อื่นๆ

คนไม่ค่อยพูด มันผิดด้วยเหรอ??

273
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คนไม่ค่อยพูด มันผิดด้วยเหรอ??

นิสัยของคนเราแต่ละคนย่อมมีนิสัยที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น พูดมาก พูดน้อย ดี ไม่ดี เกเร ไม่เกเร ชอบแกล้ง ชอบว่าคนอื่น  และอีกมากมายแต่นิสัยที่เราจะพูดถึงนี้  เราเชื่อว่าหลายคนคงเป็นอยู่ หรืออาจจะมีเพื่อน พี่น้อง ญาติ ที่มีลักษณะนิสัยเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยคุยกับใครที่ไม่สนิท พูดน้อย

เศร้า ภาพโดย lisa runnels จาก Pixabay

เรื่องราวที่จะเขียนนี้เป็นเรื่องที่มาจากชีวิตจริงของตัวฉันเอง ก่อนอื่นเลยต้องขอแทนตังเองด้วยคำว่า ฉัน เพราะจะได้เขียนสะดวกมากขึ้น    ต้องขอย้อนไปตั้งแต่สมัยที่ฉันยังเด็ก ตอนที่ฉันยังเด็กก็รู้นิสัยตังเองว่าเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ตอนเรียนอนุบาลกับประถมก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร แต่จะมีตอนเริ่มเข้าเรียนมัธยมต้นเพราะเป็นช่วงที่ต้องย้ายโรงเรียนด้วย เชื่อว่าทุกคนเคยเป็นที่จะกลัวกับการเปลี่ยนแปลง กลัวการเริ่มใหม่ เพราะต้องเจอกับเพื่อนใหม่ที่ต้องศึกษานิสัยใจคอกัน และปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ให้ได้ ช่วงแรกๆที่เข้าไปเรียน ม.1 ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร พอเริ่มขึ้น ม.2 ก็เริ่มรู้จักนิสัยกัน เพื่อนในห้องก็จะคอยว่าคอยถามฉันทำไมไม่ค่อยพูด เวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนก็จะนิ่งๆ ไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่พูดเลยนะไม่ถึงขนาดนั้น แต่ฉันก็ได้แต่ยิ้มแล้วตอบเพื่อนไปว่าก็นิสัยเป็นแบบนี้แหละ จริงๆแล้วการที่ฉันไม่ค่อยพูดก็เป็นที่นิสัยส่วนหนึ่ง แต่ยังมีหลายสาเหตุที่หลายๆคนเขาไม่รู้เลยคือ

Advertisement

Advertisement

  • ฉันเป็นคนที่ฟันห่างมาก เวลายิ้ม หัวเราะ หรือพูด ก็จะเห็นฟัน เลยไม่กล้าที่จะยิ้ม พูด หัวเราะกับใครมาก ถ้าไม่ได้สนิทกันจริงๆ เคยโดนล้อ โดนว่าฟันห่าง ทำให้ขาดความมั่นใจ ไม่กล้าที่จะยิ้ม หรือพูดกับใครที่ไม่สนิทเลย
  • เพศสภาพ ฉันรู้ตัวเองตอนอยู่ประถมว่าชอบผู้หญิง ชอบแต่งตัวห้าวๆ แต่พ่อไม่ยอมรับนี่สิ ฉันเลยกลัวไม่กล้าจะบอกกับเพื่อน เพราะคิดว่าถ้าบอกเพื่อนไปแล้วเล่าต่อๆกันก็อาจจะถึงหูพ่อได้ มันก็เลยทำให้ฉนไม่กล้าที่จะพูดกับเพื่อนมากเพราะกลัวหลุดปากเรื่องนี้ (พ่อเป็นคนที่โมโหร้ายมาก แล้วฉันเป็นลูกสาวคนเดียวด้วยพ่อคงให้ให้แต่งงานมีลูก มีพี่พี่ก็เป็นผู้ชาย)
  • โดนล้อ โดนว่าบ่อย เรื่องไม่ค่อยพูด จนกลายเป็นปมด้อยในใจ(แต่พิมพ์คำที่โดนล้อ โดนว่า ไม่ได้จริงๆ เพราะมีคำหยาบ)

ไม่ค่อยพูด ภาพโดย Ryan McGuire จาก Pixabay

พอขึ้น ม.4 ก็โดนหนักขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เพื่อนที่ล้อที่ว่า ครูก็ด้วย จนแบบกลับมาบ้านต้องแอบร้องไห้ในห้องทุกวัน เครียด เศร้า ปวดหัว นอนไม่หลับ และไม่อยากไปโรงเรียนเลยและเป็นแบบนี้ทุกวัน เวลาทำกิจกรรมต่างๆ หรือ กลุ่มทำรายงาน โครงงาน ก็จะมีฉันคนเดียวที่ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย ทุกคนทำเหมือนฉันเป็นตัวน่ารังเกียจ ฉันได้แต่ตั้งคำถามในใจว่า แค่เราไม่ค่อยพูดเหรอ ไม่ค่อยยิ้ม ไม่สนิทกันเหรอ แต่ก็นั่นแหละจะทำไงได้ก็ต้องอดทนเอา ฉันอดทนมาตลอดจนจบ ม.6 เขาจะรู้ไหมว่าฉันรู้สึกแย่แค่ไหน เสียใจแค่ไหน ที่โดนว่า โดนล้อมาตลอด มันกลายเป็นปมด้อยในใจฉันไปเลย พอเรียนต่อ ปวส. ในใจฉันคิดว่าต้องโดนล้ออีกแน่ แต่แปลกไม่เป็นแบบนั้น เพื่อน ปวส. ไม่ล้อ ไม่ว่าปมด้อยของฉันด้วยคำหยาบเลย อาจจะมีล้อบ้างแต่ล้อแบบติดตลกเพื่อให้ฉันหัวเราะ ไม่เครียด ความสุข

Advertisement

Advertisement

ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

ปัจจุบันเรื่องราวเหล่านี้ ยังติดในใจฉันตลอดแต่ก็ไม่ได้คิด ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว เพราะยิ่งโตขึ้นมันทำให้ฉันรู้ว่าเราห้ามความคิด ห้ามปาก ห้ามคำพูดใครไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะไม่สนใจได้ การที่จะใช้ชีวิตให้มีความสุขต้องมองโลกในแง่ดี คิดบวก ไม่เก็บคำพูดแย่ๆที่ทำร้ายความรู้สึกเรามาคิด อย่าให้คนอื่นมาทำให้เราเป็นทุกข์ใจ รักตัวเองให้มาก เราเป็นแบบไหนก็ไห้เป็นตัวเราแบบนั้น อย่าไปสนใจคนอื่น สุดท้ายนี้อยากฝากให้คนที่มาอ่านบทความนี้ว่า ถ้ามีลูกหลาน เพื่อน พี่น้อง ที่เป็นคนลักษณะนิสัยแบบนี้ อย่าไปล้อ อย่าไปว่า ตอกย้ำด้วยคำว่า ทำไมไม่พูด ทำไมไม่ปาก ทำไมชอบทำตัวมีปัญหา อย่างเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้เขากลายเป็นเด็กมีปมด้อย ไม่กล้าพูด ไม่กล้าปรึกษาใครอีกเลย ต้องคอยให้กำลังใจ คอยให้คำปรึกษา พูดดีๆกับเขา คอยอยู่ข้างๆ เชือว่าถ้าเด็กโตขึ้นเขาจะสามารถปรับตัวได้ และไม่กลายเป็นเด็กมีปมแน่นอน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์