เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวลือชิ้นหนึ่งที่แพร่กระจายไปตามโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ที่ว่าเทคโนโลยี 5G เป็นตัวการทำให้เกิดวิกฤติ covid-19 คนหลายคนพอได้ยินข่าวลือนี้อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระ และรู้สึกตลก แต่ที่เหลวไหล และน่าหัวเราะไปมากกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าจะมีคนจำนวน มากเชื่อเรื่องนี้ ทั้งที่คนเหล่านั้นอยู่ในประเทศที่เจริญแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในทวีปยุโรป ประเทศอังกฤษ หรือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคนเหล่านี้น่าจะมี วิจารณญาณมากพอที่จะคิดถึงเหตุและผล ถึงข้อเท็จจริง และความเป็นไปได้ มีรายงานข่าวว่า วิศวกรด้านโทรมนาคมหลายคน ถูกถ่มน้ำลายใส่ หรือถูกข่มขู่ เสาโทรศัพท์หลายสิบเสา ถูกวางเพลิง เพราะคิดว่าเป็นหอส่ง สัญญาณ 5G จนหน่วยงานของรัฐบาลในประเทศต่างๆต้องออกมาปฏิเสธข่าวลือนี้กันจ้าละหวั่น ส่วนทางด้านนักวิทยาศาสตร์ก็ออกมายืนยันว่า การ ติดเชื้อ และการป่วยจาก covid-19 นั้น เกิดจากละอองเสมหะจากการไอ จาม น้ำมูก น้ำลาย เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ และก็เป็นไปไม่ได้ที่ละออง เสมหะเหล่านี้ จะแพร่กระจายตัวโดยผ่านทางคลื่นสัญญาณ 5G แต่ก็ยังไม่วาย มีคนตะแบงเอาสีข้างถูต่อไปอีกว่า คลื่นสัญญาณ 5G ทำให้ระบบ ภูมิคุ้มกันของมนุษย์อ่อนแอลง เราลองคิดดูง่ายๆก็ได้ครับว่า วิกฤติ covid-19 มันเกิดขึ้นไปทั่วโลก และประเทศส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้เริ่มนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ด้วยซ้ำ และ ที่สำคัญ มันเป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรค ไม่เกี่ยวกับไวรัสที่แพร่ระบาดในคอมพิวเตอร์ และอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีเหตุผลอะไร ที่คนที่สร้างและมีส่วน สนับสนุน 5G จะทำให้เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ เพราะเมื่อเศรษฐกิจ รวมถึงสภาพสังคมทั่วโลกย่ำแย่ การที่จะทำให้เทคโนโลยี 5G เกิดขึ้นแพร่หลายไป ยังประเทศต่างๆ ก็ต้องกินเวลานานขึ้นไปอีก จริงๆแล้ว ยังมีเรื่องเหลวไหลอีกมากมายที่เกี่ยวกับ covid-19 เช่น เราสามารถฆ่าเชื้อไวรัสนี้ได้ด้วยการดื่ม, ฉีด, อาบ หรือ ทาตัวด้วยน้ำยา ฟอกขาว บ้างก็ว่า เราสามารถรักษาโรคนี้ได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งก็ไร้สาระอีกเช่นกันครับ เพราะยาปฏิชีวนะใช้กำจัดเชื้อแบคทีเรีย แต่ covid-19 เกิด จากเชื้อไวรัส ในสังคมปัจจุบัน ข้อมูลข่าวสารมีอยู่มากมายท่วมท้นตามสื่อต่างๆ จริงบ้าง เท็จบ้าง จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่พวกเราต้องมีสติ ใช้การ ไตร่ตรองให้รอบครอบ รวมไปถึงตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่หลากหลาย เพื่อที่เราจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของ fake news ครับ. ภาพหน้าปก เป็นภาพของผู้เขียน ขอขอบคุณภาพจาก www.pixabay.com ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3 ภาพที่ 4