"วิวสวยมาก" "ถ่ายรูปสวย" "ทะเลหมอกยามเช้าสวยเวอร์" และ "ควรจะไปให้ได้สักครั้ง ใกล้ ๆ แค่นี้" นี่คือหลากหลายประโยคบอกเล่า แกมบังคับว่าฉันควรจะหาโอกาสไปเยือน ทะเลหมอก และวิวหมู่เกาะอ่าวพังงา สักครั้ง ที่นี่ "เสม็ดนางชี" เมื่อสบโอกาสในวันเสาร์สิ้นเดือนพฤศจิกายน และเชคดูแล้วว่าช่วงนี้พังงาไม่มีฝน ก็เลยจัดทริปเล็ก ๆ โดยการขับรถไปเอง แบบเช้าไป เย็นกลับจากบ้านที่ภูเก็ต ขับจากเกาะขึ้นแผ่นดินใหญ่ที่พังงา โดยจุดหมายที่เลือกแบบ It's a must คือ ที่นี่ เสม็ดนางชี จากข้อมูลที่หามาจากกูเกิลและคำบอกเล่าของเพื่อน ๆ ที่เคยไปเยือนมาแล้ว บอกว่าเป็นเส้นทางที่หาไม่ยาก ถ้ามาจากตัวเมืองพังงาจะมีทางบอกเลี้ยวเข้าไปในทางแยกจากถนนใหญ่อีกประมาณสิบกว่ากิโล แล้วก็จะเห็นป้ายบอกว่าจุดชมวิว ก็เลยเลือกออกเดินทางแบบไปหามื้อเช้ารองท้องก่อนแถวโคกกลอย แล้วขับเลยต่อไปก่อนยูเทิร์น เพื่อเข้าปากทางซ้ายมือ แถววัดดิตถาราม จากป้ายหน้าปากทาง ขับตรงไปตามทางราดยางในหมู่บ้านที่บอกว่าเป็นชุมชนบ้านหินร่ม อีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็ไม่ได้ยากมากนะ ขับรถตรงมาเรื่อย ๆ จากปากทางจะเห็นบ้านเรือนของชุมชนชาวมุสลิมที่อยู่โดยรอบ ถนนสองเลน พอให้รถสวนกันได้ ซึ่งก็แทบจะมีรถสวนมาไม่มากนัก พอขับมาถึงป้ายบอกจุดจอดรถ จุดชมวิวเสม็ดนางชี ฉันก็เลี้ยวหัวรถเข้าไป ไม่เสียค่าที่จอดรถ แต่ต้องซื้อบัตรเพื่อเป็นค่าธรรมเนียมในการเยือนจุดชมวิวที่อยู่ด้านบนเขา จากจุดที่จอดรถ สามารถเลือกได้ว่าจะใช้บริการรถกระบะโฟร์วิลของที่นี่ หรือใช้ทูวีล คือขาของเราเองเดินขึ้นไป ซึ่งราคาค่าธรรมเนียมแบบแรก จะจ่ายคนละ 90 บาท คือ 30 บาทเป็นค่าธรรมเนียม ส่วนอีก 60 บาท เป็นค่ารถไปและกลับ แน่นอน... ฉันเลือกแบบที่สอง ทูวีลด้วยขาตัวเอง #ทำเป็นฟิต มาครั้งแรก และไม่รู้เลยว่ามันเป็นทางเดินขึ้นเขาที่สูงกี่กิโลเมตร แต่ฉันเห็นฝรั่งต่างชาติเดินลงมา ก็เลยคิดว่า ฝรั่งยังเดินได้ เราก็เดินได้สิ ว่าแล้วก็ซื้อตั๋วในราคา 30 บาท และก้าวยาว ๆ เดินขึ้นจุดชมวิวเสม็ดนางชี ในเวลาที่ดวงตะวันเลยเที่ยงวันมาแล้วไม่ถึงชั่วโมง... ไปกัน มันเป็นทางเดินขึ้นเขาที่ชันมาก และจาก Google Map บอกว่าใช้เวลาในการเดิน 16 นาที แต่ไม่ได้บอกว่ามันจะชันขนาดนี้ นอกจากชัน บางช่วงก็ยังเป็นทางโค้ง ซึ่งทางที่ฉันเดิน ก็เป็นเส้นทางเดียวกับที่รถรับส่งขับผ่าน แต่ระหว่างทางที่เดินขึ้นไป ฉันก็เห็นวิวของอ่าวพังงาและเกาะน้อยใหญ่ได้แล้ว