เผือก เป็นพืชเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นที่มีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คนไทยนิยมนำเผือกมาประกอบอาหารต่างๆเพราะเผือกมีกลิ่นหอม และมีรสชาติดี เผือกเป็นพืชที่ให้สารอาหารมากมายเพราในหัวเผือกจะมีส่วนประกอบจำพวกแป้งและแร่ธาตุต่างๆ ไม่เพียงแต่หัวเผือกเท่านั้นที่สามารถทานได้ ยังมีลำต้นที่คนสามารถนำมาทำเป็นแกงได้อีกด้วย ส่วนใบสามารถนำมาทำอาหารสัตว์ได้ ตอนนี้เผือกกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย มาเลเซีย และเนเธอร์แลนด์ โดยประเทศไทยของเราก็มีการปลูกเผือกอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ ผลผลิตต่อไ่ร่ประมาณ 2 - 3 ตัน/ไร่ หรือมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับการดูแลแลปริมาณน้ำของแต่ละที่ จังหวัดที่เป็นแหล่งปลูกสำคัญได้แก่ ปราจีนบุรี อยุธยา สระบุรี นครปฐม สุรินทร์ ชุมพร และอื่นๆสภาพดินฟ้าอากาศที่เหมาะสมในการปลูกเผือกเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ถ้าไม่มีน้ำเพียงพอจทำให้ตายได้ เผือกชอบดินที่มีความชื้นสูง ดินอุ้มน้ำได้ดี ถ้าจะให้ดีควรปลูกฤดูฝน เพราะจะได้ไม่ต้องคอยใส่น้ำ ซึ่งการทำแบบนี้เหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่แห้งแล้งพันธุ์เผือกในประเทศไทยเผือกหอมเชียงใหม่พจ.016(พิจิตร)พจ.06พจ.025พจ.08พจ.05ซึ่งแต่ละพันธุ์จะมีความแตกต่างของลำต้น และหัวเผือก รวมถึงสีและกลิ่นด้วยการปลูกเผือกจากไร่ของผู้เขียนเอง(อาจจะไม่เหมือนของที่อื่นนะครับ)ก่อนที่จะปลูกต้องเตรียมดิน โดยการไถดะ ไถให้ดินละเอียด จากนั้นปล่อยน้ำใส่แล้วทำเหมือนทำนา คือทำเทือก ให้ดินเหมือนตอนทำนา เตรียมลูกเผือก 1ไร่/8,000-10,000ต้น เอาง่ายๆคือถ้าปลูกถี่ 1ไร่ให้เตรียมลูกเผือกไว้10,000ต้น แต่ถ้าปลูกห่างให้เตรียมไว้8,000ต้นปลูกเหมือนดำนาเลยครับ ถ้าจะปลูกให้ตรงเป็นแถวเดียวกันก็นำเชือกมาตีเส้น แล้วก็ดำลูกเผือกตามเส้นเลยครับ แต่ละต้นในแถวเดียวกัน ห่างกันประมาณ 1คืบ แต่ละแถวห่างกัน 1เมตร การให้น้ำจากไร่ของผู้เขียนเอง(อาจจะไม่เหมือนของที่อื่นนะครับ) ถ้าน้ำแห้งก็ปล่อยน้ำใส่ได้เลยครับ แต่ถ้าใครมีน้ำหยดจะดีมากๆเลยครับการใส่ปุ๋ยจากไร่ของผู้เขียนเอง(อาจจะไม่เหมือนของที่อื่นนะครับ)ใส่ปุ๋ยเดือนละ1ครั้ง ระยะเวลา6-10เดือนจนกว่าจะได้เก็บผลผลิต- 2 เดือนแรกให้ใส่ปุ๋ยยูเรีย - เดือนถัดไปให้ใส่ปุ๋ยสูตร15-15-15ตราหัววัวคันไถ ผสมกับปุ๋ยยูเรียตราม้าบิน (ต้องมีน้ำเลี้ยงตลอดนะครับ ช่วงที่ใส่ปุ๋ย)การพูนโคนและการกำจัดวัชพืชจากไร่ของผู้เขียนเอง(อาจจะไม่เหมือนของที่อื่นนะครับ)การพูนโคนให้ทำตอนที่ต้นเผือกสูงประมาณครึ่งเมตร พร้อมทั้งพรวนดิน และการถากหญ้าเพื่อกำจัดวัชพืช รวมถึงใช้ยาหมักฉีดพ่นฆ่าแมลงและเชื้อราต่างๆ เมื่อเผือกโตจนใบคลุมแปลงมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องกำจัดวัชพืชจนกว่าจะเก็บผลผลิตการเก็บผลผลิตจากไร่ของผู้เขียนเอง(อาจจะไม่เหมือนของที่อื่นนะครับ)การเก็บผลผลิตสำหรับไร่ที่บ้านผมนะครับ คือผมจะใช้เหล็กยาวๆขนาดเท่าท่อน้ำมีด้ามจับ ปลายไม่ค่อยแหลม ตามภาพนะครับ เสียบไปที่ใกล้ๆกของต้นเผือกนะครับ แล้วหมุน หัวเผือกจะหลุดออกมา การทำแบบนี้เพื่อให้รากที่มีลูกเผือกหลุดออกจากหัวเผือก ซึ่งเราจะได้แต่หัวเผือกใหญ่ๆ หรือ คนทั่วไปที่ผมเห็นทำกันก็คือตัดใบแล้วใช้จอบขุดไปเลย แต่ต้องระวังให้ดีเพราะจะไปโดนหัวเผือกเข้า ได้ผลผลิตมาแล้วครับส่วนใหญ่แล้ว 1ไร่จะได้ผลผลิตประมาณ 100,000บาท ถ้ามีการดูแลอย่างดีและมีน้ำเลี้ยงตลอด ซึ่งถ้าขายแยกจะได้กิโลกรัมละประมาณ25-30บาท ก็จบไปกันแล้วนะครับสำหรับ การปลูกเผือกในแบบฉบับของที่บ้านผู้เขียน ถ้าใครคิดจะทำก็ให้คิดให้ดีนะครับว่าน้ำเรามีให้ไหม ปัจจัยต่างๆเพียงพอไหม มีทุนไหม ซึ่งลงทุนตั้ง10,000บาทต่อไร่นะ บทความหน้าจะเขียนเกี่ยวกับเรื่องอะไร ฝากติดตามด้วยนะครับ สามารถติดต่อผู้เขียนได้ที่FB : ตฤณ ศรีอินทร์IG : ko_trinIG : What_is_sentence_Email : trinsriin6986@gmail.com