ช่วง Covid 19 เป็นเวลาที่ไม่น่าจดจำสำหรับทุกคน บ้างต้องถูกเลิกจ้าง บ้างไม่สามารถค้าขายได้ บ้างก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองและคนรอบข้างอยู่รอด แต่ในวิกฤตแบบนี้มักมีสิ่งล้ำค่าแฝงอยู่ เพียงแต่เราต้องเปิดใจและยอมรับในสิ่งนั้นและที่ชัดเจนที่สุดในช่วง Covid 19 นั่นคือการที่ทุกคนมองกลับไปหาครอบครัว คนที่ทำงานต่างถิ่นตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อดูแลพ่อแม่หรือเพื่อลดค่าใช้จ่าย หัวหน้าครอบครัวต้องมองหาอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ให้กับครอบครัว ลูกๆที่อยู่ห่างไกลพ่อแม่คอยติดต่อและถามไถ่ความเป็นอยู่ของกันและกัน คนวัยทำงานคำนึงถึงค่าใช้จ่ายและรู้จักอดออมมากขึ้น แม้ช่วงก่อนวิกฤต หลายคนไม่เคยตระหนักถึงครอบครัว การอดออม การดูแลสุขภาพ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน ทุกคนกลับเปลี่ยนความคิดและเริ่มวางแผนตัวเอง เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น “นั่นสิเมื่อก่อนเราเคยมี เราเคยใช้ แต่ตอนนี้เรามีน้อยหรือไม่มีใช้เลย“ มักเป็นประโยคที่เราได้ยินบ่อยในช่วงวิกฤต หลายคนรู้สึกบั่นทอนชีวิตตนเอง แต่หลายคนใช้วิกฤตนี้มองหาโอกาส การเกิดวิกฤตแต่ละครั้งเป็นเหมือนการเกลาจิตใจและวินัยของเราเอง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเปิดใจและยอมรับสิ่งนั้นได้อย่างไร การเปิดใจยอมรับ แม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกกลัวถึงการเปลี่ยนแปลงแต่หากมันทำให้ตัวเราได้รับสิ่งดีๆเข้ามา มันก็คุ้มค่าที่จะเปิดใจยอมรับ คงไม่ง่ายหากเราจะเปลี่ยนจากการนั่งดูละครตอนเย็นเป็นออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะ คงไม่ง่ายหากเราจะลดการกินเนื้อและเพิ่มการกินผักในแต่ละมื้อ คงไม่ง่ายหากเราจะกลับไปบ้านเกิดเพื่อดูแลพ่อแม่บ่อยครั้งขึ้น เราลองเปิดใจยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเปลี่ยนด้วยตัวเราเอง โดยไม่ต้องรอให้เกิดวิกฤตและแม้ว่าวิกฤตจะเกิดขึ้นเราก็สามารถปรับตัวรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนั้นได้ ในทุกๆวิกฤตจะมีโอกาสซ่อนอยู่ ลองมองหาและยอมรับ แล้วเราจะพบว่าสิ่งที่ได้รับคือคำพูดที่บอกว่า “เราน่าจะทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว“ ภาพถ่ายโดยนักเขียน