แต่จุดหมายคือด้านบนสุด ฉันใช้เวลาในการเดินขึ้นเขาราว ๆ เกือบ 30 นาที เพราะต้องหยุดหายใจลึก ๆ ในบางช่วง และเพื่อเรียกความฟิต ว่า อีกนิดเดียว อีกนิดเดียว.. จนในที่สุด ฉันก็เดินขึ้นมาจนถึงจุดชมวิว ซึ่งมีร้านอาหารเสม็ดนางชีซีฟู้ด และบังกะโลหลังเล็ก ๆ ปลูกห่างกันเป็นระยะ ๆ ไว้บริการ หรือถ้าไม่เลือกพักแบบบังกะโลก็มีเต๊นท์กางอยู่ ซึ่งมีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะขึ้นมาค้างคืนเพื่อรอดูทะเลหมอกในยามเช้า.. คุ้มค่ากับการเดินขึ้นเขา ลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ฉันเริ่มคูลดาวน์และเหงื่อที่ซึมก็เริ่มจะน้อยลง ขาได้พัก และมือกับตาได้เก็บภาพวิวที่สวยงามตรงหน้าอย่างคุ้มค่า เป็นอันซีนในมุมสูงที่สามารถมองเห็นได้รอบในวันที่ฟ้าเปิด และมโนต่อไปอีกว่า จะสวยขนาดไหน ถ้าหากตื่นนอนในตอนเช้าแล้วทะเลหมอกสีขาวนวล ๆ ลอยเต็มโดยรอบอ่าวพังงาและอากาศเย็นสบาย ภาพแก้วกาแฟควันฉุยและกลิ่นอากาศเย็นลอยผสมกันมา.. แค่คิดก็ฟินไปถึงไหน ๆ ธรรมชาติมอบสิ่งที่สวยงามให้เราและโลกใบนี้เสมอ... นึกถึงกาแฟ... ขาของฉันก็พาตัวเองลงจากจุดชมวิว หลังจากที่อิ่มเอมกับวิวและภาพสวย ๆ ได้สักระยะหนึ่ง เพราะบ่าย ๆ แบบนี้ควรจะหาสักที่เพื่อเป็น Coffee Break ให้ตัวเอง เลยขับรถเลยไปอีกประมาณ 1 นาที จากจุดชมวิวแรก จะเห็นป้ายบอกสถานที่ว่า เสม็ดนางชี บูทีค ซึ่งด้านบนของรีสอร์ทแห่งนี้มีร้านกาแฟเก๋ ๆ และที่พักชิค ๆ อยู่ด้วย เสียค่าธรรมเนียมและรถรับส่ง คนละ 50 บาท และจากคูปองที่จ่ายไปสามารถนำไปเป็นส่วนลดที่ร้านกาแฟ และร้านอาหารด้านบนได้อีกด้วย เช่นเดิมรถที่บริการจะเป็นรถที่ไว้รับส่งนักท่องเที่ยวและแขกที่จองห้องเพื่อเข้าพัก จุดที่เป็นร้านกาแฟจะอยู่สูงสุดกว่ารีสอร์ท ที่นี่ไม่ได้มีให้เลือกว่าจะเดินหรือจะขึ้นรถ ดังนั้นจึงใช้เวลาไม่นานก็ถึงจุดบนสุดซึ่งวิวก็ไม่ได้ต่างจากที่แรก แต่ความฟินอยู่ที่มีกาแฟ และขนมอร่อย ๆ ให้ชิมพร้อมแกล้มบรรยากาศในราคาที่ไม่แพงมากอีกด้วย จากการสืบค้น เสม็ดนางชีบูทีค เป็นรีสอร์ทที่มียอดการจองค่อนข้างแน่น คือไม่สามารถจองล่วงหน้าไม่กี่วันแล้วเข้าพักได้ จากประสบการณ์ของฉันเอง ที่นี่มักจะเต็มเกือบตลอดทั้งเดือน เอาเป็นว่า ถ้าอยากจะฟินกับทะเลหมอก แล้วเลือกพักที่นี่ อาจจะต้องแพลนยาวกันเป็นเดือน ๆ แต่สำหรับฉัน แค่นี้ ก็ถือว่า เป็นครั้งแรกก็ (ภารกิจ)เสร็จ..ที่เสม็ดนางชี แล้วล่ะ ^_^