทบของ "COVID-19" กับคนไร้บ้าน เพิ่มเติมอื่น ๆ : กรมควบคุมโรค : https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php ติดตาม Realtime : https://ddcportal.ddc.moph.go.th/portal/apps/opsdashboard/index.html#/84a8c3f286c84d548ae3f4bfe0aad757