อื่นๆ
การใช้ชีวิตในสภาพสังคมที่เห็นแก่ตัว
หลายคนคงเถียงไม่ได้ว่าสังคมเราทุกวันนี้เป็นสังคมที่เห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกวัน เป็นสังคมแห่งการแย่งชิง แข่งขัน ใครดีใครได้ ใครถึงก่อนได้เปรียบ ฉันเท่านั้นที่ต้องอยู่รอด คนที่มีน้ำใจ กลายป็นคนโง่ให้ทุกคนกดขี่ เอาเปรียบ ในสภาพสังคมแบบนี้เราควรจะเปลี่ยนแปลงหรือเอาตัวรอดจากสังคมนี้อย่างไร
ภาพโดย StartupStockPhotos จาก Pixabay
ข้อแรก อย่ายุ่งกับใคร(ปลีกวิเวก) ใช่เเล้ว เมื่อคนอื่นทำให้เราเห็นความแก่ตัวในตัวเขา เราก็ต้องถอยกลับมาเห็นตัวเองบ้างว่าเรากำลัง ทำดีกับคนที่ถูกต้องหรือไม่ และตัดคนไม่ที่ไม่น่าคบออกไป บางทีอาจจะเหลือตัวเราอยู่คนเดียวเหงา ๆ หน่อย แต่เดี๋ยวนี้โชคดี ซีรี่ย์เยอะ
ข้อสอง เฉย ๆ ไว้ นี้เป็นคำแนะนำที่ไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ในยุคที่ทุกคนควักปืนขึ้นมายิ่งกันง่าย ๆ แบบนี้อย่าพยายามไปช่วยเหลือใครซึ่ง ๆ หน้า เพราะเราอาจจะไม่ได้กลับบ้าน ถ้าเกิดเหตุวิวาทขึ้นจริง ๆ ก็ขอให้หลบมุมแล้วโทรหาเจ้าหน้าที่เป็นดีที่สุด เพราะชีวิตเรายังมีค่ากับคนที่บ้านอยู่ เพราะคงไม่มีใครอยากเป็นฮีโร่ที่เหลือแค่ชื่อนะ
Advertisement
Advertisement
ข้อต่อมา เขาร้อนเราต้องเย็น ทำใจร่ม ๆ สงบ ๆ ไว้ มันอาจจะฟังดูยากมาก ถ้าไม่ไหวก็ถอยไปตั้งหลักสักระยะ ชวนคู่กรณีไปนั่งทานกาแฟเย็น ๆ สักแก้ว หรือถ้าตกลงกันไม่ไหวจริง ๆ ก็ไปคุยกันในห้องเย็นที่โรงพัก
ข้อที่สี่ เงินคือพระเจ้า และคำขอโทษก็ใช้ไม่ได้เสมอไป หากเป็นกรณีที่สามารถยอมความกันได้ด้วยเงิน หากคุณต้องการออกจากทีเกิดเหตุให้เร็วที่สุด และคู่กรณีกำลังจะหัวร้อน คุณลองไกล่เกลี่ยด้วยจำนวนเงินดูซิ สังคมสมัยนี้ เงินอาจจะเป็นน้ำแข็งชโลมใจคู่กรณีได้อย่างดีที่เดียว
ภาพโดย Willfried Wende จาก Pixabay
ข้อสุดท้าย ข้อนี้สำคัญที่สุด ใครไม่ทำเราต้องทำ คือเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราควรจะเปลี่ยนเป็นผู้เสียสละ ยอมรับในสิ่งเล็กน้อย ๆ ไม่ควรใจร้อนตามอากาศ ที่สำคัญ ไม่ควรพกอาวุธ เพราะอาวุธทั้งหลายแหล่เป็นของร้อนถ้ารู้ว่ามีมันอยู่ก็มักจะย่ามใจ ไม่มีใครทำอะไรเราได้ และตอนนั้นแหละถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น เหตุสลดก็จะตามมาทันที
Advertisement
Advertisement
เมื่อก่อนสังคมไทยเป็นสังคมที่เอื้อเฝื้อเผื่อแผ่กัน มีเรื่องอะไรก็เจรจาไกล่เกลี่ยกัน มีอะไรก็เเบ่งปันกัน มะม่วงบ้านนี้เยอะ เอาไปแลกขนุนบ้านนู้นหน่อย แต่ทุกวันนี้อากาศมันร้อน และบางครั้งการศึกษามันทำให้คนเริ่มคิดที่จะแสวงหากำไรจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมากจนเกินไป “เรื่องอะไรฉันจะต้องเอาไปแลก อยากได้ก็มาขอซื้อฉันซิ” ทั้ง ๆ ที่บางทีมันจะสุกคาต้นแถมตกลงไปเน่าเขตบ้านเค้าด้วยซ้ำ อยากฝากไว้ให้ทุกคนคิดว่า เราอยากได้สังคมไทยแบบไหน... เราอยากอยู่ในสภาพเเวดล้อมแบบไหน เริ่มจากตัวเราเองก่อน เมื่อเราเปลี่ยนแปลงสังคมไม่ได้ แต่เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ หากเราเริ่มที่จะเกรงใจสังคม คนรอบ ๆ ข้าง อาจจะเริ่มเกรงใจเรา หากเรายอมที่จะลง บ้างที่ทุกอย่างอาจง่ายขึ้น หากเราเริ่มมีน้ำใจ เราอาจจะได้เห็นน้ำใจจากคนอื่นบ้าง เพราะแต่เดิมไทยเราตั้งต้นมาแบบนี้ ฉันหวังเสมอว่า ลึก ๆ ในใจของคนไทยเรา ไม่ได้เห็นแก่ตัวกันทุกคน ......แล้วเจอกัน
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น