แฟชั่นของแต่ละยุค แต่ละสมัยนั้น ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามวัฒนธรรมแฟชั่นของผู้คน บางยุคก็นิยมแบบง่าย ๆ บางยุคก็นิยมแบบหรูหราสง่างาม หรือบางครั้งก็นำเสื้อผ้าแบบยุคเก่ามาประยุกต์ให้เป็นแบบใหม่ เพื่อให้เข้ากับกับสังคมปัจจุบันนั่นเองวันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าถึงแฟชั่นแบบ Old School หรือเรียกกันติดปากว่า “สไตล์วินเทจ” ซึ่งจะพูดถึง เสื้อยืดวินเทจ หรือที่รู้จักกันทั่วไปก็คือ “เสื้อยืดมือสอง” หรือพวกเสื้อกระสอบนั่นเอง ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในปัจจุบัน บางตัวก็ถูกมาก ๆ บางตัวก็แพงจนเวอร์ ผมจะเล่าที่มาของมันให้ฟังกันครับในตลาดเสื้อยืดมือสองนั้น มีการจำแนกเสื้อในลักษณะต่าง ๆ เช่น ตะเข็บคู่ ตะเข็บเดี่ยว หรือตอกปีนั้นปีนี้ ซึ่งเสื้อพวกนี้มีที่มาหลายทางมากครับ ซึ่งสุดท้ายจะถูกส่งมาจากประเทศเพื่อนบ้านของเราแถว ๆ ชายแดนบ้านเรา และจากการขนส่งทางเรือเป็นตู้คอนเทนเนอร์นั่นแหละครับเสื้อพวกนี้ ตีตราหลายประเทศมาก เช่น Made In USA. หรือ Made In Vietnam ซึ่งก็เป็นตัวบ่งชี้ราคาที่พ่อค้าจะอุปโลกความหายาก ความแพงมันขึ้นมา ยิ่งตีตราปีที่ผลิตปีเก่า ๆ ด้วยแล้ว เรียกราคาจากแฟนคลับเสื้อมือสองได้ดีเลยทีเดียวจากประสบการณ์ที่ได้อาศัยต่างประเทศในระยะนึง ทำให้ได้รู้ว่า เสื้อมือสองพวกนี้ ส่วนนึงมีที่มาจาก การบริจาคเสื้อเก่าให้สถานสงเคราะห์และการทิ้งเพราะเบื่อ นั่นเอง โดยเมื่อมันถูกบริจาคจำนวนมากจนล้นความต้องการ จึงมีพ่อค้าหัวใสขอซื้อเหมาในราคาแสนถูกเพื่อนำไปจำหน่ายต่อไปนั่นเองส่วนเสื้อที่ถูกทิ้งนั้น อาจจะเพราะเก่าหรือไม่ใส่แล้ว เพราะวัฒนธรรมของชาติตะวันตกบางชาติ มักจะทิ้งของที่ไม่ใช้แม้จะยังใช้ได้ เพียงเพราะเบื่อหรือไม่อยากใช้แล้ว โดยจะมีวันทิ้งของประจำเดือน เพื่อรอทางเจ้าหน้าที่รัฐมาเก็บ บางครั้งของดี ๆ ที่ยังใช้ได้ มักจะถูกชาวจีนที่อาศัยในประเทศนั้น ไปหอบเก็บเอามาเพื่อใช้ต่อ หรือบางครั้งก็เอามาซ่อมแซมเพื่อขายต่อ ซึ่งเสื้อผ้าก็เช่นกันเสื้อไม่ใช้แล้วเป็นตัน ๆ จึงถูกส่งข้ามประเทศมาถึงประเทศไทย เพื่อนำมาจำหน่ายเป็นกระสอบให้พ่อค้าเสื้อ นำมาขายปลีกในราคาต่าง ๆ ให้กับผู้ที่นิยมชมชอบเสื้อเก่านั่นเอง บางครั้งพ่อค้าจะคัดเสื้อลายวงดนตรีต่าง ๆ เพื่อนำมาโก่งราคาขายให้กับแฟนเพลงที่ชื่นชอบการสะสมเสื้อมือสอง ทั้ง ๆ ที่บางครั้งลายนั้น