ควรมีการจำหน่ายขนมหวาน/น้ำอัดลมในโรงเรียนหรือไม่?? ในโรงเรียนนอกจากจะมีชั้นเรียนให้นักเรียนได้เรียนรู้ ทำการเรียนการสอนแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่นักเรียนจะได้ผ่อนคลายและเติมพลังนั่นก็คือโรงอาหารหรือร้านค้าภายในโรงเรียน ในโรงเรียนทั่วโลกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะโรงเรียนในประเทศไทยก็จะมีร้านค้าที่มีการให้พ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายของ หรือมีร้านค้าสหกรณ์โรงเรียนที่เปิดขายทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม น้ำอัดลม เพื่อบริการนักเรียนในโรงเรียนและบุคลากรภายในโรงเรียน ซึ่งก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกและเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนทั้งโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนขนาดใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาถึงการจำหน่ายขนบขบเคี้ยว ของหวาน น้ำอัดลมในโรงเรียนแล้ว ก็จะต้องคำนึงถึงสุขภาพของนักเรียนด้วย การที่นักเรียนมาเรียนในโรงเรียนแล้ว เวลาส่วนใหญ่ของนักเรียนภายใน 24 ชั่วโมง นักเรียนจะใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนมากกว่าที่บ้าน และการที่นักเรียนอยู่ที่โรงเรียน นักเรียนจึงไม่ได้อยู่ในสายตาของผู้ปกครองตลอดเวลาโดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน การที่นักเรียนเลือกรับประทานขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน หรือน้ำอัดลมจึงเป็นอิสระต่อนักเรียนเองโดยเฉพาะนักเรียนที่เป็นเด็กเล็ก หรือ ในชั้นประถมศึกษา ซึ่งการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมาก มีสารอาหารน้อย โซเดียมสูง จะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กในแต่ละช่วงวัย และส่งผลต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต ในปัจจุบันพบว่ามีเด็กที่เป็นโรคอ้วน และมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานมากขึ้น และพบว่าเด็กที่เป็นโรคอ้วน และมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานนั้นมักจะรับประทานอาหารจานด่วน อาหาร junk food อาหารที่มีรสชาติหวาน เช่น ขนมหวาน ลูกกวาด น้ำหวาน และน้ำอัดลมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการที่จะลดจำนวนเด็กที่มีปัญหาเหล่านี้ลง ควรมีการปลูกฝัง หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารตั้งแต่เด็ก หรือมีการรับประทานอาหารที่อยู่ในการควบคุมดูแลของผู้ปกครอง การควบคุมการจำหน่ายหรือไม่ให้มีการจำหน่ายอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่มน้ำอัดลม ในโรงเรียนจึงมีส่วนช่วยลดปัญหาโรคอ้วนในเด็ก และเด็กมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ขณะที่การสอนให้เด็กเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ก็เป็นวิธีที่จะได้ผลดีที่สุด หรือควรมีการจำหน่ายอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขนมหวาน หรือเครื่องดื่มน้ำอัดลมได้ตามปกติ เนื่องจากในอีกแง่มุมหนึ่งคือ การที่นักเรียนได้เงินมาเพื่อใช้จ่ายในโรงเรียนหรือในการเรียน ที่ได้รับจากผู้ปกครองนั้น นักเรียนมีสิทธิ์ที่จะเลือกซื้อ เลือกรับประทานสิ่งที่ต้องการได้อย่างเสรี เนื่องจากเงินที่ได้มานั้นเป็นเงินส่วนตัวของนักเรียนและเป็นสิทธิส่วนตัวที่นักเรียนจะเลือกซื้อสิ่งใดที่ต้องการ และอีกแง่มุมหนึ่งโดยเฉพาะในเด็กโต หรือนักเรียนที่เรียนในชั้นที่สูงขึ้น เช่น ชั้นมัธยมศึกษา อุดมศึกษา คือนักเรียนอาจมีความยับยั้งชั่งใจที่จะเลือกไม่รับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ขนมหวานหรือน้ำอัดลมได้ มีการตระหนักถึงสิ่งที่ได้หรือสารอาหารจากอาหารที่ตนเองได้รับประทาน ในขณะที่นักเรียนที่เป็นเด็กเล็ก หรือโรงเรียนประถมนั้นอาจยังไม่มีความยับยั้งชั่งใจ หรือการคิดพิจารณาถึงสิ่งที่ได้รับประทานไป การจัดการหรือการควบคุมการจำหน่ายอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของผู้บริหารของโรงเรียน ซึ่งควรคำนึงถึงสุขภาพของนักเรียนเป็นสำคัญและจะต้องได้รับการยอมรับ หรือความยินยอมจากผู้ปกครองในการจัดการมาตรการต่าง ๆ ด้วยจึงจะเป็นผลดีและได้ผลที่สุด อย่างไรก็ตามการตระหนักถึงสุขภาพของนักเรียนในโรงเรียน หรือเด็กนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง การที่จะลดปัญหาโรคอ้วนในเด็ก หรือการที่เด็กมีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานต้องมีการแก้ไขอย่างจริงจัง และเร็วที่สุดก่อนที่จะส่งผลถึงปัญหาสุขภาพและปัญหาสภาพจิตใจที่ตามมาในอนาคตเมื่อเด็กเหล่านั้นโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตได้ เครดิตภาพ ภากปก https://pixabay.com ภาพประกอบ ขนมหวาน https://pixabay.com เด็กนักเรียน ภาพจากผู้เขียน เด็กนักเรียนโต https://pixabay.com