การทับหม้อเกลือให้คุณแม่หลังคลอด ดีต่อสุขภาพอย่ดีต่อสุขภาพอย่างไร ขั้นตอนการอยู่ไฟหลังคลอดให้กับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกนั้น มีหลายขั้นตอนที่ทำในคราวเดียวกัน แต่วันนี้ผู้เขียนขอจำแนกถึงคุณประโยชน์ของการทับหม้อเกลือว่าดีต่อสุขภาพคุณแม่หลังคลอดอย่างไรบ้าง เพราะวิธีการนี้เป็นสิ่งสำคัญมากที่จำเป็นต้องทำ ชนิดที่หากคุณแม่หลังคลอดท่านใดอยู่ได้ไฟมาแล้ว แต่บอกว่าไม่ได้ทับหม้อเกลือ ก็นับว่ายังแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนั่นเอง การทับหม้อเกลือเป็นวิธีการให้ประโยชน์สูงสุดเฉพาะเมื่อทำช่วงหลังคลอดเท่านั้น เรามาดูกันว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ด้วยประสบการณ์ของตัวผู้เขียนเองซึ่งได้ผ่านการเป็นผู้ทำอยู่ไฟหลังคลอดให้กับคุณแม่หลังคลอดมานับเป็นเวลาเกือบ 17 ปีผ่านเคสหลังคลอดมาเกือบ 500 ราย จึงทำให้ได้ทราบว่า วิธีการทับหม้อเกลือเป็นวิธีที่ช่วยให้คุณแม่หลังคลอดได้รับประโยชน์สูงสุด ในกระบวนการทั้งหมดของการอยู่ไฟ แต่ทั้งนี้วิธีการอื่น ๆ ก็ให้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน เมื่อนำมาผสมผสานกันแล้ว จึงทำให้สุขภาพของคุณแม่หลังคลอดที่ทำการอยู่ไฟ จึงมีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด วิธีการเตรียมหม้อเกลือ 1. หม้อดินขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป จะสะดวกและจับถนัดมือของผู้ทำการประคบ และเข้ากับสรีระของคุณแม่ได้ดีกว่า 2. เกลือสมุทรแบบเม็ด หากมีเกลือตัวผู้จะดีมาก 3. เตาไฟฟ้าหน้าดำชนิดที่วางหม้อดินได้ 4. ใบพลับพลึงสำหรับรองหม้อดิน 5. ผ้าดิบไว้ห่อกันความร้อน วิธีทับหม้อเกลือ นำเกลือใส่หม้อดินจนเต็มหม้อดิน ปิดฝาวางบนเตาไฟฟ้าเปิดไฟให้ร้อน รอจนมีเสียงเกลือแตกดังโป๊ะเป๊ะ ๆ แล้วหรี่ไฟลง จนเกลือไม่ปะทุแล้วยกหม้อเกลือนำมาวางบนผ้าที่มีใบพลับพลึงรองไว้แล้ว ห่อผ้าให้หุ้มหม้อเกลือจนมิด ใช้มือตัวเองสัมผัสหากร้อนมากให้ห่อผ้าเพิ่มอีกชั้น เพราะการทับหม้อเกลือให้คุณแม่หลังคลอดจะใช้ความอุ่นที่พอเหมาะเท่านั้น โดยให้คุณแม่หลังคลอดนอนหงายใช้ผ้ารองบนหน้าท้อง เพื่อกันความร้อนเกินอาจจะทำให้ผิวหนังพองได้พร้อมทั้งใช้มือลูบสัมผัสจับดูบริเวณมดลูกของคุณแม่ว่าอยู่ในลักษณะใด เมื่อทราบดีแล้วก็ค่อย ๆ นำหม้อเกลือมาวางที่หน้าท้องรอบมดลูกเพียงเบา ๆ ก่อน เพื่อให้ร่างกายคุณแม่ได้คุ้นชินกับความร้อน หลังจากนั้นค่อย ๆ ประคบตะล่อมรอบมดลูกไปตามเข็มนาฬิกาประคบวนไปเรื่อย ๆ จนหม้อเกลืออุ่นน้อยลง จึงเปลี่ยนหม้อใบใหม่ที่อุ่นร้อนอยู่บนเตา ทำอย่างนี้จนครบเวลา 2-3 