ไลฟ์แฮ็ก

"ข้าราชการ" vs "พนักงานเอกชน" เลือกทำงานแบบไหนดี

10.5k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
"ข้าราชการ" vs "พนักงานเอกชน" เลือกทำงานแบบไหนดี

สิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันเมื่อเรียนจบ นั่นก็คือ มีงานทำ แต่จะเป็นงานแบบใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นชอบหรือถนัดสิ่งใด ในความชอบและความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากยังตัดสินใจไม่ได้คุณอาจไปตั้งต้นที่บทความนี้ก่อนก็ได้ ใบปริญญายังสำคัญอยู่ไหม ในยุคนี้ ? เผื่อมีไอเดียและเป้าหมายให้กับชีวิตมากยิ่งขึ้น งาน

และเมื่อได้ไอเดีย หรือเป้าหมายแล้วว่าจะไปในทิศทางใด สำหรับบทความนี้มี 2 สายงานให้ทุกท่านได้เปรียบเทียบกันระหว่าง ข้าราชการ และ พนักงานเอกชน การเปรียบเทียบนี้เป็นตัวช่วยหรือเสริมการตัดสินใจของคุณที่จะเข้าทำงาน และให้มีโอกาสได้สานฝันมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มจาก ข้าราชการ กันก่อน

ข้าราชการ

  • ข้อดี
    1. มีสวัสดิการที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งเป็นระบบจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง บางอย่างของการรักษาไม่ต้องสำรองจ่ายแบบเมื่อก่อน เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนใบเดียว รวมสิทธิ์ครอบคลุมถึงบิดา มารดา บุตร และคู่สมรสอีกด้วย
    2. เงินเดือนมั่นคง หรือจะเรียกอีกอย่างว่าน้ำซึมบ่อทราย คือมีเงินเดือนเข้าก่อนสิ้นเดือนประมาณ 3 วัน และหากเกิดสถานการณ์ใด ๆ ก็แล้วแต่ ยังคงได้รับเงินเดือนปกติ
    3. มีบำเหน็จ บำนาญ หากเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ยังสามารถเลือกรับบำเหน็จ หรือบำนาญเพื่อการดำรงชีวิตได้ และการรับบำเหน็จจะรับแบบเป็นเงินก้อนเดียว แต่ถ้าหากรับบำนาญจะได้เงินเดือนในแต่ละเดือนจ่ายเป็นรายเดือน
    4. มีเวลาพักผ่อนในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
    5. หากมีบุตร สามารถเบิกค่าการศึกษาได้ตั้งแต่ระดับอนุบาล
    6. มีสิทธิในการลา เช่น ลาป่วย ลากิจ ลาคลอดบุตร เป็นต้น
    7. ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งนำมาซึ่งความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้รับใช้ประเทศชาติอันเป็นเกียรติให้แก่ตัวเองและครอบครัว
    8. เบิกค่าเช่าบ้านได้
    9. ระบบงานเป็นไปตามขั้นตอน
    10. มีระเบียบที่เคร่งครัด มีวินัย การแต่งกายต้องถูกระเบียบ
  • ราชการ
  • ข้อเสีย

Advertisement

Advertisement

  1. งานบางอย่างต้องเสียสละเวลาในช่วงวันหยุดราชการ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาจไม่ได้มีเวลาพักผ่อนมากนัก
  2. ระบบงานเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งค่อนข้างช้า เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหลายฝ่าย
  3. ระบบอาวุโส การทำงานราชการจะมีระบบเคารพผู้อาวุโสกว่า โดยหากแสดงความคิดเห็นไปในทางที่เสนอคำแนะนำ อาจไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะจะมองว่าดูไม่เหมาะสม
  4. ระบบเบิกจ่ายหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ ต้องรอระยะเวลาที่ใช้งบประมาณได้ ซึ่งต้องมีการสำรองจ่ายกันอยู่บ้าง
  5. บางระบบงาน ยังเป็นการทำงานแบบระบบงานแบบดั้งเดิม ไม่มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย
  6. บำเหน็จ บำนาญ หากเลือกผิดชีวิตเปลี่ยน เนื่องจากหลังเกษียณอายุราชการ เงินเดือนจะลดลงถ้าหากบริหารการเงินไม่ดี ตอนเกษียณอายุราชการมาอาจลำบากได้

พนักงานเอกชน

  • ข้อดี
    1. เงินเดือนสูงตามความสามารถ
    2. มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานอย่างรวดเร็ว
    3. การแต่งกายบางบริษัท ไม่ต้องใส่ฟอร์มของบริษัท ซึ่งสามารถแต่งกายได้ตามสบาย แต่สุภาพ
    4. มีสวัสดิการดีเพราะมีความเข้าใจกับพนักงาน
    5. มีความสะดวก และความรวดเร็วในการทำงาน
    6. สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
    7. มีโอที โบนัสประจำปี
  • พนักงานเอกชน
  • ข้อเสีย
    • เมื่อเงินเดือนสูง โอกาสที่ทำงานไปสักระยะจะถูกหมายตาได้ซองขาวก็มีเช่นกัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัท
    • บริษัทอาจไม่อุ้มพนักงาน ต่อให้พนักงานขยันสุด ๆ หรือรักองค์กรมากแค่ไหน เมื่อไม่คุ้มบริษัทก็ไม่แคร์เรา
    • การลาออกเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับเพื่อนร่วมงานหรือรวมถึงตัวคุณเอง เพราะบางคนอาจมาแค่อยากได้ประสบการณ์แล้วก็จากไป
    • หากไม่รีบเก็บออมในขณะที่เงินเดือนสูง โดนปลดไม่ทันตั้งตัวอาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลย
    • กว่าจะได้รับเงินเดือนคือสิ้นเดือนเลย คือวันที่ 30 หรือ 31 ของเดือน
    • เวลาเลิกงานช้ากว่าระบบราชการ
    • บางบริษัททำงานหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว

Advertisement

Advertisement

และทั้งสองสถานะนั้นมีอยู่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือ การเก็บออม หากไม่ออมเงินในขณะที่ทำงานทั้งในส่วนของงานราชการหรือเอกชน เราอาจต้องมานั่งเครียดกับบั้นปลายชีวิตได้ เพราะฉะนั้นวางเป้าหมายของคุณให้ดีว่าจะไปในทิศทางใด และที่สำคัญที่สุดเลือกในสิ่งที่ชอบ และอยากเป็น อย่าฝืนเพราะคนอื่นจะทำให้เราไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ


ภาพปกโดยCanva

ภาพประกอบบทความโดย Pixabay ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3

ติดตามบทความอื่นได้ที่ Naris

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์