นับตั้งแต่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เข้ามาสู่รั่วแอนฟิล เขาก็ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับลิเวอร์พูลได้ในทันที จากทีมที่มีค่าเฉลี่ยการเสียประตูสูงก็ดูต่ำลง จากทีมที่มีจุดด้อยเรื่องลูกกลางอากาศ กลับกลายเป็นทีมที่มีจุดแข็งในเรื่องลูกกลางอากาศ ทั้งการป้องกัน และการทำประตู ทุกอย่างนี้เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่มีเขา เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เข้ามาเป็นปราการหลังคนสำคัญให้กับลิเวอร์พูล เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นกองหลังที่มีรูปร่างสูงมีความแข็งแกร่ง และมีความเร็ว และเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในเวลาที่ทีมเป็นฝ่ายตั้งรับ และไปช่วยทำประตูเวลาที่ทีมได้ลูกเตะมุม ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ดีของกองหลัง แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นฝันร้ายสำหรับแนวรุกและกองหน้าของหลาย ๆ ทีมคือ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นกองหลังที่มีการอ่านเกมที่ดีมาก การเข้าบอลของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เป็นไปอย่างชาญฉลาด เขามักตัดสินใจถูกที่ถูกเวลาเสมอเวลาเข้าไปตัดบอล เขามีการอ่านเกมที่ดีในการยืนตำแหน่ง ทั้งการบังคู่ต่อสู่ในการยิงประตูไม่ให้ถนัด เปิดช่องให้ในทิศทางที่มีผู้รักษาประตูของทีมตัวเองยืนอยู่ แม้กระทั้งการทำลายจังหวะคู่ต่อสู้ในการทำประตู และเกมที่ทำให้เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คถูกพูดถึงและชื่นชมไม่น้อยก็คือ เกมที่ลิเวอร์พูลเจอกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เกมนั้นทั้งสองทีมต่างต้องการ 3 แต้ม เพราะอยู่ในช่วงที่ลุ้นแชมป์ทั้งคู่ ในเกมนั้นลิเวอร์พูลขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วโดยโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ และหลังจากนั้นดูเหมือนรูปเกมของสเปอร์จะดีกว่า สเปอร์พยายามบุกเข้าใส่จนได้ประตูประมาณนาทีที่ เจ็ดสิบปลายๆ ลิเวอร์พูลจึงต้องเลี่ยนเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่บ้างหวังจะได้ 3 แต้มในถิ่นของตน แต่การเล่นเกมบุกก็เหมือนมีดสองคม โอกาสได้ประตูเพิ่มขึ้น แต่โอกาสโดนโต้กลับและเสียประตูก็มีมากเช่นกัน และแล้วมันก็เกิดขึ้นเมื่อลิเวอร์พูลโดนตัดเกมได้กลางสนาม และถูกสวนกลับเร็ว ในขณะนั้นผู้เล่นเกมรุกของสเปอร์มีถึงสองคนคือ ซอน เฮือง มิน และ มุสซ่า ซิสโซโก้ แต่ลิเวอร์พูล เหลือกองหลังเพียงคนเดียวคือ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และในตอนนั้นบอลอยู่ที่เท้าของมุสซ่า ซิสโซโก้ เลี้ยงจี้ขึ้นมาด้วยความเร็ว และมีซอน เฮือน มิน วิ่งประคองมา เพื่อให้ ซิสโซโก้ได้มีช่องจ่ายบอล เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อ่านเกมและไม่ตัดสินใจเข้าพรวดไปตัดบอล วิ่งประคอง พร้อมกับการยืนตำแหน่งที่ดีมาก ปิดช่องไม่ให้ ซิสโซโก้จ่ายบอลให้ซอน เฮือน มิน ที่เป็นตัวจบสกอร์ของทีม มุสซ่า ซิสโซโก้พาบอลขึ้นมาเรื่อย ๆ พร้อมทำท่าจะจ่ายบอลถึงสองครั้ง เพราะเขาไม่อยากยิงเนื่องจากช่องบอลที่จะยิงเข้าหาประตูได้เป็นเท้าซ้าย ซึ่งเป็นเท้าที่ไม่ถนัดของเขา แต่ก็ไม่กล้าจ่ายบอล เพราะกลัว เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คตัดบอลได้ จนเข้ามากรอบเขตโทษ เขาจึงตัดสินใจง้างเท้าเหมือนจะยิง ทันใดนั้นเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จึงรีบวิ่งเข้าไปทำลายจังหวะในการยิงประตูของมุสซ่า ซิสโซโก้ จนทำให้เขายิงข้ามคานออกไปไกล และกลายเป็นจุดเปลี่ยนเพราะสุดท้ายลิเวอร์พูลได้ประตูชัยในช่วงนาทีที่ 90++ จากความผิดพลาดของเกมรับสเปอร์ และเก็บสามเต็มแต้มได้สำเร็จ จบเกม เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ได้รับโหวตให้ได้ตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมท และหลายคนออกมาชื่นชมในการเล่นเกมนี้ของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค โดยเฉพาะจังหวะ ที่ได้เล่าไป มาถึงตอนนี้คงไม่มีแฟนบอลลิเวอร์พูลคนไหน ตั้งคำถามเกี่ยวกับค่าตัวของกองหลังคนนี้ ที่ถูกซื้อมาจากเซาแฮมตัน ด้วยราคา 75 ล้านปอนด์อีกแล้ว เพราะการที่เขาเข้ามานับเป็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ดีมาก ๆ ให้กับทีมในรอบหลายสิบปีที่เคยเป็นมาภาพทุกภาพ จาก home.trueid.net