อย่างที่เพื่อน ๆ ทราบกันเป็นอย่างดีว่าในหลาย ๆ ประเทศกำลังประสบปัญหาของโรคระบาดร้ายแรงอย่างไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือที่เรียกกันว่า Corona Virus (Covid-19) และรวมถึงประเทศไทยของเราก็ประสบปัญหาดังกล่าวไม่น้อยเช่นกันและ ณ ตอนนี้สถานการณ์ก็มีแนวโน้มจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้หลาย ๆ ที่มีการคลี่คลายสถานการณ์เกิดขึ้น ส่งผลทำให้ภาครัฐได้มีการผ่อนปรนมาตราการและผ่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่ 3 หลัง รวมถึงกรมการขนส่งทางก็ได้มีการผ่อนปรนตามมาด้วย ข้อมูลการเดินรถสาธารณะ เส้นทางภาคเหนือ จำนวน 7 เส้นทาง กรุงเทพฯ–เชียงใหม่ กรุงเทพฯ–เชียงราย กรุงเทพฯ–อุตรดิตถ์ กรุงเทพฯ–สารจิตร กรุงเทพฯ–แม่สอด กรุงเทพฯ–หล่มเก่า กรุงเทพฯ–คลองลาน เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 9 เส้นทาง กรุงเทพฯ–หนองบัวลำภู กรุงเทพฯ–สกลนคร กรุงเทพฯ–เชียงคาน กรุงเทพฯ–สุรินทร์ กรุงเทพฯ–บุรีรัมย์ กรุงเทพฯ–กันทรลักษ์ กรุงเทพฯ–ศรีสะเกษ กรุงเทพฯ–รัตนบุรี กรุงเทพฯ–จันทบุรี สำหรับเส้นทางเดินรถภาคใต้ เตรียมเปิดเดินรถ จำนวน 3 เส้นทาง (เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563) กรุงเทพฯ - เกาะสมุย กรุงเทพฯ - ภูเก็ต กรุงเทพฯ - ตรัง ข้อมูลอ้างอิงมาจาก : ไทยคู่ฟ้า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราทุกคนจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ภาครัฐหรือมาตราการที่พึงปฏิบัติเบื้องต้นอย่างเคร่งครัด ดังนี้ กฎเหล็ก 6 ข้อมาตราการ 'เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)' พนักงานประจำรถ พนักงานประจำสถานี และผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สำหรับข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ Basic และทุกคนต้องพึงปฏิบัติในทุก ๆ สถานที่ที่ไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่อเข้าใช้บริการภายในสถานีขนส่ง และขณะอยู่บนรถโดยสารและสำหรับที่นั่งจะจัดแบบนั่งห่างกัน 1 ที่ เว้น 1 ที่เพื่อเป็นไปตาม Social Distancing ข้อนี้จะรวมถึงไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารนำอาหารและเครื่องดื่มมารับประทานบนรถโดยสารเด็ดขาดแต่จะให้รับประทานอาหารเฉพาะที่จุดพักรถตามจุดต่าง ๆ เท่านั้น เหตุผลเพราะว่าการทานอาหารทุกครั้งเราจะต้องถอดหรือดึงหน้ากากอนามัยลงมา เพื่อจะรับประทานได้ ดังนั้นหากเปิดหน้ากากอนามัยพร้อม ๆ กันในรถโดยสารสาธารณะและภายในรถต้องเปิดเครื่องปรับอากาศในพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งหากคิดดูแล้วมีความเสี่ยงสูงมากและเพื่อลดความเสี่ยงนี้จะให้เปลี่ยนเป็นการลงไปทานอาหารให้เสร็จเรียบร้อยตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ทีโล่งและอากาศถ่ายเทจะเสี่ยงน้อยกว่า เป็นการขอความร่วมมือผู้โดยสารจากทาง บ.ข.ส. ให้จองตั๋วโดยสารล่วงหน้า ผ่านทางช่องทางออน์ไลน์ซึ่งผู้โดยสารสามารถจองตั๋วรถ บขส. ล่วงหน้า ผ่านทางออนไลน์ได้ที่ เว็บไซต์ www.transport.