ไลฟ์แฮ็ก
"ข้าราชการ" vs "พนักงานเอกชน" เลือกทำงานแบบไหนดี
สิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝันเมื่อเรียนจบ นั่นก็คือ มีงานทำ แต่จะเป็นงานแบบใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าบุคคลนั้นชอบหรือถนัดสิ่งใด ในความชอบและความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากยังตัดสินใจไม่ได้คุณอาจไปตั้งต้นที่บทความนี้ก่อนก็ได้ ใบปริญญายังสำคัญอยู่ไหม ในยุคนี้ ? เผื่อมีไอเดียและเป้าหมายให้กับชีวิตมากยิ่งขึ้น
และเมื่อได้ไอเดีย หรือเป้าหมายแล้วว่าจะไปในทิศทางใด สำหรับบทความนี้มี 2 สายงานให้ทุกท่านได้เปรียบเทียบกันระหว่าง ข้าราชการ และ พนักงานเอกชน การเปรียบเทียบนี้เป็นตัวช่วยหรือเสริมการตัดสินใจของคุณที่จะเข้าทำงาน และให้มีโอกาสได้สานฝันมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มจาก ข้าราชการ กันก่อน
ข้าราชการ
- ข้อดี
- มีสวัสดิการที่เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งเป็นระบบจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลาง บางอย่างของการรักษาไม่ต้องสำรองจ่ายแบบเมื่อก่อน เพียงแค่แสดงบัตรประชาชนใบเดียว รวมสิทธิ์ครอบคลุมถึงบิดา มารดา บุตร และคู่สมรสอีกด้วย
- เงินเดือนมั่นคง หรือจะเรียกอีกอย่างว่าน้ำซึมบ่อทราย คือมีเงินเดือนเข้าก่อนสิ้นเดือนประมาณ 3 วัน และหากเกิดสถานการณ์ใด ๆ ก็แล้วแต่ ยังคงได้รับเงินเดือนปกติ
- มีบำเหน็จ บำนาญ หากเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ยังสามารถเลือกรับบำเหน็จ หรือบำนาญเพื่อการดำรงชีวิตได้ และการรับบำเหน็จจะรับแบบเป็นเงินก้อนเดียว แต่ถ้าหากรับบำนาญจะได้เงินเดือนในแต่ละเดือนจ่ายเป็นรายเดือน
- มีเวลาพักผ่อนในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
- หากมีบุตร สามารถเบิกค่าการศึกษาได้ตั้งแต่ระดับอนุบาล
- มีสิทธิในการลา เช่น ลาป่วย ลากิจ ลาคลอดบุตร เป็นต้น
- ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งนำมาซึ่งความภาคภูมิใจที่มีโอกาสได้รับใช้ประเทศชาติอันเป็นเกียรติให้แก่ตัวเองและครอบครัว
- เบิกค่าเช่าบ้านได้
- ระบบงานเป็นไปตามขั้นตอน
- มีระเบียบที่เคร่งครัด มีวินัย การแต่งกายต้องถูกระเบียบ
- ข้อเสีย
Advertisement
Advertisement
- งานบางอย่างต้องเสียสละเวลาในช่วงวันหยุดราชการ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ อาจไม่ได้มีเวลาพักผ่อนมากนัก
- ระบบงานเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งค่อนข้างช้า เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหลายฝ่าย
- ระบบอาวุโส การทำงานราชการจะมีระบบเคารพผู้อาวุโสกว่า โดยหากแสดงความคิดเห็นไปในทางที่เสนอคำแนะนำ อาจไม่ได้รับการสนับสนุน เพราะจะมองว่าดูไม่เหมาะสม
- ระบบเบิกจ่ายหากเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ ต้องรอระยะเวลาที่ใช้งบประมาณได้ ซึ่งต้องมีการสำรองจ่ายกันอยู่บ้าง
- บางระบบงาน ยังเป็นการทำงานแบบระบบงานแบบดั้งเดิม ไม่มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย
- บำเหน็จ บำนาญ หากเลือกผิดชีวิตเปลี่ยน เนื่องจากหลังเกษียณอายุราชการ เงินเดือนจะลดลงถ้าหากบริหารการเงินไม่ดี ตอนเกษียณอายุราชการมาอาจลำบากได้
พนักงานเอกชน
- ข้อดี
- เงินเดือนสูงตามความสามารถ
- มีโอกาสก้าวหน้าในการทำงานอย่างรวดเร็ว
- การแต่งกายบางบริษัท ไม่ต้องใส่ฟอร์มของบริษัท ซึ่งสามารถแต่งกายได้ตามสบาย แต่สุภาพ
- มีสวัสดิการดีเพราะมีความเข้าใจกับพนักงาน
- มีความสะดวก และความรวดเร็วในการทำงาน
- สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ
- มีโอที โบนัสประจำปี
- ข้อเสีย
- เมื่อเงินเดือนสูง โอกาสที่ทำงานไปสักระยะจะถูกหมายตาได้ซองขาวก็มีเช่นกัน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัท
- บริษัทอาจไม่อุ้มพนักงาน ต่อให้พนักงานขยันสุด ๆ หรือรักองค์กรมากแค่ไหน เมื่อไม่คุ้มบริษัทก็ไม่แคร์เรา
- การลาออกเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับเพื่อนร่วมงานหรือรวมถึงตัวคุณเอง เพราะบางคนอาจมาแค่อยากได้ประสบการณ์แล้วก็จากไป
- หากไม่รีบเก็บออมในขณะที่เงินเดือนสูง โดนปลดไม่ทันตั้งตัวอาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลย
- กว่าจะได้รับเงินเดือนคือสิ้นเดือนเลย คือวันที่ 30 หรือ 31 ของเดือน
- เวลาเลิกงานช้ากว่าระบบราชการ
- บางบริษัททำงานหยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว
Advertisement
Advertisement
และทั้งสองสถานะนั้นมีอยู่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือ การเก็บออม หากไม่ออมเงินในขณะที่ทำงานทั้งในส่วนของงานราชการหรือเอกชน เราอาจต้องมานั่งเครียดกับบั้นปลายชีวิตได้ เพราะฉะนั้นวางเป้าหมายของคุณให้ดีว่าจะไปในทิศทางใด และที่สำคัญที่สุดเลือกในสิ่งที่ชอบ และอยากเป็น อย่าฝืนเพราะคนอื่นจะทำให้เราไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
ภาพประกอบบทความโดย Pixabay ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3
ติดตามบทความอื่นได้ที่ Naris
ความคิดเห็น