ๆ ไม่ได้หายากเอาซะเลย ราคาสั่งจากเว็บไซต์วงดนตรีนั้น ๆ โดยตรง ยังถูกว่าเสื้อมือสองลายเดียวกันหลายเท่าตัวและบางครั้งเสื้อลายวงดนตรีต่าง ๆ นั้น เป็นเสื้อ “Bootleg” หรือ เสื้อที่ถูกแอบผลิต โดยศิลปินไม่ได้รู้เห็นหรือยินยอมด้วย แต่เมื่อป้ายเสื้อนั้นตีตรา เมดอินประเทศต่าง ๆ พ่อค้าเสื้อก็อุปโลกน์ว่ามันคือเสื้อวงแท้ ๆ และตั้งราคาขายสูงลิ่ว เพื่อหากำไรกับคนที่ชื่นชอบเสื้อวงนั้น ๆบางครั้ง มีพ่อค้าหัวใสบางคน นำ เสื้อวงดนตรีปลอมที่ถูกผลิตอย่างผิดลิขสิทธิ์ในประเทศไทย นำมาเข้ากระบวนการทำให้เก่า โดยการฟอกสีหรือกัดสีผ้าในลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้ดูเก่า และนำมาตัดป้ายหรือ Tag เสื้อออก และนำเสนอลูกค้าว่าเป็นเสื้อวงดนตรีของแท้ แต่ถูกตัดป้าย และขายราคามหาโหด หลักพันหลักหมื่น ทั้งที่ต้นทุนนั้น เพียงไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเองแต่ก็ยังมีเสื้อวงดนตรีของแท้มือสองที่ขายกันในกลุ่มตลาดเสื้อมือสอง แต่ส่วนใหญ่เสื้อพวกนี้เป็นเสื้อที่ขายต่อกันมาจากแฟนเพลงจริง ๆ ที่สั่งมาจากต่างประเทศ ที่นำออกมาขายเพราะเบื่อหรืออื่น ๆ และบางส่วนก็มาจากเสื้อกึ่ง Bootleg จากประเทศอินโดนิเซียอีกเช่นกันเสื้อลายอื่น ๆ อย่างลายแบรนด์กีฬาต่าง ๆ หรือเสื้อลายวินเทจอื่น ๆ ก็ถูกนำมาขายลักษณะเดียวกับกับเสื้อวงดนตรี มีทั้งเสื้อแท้ เสื้อปลอมเช่นกัน เพราะการจะตรวจสอบเสื้อมือสองนั้น ทำได้ค่อนข้างยากทีเดียวและจากการที่ผู้เขียนมีเพื่อนอยู่หลายประเทศ พบว่าน้อยมากที่คนประเทศอื่น ๆ จะนิยมเสื้อเก่าหรือเสื้อมือสอง จากประสบการณ์ของตัวเองและการสอบถามเพื่อนต่างชาติไม่ค่อยมีใครนิยมซื้อเสื้อมือสองใส่มากเท่าแฟนคลับเสื้อวินเทจในประเทศไทยเลยแต่ทั้งนี้ก็เป็นรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน ผู้เขียนไม่สามารถตัดสินว่าอะไรดีหรือไม่ดี เพียงแต่บอกแนวทางเพื่อไม่อยากให้แฟน ๆ เสื้อมือสอง ถูกพ่อค้าหลอกขายเสื้อในราคาที่แพงลิ่วเกินไปพระเจ้าอวยพรครับ อาเมนภาพปกโดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 1 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 2 โดย : www.pexels.comภาพประกอบที่ 3 โดย : www.pexels.comภาพประกอบที่ 4 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 5 โดย : ผู้เขียนภาพประกอบที่ 6 โดย : www.pexels.comภาพประกอบที่ 7 โดย : www.pexels.com