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1490 ตลอด 24 ชั่วโมง ง่าย ๆ แค่เพียงกดดูวันที่ต้องการเดินทาง >จองตั๋ว> จ่ายเงินและวันเดินทางอย่าลืมพกหลักฐานไปด้วยนะคะ ทั้งนี้เพื่อลดความแออัดและความเสี่ยงต่อการติดโรคในการเข้าใช้สถานีขนส่งในพื้นที่ต่าง ๆ และควรใช้เวลาภายในสถานีขนส่ง ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก่อนรถจะออก ก่อนจะเข้ารับการบริการหรือก่อนออกเดินทางในทุกครั้งผู้โดยสารทุกคนจำเป็นจะต้องผ่านจุดคัดกรอง ซึ่งถือว่าเป็นด่านแรกเพื่อเป็นการป้องกันตนเองและผู้อื่น โดยจะมีการวัดอุณหภูมิร่างกายโดยที่วัดที่มีมาตราฐาน อุณหภูมิร่างกายจะต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียสหากพบผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ห้ามเดินทางโดยเด็ดขาด เราจะพูดไม่ให้แตะเลยก็ไม่ไดั เพราะว่าบางครั้งเราก็ต้องเผลอสัมผัสบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง ราวจับ เบาะที่นั่ง ที่วางของ แต่ที่เราสามารถทำได้แน่นอนเลยก็คือการไม่สัมผัสใบหน้าของตนเองและหมั่นล้างมือให้สะอาดเสมอแต่หากเราไม่อยากจะเดินไปล้างมือบ่อย ๆ หรือไม่มีสบู่ล้างมือ ก็สามารถใช้แอลกอฮอลล์เจลแทนได้รวมไปถึงเราจะต้องตรวจเช็ค ดูแลความสะอาดสิ่งของรอบตัวเรา อาทิ ที่นั่ง บริเวณรอบ ๆ และข้าวของเครื่องใช้ของตนเอง โดยอาจจะใช้สเปรย์ฉีด หรืออีกทางเลือกคือทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ ซึ่งจะสามารถลดเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี หากเข้าห้องน้ำบนรถหรือจุดพักรถหรือจุดทานอาหาร เราจะต้องทำตามนี้ค่ะ คือปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำทิ้งทุกครั้งและจะต้องล้างมือให้สะอาดเพราะจากการหาข้อมูลมีรายงานเรื่อง'การติดเชื้อ SARS-CoV-2 ในอุจจาระของผู้ป่วยด้วย COVID อย่างรุนแรง -19' TIP หลังถึงที่หมาย หลังจากถึงที่หมายแล้วก็ยังมีข้อควรปฏิบัติอื่น ๆ อีกค่ะ นั้นคือ การถอดหน้ากาก เราจะต้องถอดและม้วนเก๋บลงถุงให้ถูกโดย 1.) ใช้มือทั้งสองจับห่วงที่ใช้เกี่ยวหูทั้งสอง 2.) ใช้นิ้วสองด้านม้วนหน้ากากอนามัยเข้าหากัน*โดยจะต้องพลิกด้านในที่สัมผัสกับใบหน้าของเราออก 3.) แยกถุงกับขนะทั่วไปและเขียนบนถุงให้ชัดเจนว่าคือ 'ขยะติดเชื้อ' เพื่อป้องกันผู้เก็บด้วย และหลังถึงที่ควรทำคือเปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำ สระผมทันที อีกทั้งจะต้องซักเสื้อผ้าที่สวมใส่ในระหว่างเดินทางและทำความสะอาดสิ่งของที่นำติดตัวมาด้วยเจลแอกอฮอล์ ทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ แล้วแต่สะดวก ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ"การเดินทางข้ามจังหวัด" ด้วยรถโดยสารสาธารณะ อย่างไรให้ปลอดภัย ? ซึ่งหากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมีแพลนที่กำลังจะเดินทางไปต่างจังหวัด ก็ลองเช็ครอบวันในการเดินทางให้ดี ๆ หรือจังหวัดปลายทางที่จะไปมีมาตราการอย่างไร ก็ลองศึกษาดูก่อนนะคะ และจะต้องปฏิบัติตามมาตราการ 'เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)' อย่างเคร่งครัดกันด้วยละ เพื่อตนเองและสังคมนะคะ Protect yourself and other 🙂 เครดิตภาพ : @unsplash เครดิตภาพหน้าปก : unsplash เครดิตภาพหน้าประกอบบทความ : กฎเหล็ก 6 ข้อมาตราการ 'เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)' 1.) ทุกคนที่ให้บริการและใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัย : บขส. 2.) งดให้บริการและทานอาหารเครื่องดื่มบนรถโดยสาร : unsplash 3.) ผู้โดยจะต้องจองตั๋วล่วงหน้า : บริษัท ขนส่ง จำกัด 4.) คัดกรองผู้โดยสารและตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสถานีเบื้องต้น : บขส. 5.) ลด งด การสัมผัสสิ่งของสาธารณะต่างๆ : unsplash (1) / unsplash (2) / unsplash (3) 6.) การใช้ห้องน้ำบนรถและสาธารณะ : unsplash (1) / unsplash (2) TIP หลังถึงที่หมาย ข้อควรปฏิบัติหลังถึงจุดหมายปลายทาง : unsplash (1) / unsplash (2) / unsplash (3) / unsplash (4)