สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประวัติต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน เนื่องด้วยเคยเมืองหลวงเก่าแก่ของประเทศไทย และยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางวัฒนธรรมอีกด้วย แม้ในปัจจุบันยังเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว คนทั่วไปสามารถไปชมบรรยากาศของอยุธยาเมืองเก่า ไหว้พระให้สุขใจ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสุขตาและสุขใจทั้งวันอย่างครบเครื่อง Cr.NT Napatt: วัดไชยวัฒนาราม แต่มีสถานที่หนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เมื่อไปถึงแล้วทำให้อยากกลับไปอีก นั่นก็คือ "บ้านของพ่อ" หรือชื่อเต็ม ๆ คือ 'ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ' ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ตั้งอยู่บน ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา Cr.NT Napatt : โลโก้ของ 'บ้านของพ่อ' 'บ้านของพ่อ' ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม หรือเปิดร้านชากาแฟตามที่เคยเห็นแบบทั่วๆ ไป แต่ที่นี่มีอะไรที่มากกว่านั้น ตั้งแต่แรกเดินเข้าประตูไป ก็จะพบกับความร่มรื่นของธรรมชาติ ดีไซน์การจัดวาง วัสดุที่ใช้เป็นงานที่ทำเองทั้งหมด Cr.NT Napatt: บรรยากาศภายในอาณาจักร 'ศูนย์การเรียนรู้ฯ บ้านของพ่อ จากก้าวแรกที่เดินไปสถานที่แห่งนี้ จะสัมผัสได้ถึงการน้อมนำหลักการเกษตรทฤษฎีใหม่ “ไร่นาสวนผสม” ตามแนวทางพระราชดำริ ร.๙ มาใช้ในการทำธุรกิจ มาใช้กับศูนย์การเรียนรู้นี้ สำหรับหลักการทฤษฏีไร่นาส่วนผสมนี้มีหลักว่าให้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนดังนี้ 1. ส่วนที่หนึ่ง แบ่งพื้นที่ 30% ขุดเป็นสระกักเก็บน้ำประจำไร่ เพื่อนำไปใช้ได้พอเพียงตลอดปี 2. ส่วนที่สอง แบ่งพื้นที่ 60% ให้เป็นพื้นที่ทำการเกษตร โดยปลูกข้าว 30% และปลูกพืชสวน 30% ตามความเหมาะสมของท้องถิ่นนั้น ๆ 3. ส่วนที่สาม แบ่งพื้นที่ 10% เป็นบริเวณที่อยู่อาศัย โรงเรือน คอกสัตว์ ทำปุ๋ย ฯลฯ Cr.NT Napatt : เกษตรทฤษฎีใหม่ 30 : 60 : 10 ทฤษฎีใหม่ “ไร่นาส่วนผสม” มีวัตถุประสงค์ให้จัดสรรปันส่วนพื้นที่ทำเกษตรที่มี เป็นการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม ด้วยการพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด และเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง "หลัก 3 ห่วง 2 เงื่อนไข: พอประมาณ มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง พร้อมทั้งเงื่อนไขมีความรอบรู้และมีคุณธรรม" เช่นเดียวกับที่ศูนย์การเรียนรู้ฯ นี้ที่มีการแบ่งพื้นที่เป็นบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ เช่น แพะ เป็ด ไก่ ปลูกต้นกล้วย ปลูกพืชสวน และนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาต่อยอดเป็นธุรกิจต่าง ๆ ได้ โดยนำหลักการของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับสถานที่แห่งนี้ ดังนี้ 1. กระจายความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ไม่ได้ลงทุนทำสินค้าเพียงแค่อย่างเดียว 2. ไม่ได้พึ่งพิงกับรายได้เพียงช่องทางเดียว เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้ มีการจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ และคณะที่ทำการศึกษา มาศึกษาแหล่งเรียนรู้ที่นี่ และยังเปิดร้านกาแฟที่ศูนย์การเรียนรู้นี้อีกด้วย 3. สร้างรายได้แบบ รายวัน รายเดือน รายปี โดยที่ศูนย์ฯ มีการขายสินค้าต่าง ๆ โดยการนำวัตถุดิบต่างๆ ที่มีในศูนย์ฯ มาเป็นสินค้าในการกินเอง และขายให้กับผู้ที่เข้ามาศึกษาและท่องเที่ยวในที่แห่งนี้ด้วย อาทิ การขายไข่เป็ด ไข่ไก่ ไข่เค็ม ให้นมแพะ ขนมกล้วยแปรรูปประเภทกล้วยฉาบ กล้วยทอด ขนมจากวัตถุดิบในสวน Cr.NT Napatt : ร้านบ้านของพ่อ 4. นำสิ่งที่ปลูก มารับประทานและถ้าหากเหลือก็แจกจ่าย ขายเลี้ยงชีพได้ 5. ศูนย์นี้มีความเหมาะสมต่อสภาพแวดล้อม และท้องถิ่น ใน จ.อยุธยานี้ 6. ที่ศูนย์นี้สามารถทำธุรกิจที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เป็นโครงข่ายได้ 7. การใช้ทรัพยากรที่นี่ สามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด เช่น การนำล้อเกวียนมาเป็นที่นั่งพัก นำไม้มาทำเป็นกังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเพิ่มออกซิเนให้กับบ่อน้ำ 8. และใช้ชีวิตอยู่แบบพออยู่พอกิน พึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด และที่น่าประทับใจมากๆ สำหรับศูนย์การเรียนรู้นี้ คือ คอนเซ็ปต์ (Concept : แนวความคิด) ของการจัดร้านกาแฟ ไม่ว่าจะเป็น โซนรับลูกค้า โซนนั่งดื่มกาแฟแบบบาร์ สำหรับผู้ที่มาคนเดียว หรือจะเป็นโซนรับประทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย สลัด สเต็ก ในรูปแบบที่มาเป็นครอบครัว บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยความอบอุ่น คลอไปด้วยเสียงเพลงเบาๆ เป็นความสุขใจที่ได้รับไปก่อนกลับบ้านCr.NT Napatt : รับลูกค้าCr.NT Napatt: ที่นั่นสำหรับผู้ที่มาแบบครอบครัว หรือมาเป็นคณะCr.NT Napatt : ที่นั่งสำหรับผู้ที่มาคนเดียว สำหรับศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อนี้ ไม่เก็บค่าเข้าชม ที่นี่เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) ที่ศูนย์นี้นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เหมาะสำหรับการพาลูก หลาน มาทำกิจกรรมร่วมกันได้ทั้งครอบครัว แม้กระทั่งวัยผู้ใหญ่ที่ทำงานแล้วก็สามารถมาศึกษาดูงานที่นี่ได้ ทุกท่านจะได้รับทั้งความสนุกและได้รับความรู้ไปด้วยในเวลาเดียวกัน รวมทั้งสามารถเสริมความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว หรือความสัมพันธ์ในที่ทำงานได้อีกด้วย หากวันไหนผ่านอยุธยา ลองแวะไปที่ 'บ้านของพ่อ' กันนะคะ