ชั่วโมง จึงเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของหน้าท้องที่แบบราบลงบ้างแล้ว การทับหม้อเกลือจะเห็นผลชัดขึ้นในวันที่ 3-5 ของการทำอยู่ไฟ ประโยชน์ของการทับหม้อเกลือ 1. ช่วยลดการอักเสบ และกระตุ้นการหดตัวของมดลูก ความร้อนจากเกลือที่ค่อย ๆ ซึมผ่านหม้อดินใบพลับพลึงและผ้าดิบ และแทรกซึมเข้าสู่ผิวหนังของคุณแม่ได้ทีละน้อย ซึ่งคุณสมบัติของเกลือจะช่วยลดการอักเสบ และทำให้มดลูกหดตัวได้ดี ส่วนใบพลับพลึงก็มีสารสำคัญช่วยลดความตึงรั้งของกล้ามเนื้อ และเส้นเอ็นที่อยู่บริเวณรอบหน้าท้อง เมื่อใช้ร่วมกับความร้อนจึงส่งผลให้ลดการอักเสบ และลดอาการปวดระบมของบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ได้ 2. ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ในคุณแม่ที่ผ่าคลอดเกิน 40 วัน แล้ว เมื่อทับหม้อเกลือก็จะส่งผลดีในการช่วยให้รอยแผลผ่าตัดสมานกันได้ดีขึ้น ลดรอยแผลเป็นที่มีรอยนูนแข็งให้นิ่มลงได้ 3. ช่วยขจัดไขมันส่วนเกินที่เกิดขณะตั้งครรภ์ การทับหม้อเกลือนอกจากจะช่วยให้มดลูกหดตัวแล้ว ขณะที่ทับหม้อเกลือนั้นความร้อนจากหม้อเกลือยังช่วยขจัดไขมันส่วนเกิน ที่เกาะบริเวณผนังหน้าท้องให้สลายตัวออกมาได้ นอกจากนี้หม้อเกลือยังใช้สลายเซลลูไลท์ที่อยู่บริเวณสะโพกและต้นขาได้อีกด้วย 4. ช่วยลดอาการบวมน้ำ หลังจากคลอดลูกแล้วคุณแม่บางท่านยังมีหน้าท้องที่หนามาก หากได้ทับหม้อเกลือก็จะช่วยขจัดน้ำส่วนเกินที่ค้างอยู่หน้าท้อง และตามร่างกายให้ออกมากับเหงื่อได้ ซึ่งคุณแม่ที่ได้ทำการอยู่ไฟ และทับหม้อเกลือแล้วจะมีรูปร่างค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ 5. ช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ของเสียที่มีทั้งเหงื่อ และเศษน้ำคาวปลาซึ่งอาจค้างอยู่บริเวณซอกหลืบของมดลูก เมื่อโดนความร้อนจากหม้อเกลือที่ทำอย่างต่อเนื่องติดต่อกันหลายชั่วโมง ในบางรายอาจมีเศษน้ำคาวปลาหลุดลอกออกได้ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน การทับหม้อเกลือนับว่าเป็นวิธีที่ดีมากเมื่อใช้กับคุณแม่หลังคลอด เพื่อช่วยเร่งระยะเวลาการเข้าอู่ของมดลูกให้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพของคุณแม่โดยรวม เพราะช่วงเวลาในการหดตัวของมดลูกที่ดีที่สุดคือไม่เกิน 3 เดือนหลังคลอด การอยู่ไฟในระยะนี้จึงได้ผลดีมากกว่าปล่อยให้มดลูกหดตัวเอง ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานานหลายเดือน อีกทั้งมีความเสี่ยงที่มดลูกจะเกร็งตัวแข็งและหดตัวได้ยาก เนื่องจากภาระกิจประจำวันของคุณแม่ จนเส้นเอ็นตึงรั้งและทำให้มีอาการปวดหลังตามมาได้