การทอเสื่อผือ เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่นของชุมชนในภาคอีสาน ซึ่งการทอเสื่อนั้นจะแสดงออกถึงความเป็นแม่บ้านแม่เรือนของผู้หญิงในสมัยก่อนนั้นหญิงสาวจะต้องหัดทอเสื่อเพื่อให้มีไว้ติดบ้านและเก็บไว้ใช้สอย หรือฝากญาติพี่น้อง ในปัจจุบัน ตามชุมชนค่อนข้างมีน้อยคนที่จะยังทอเสื่ออยู่ เนื่องจากสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ที่วัยรุ่นให้ความสนใจกับสื่อออนไลน์มากกว่าการเรียนรู้วิถีชุมชน ยังคงเหลือแค่บางบ้านที่มีผู้เฒ่าผู้แก่ยึดถือการทอเสื่อเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเองและเก็บไว้ฝากญาติพี่น้อง ซึ่งวิธีการทอเสื่อผือนั้น มีดังนี้ขั้นตอนการทอเสื่อผือ 1. นำต้นผือที่ตัดมา มาตัดส่วนปลายที่เป็นใบออก และวัดให้มีขนาดเท่า ๆ กัน2. นำต้นผือที่ตัดจนมีขนาดเท่า ๆ กัน ไปผึ่งแดดพอหมาด ๆ3. สอยเส้นผือออกเป็นเส้นเล็ก ๆ ตามเหลี่ยมของต้นผือ4. นำเส้นผือที่สอยเเล้วไปผึ่งแดดให้แห้ง5. นำมาย้อมสีโดยใช้สีย้อมกก ย้อมผือ สีที่นิยมคือ สีชมพู สีแดง สีเขียว สีเหลือง สีม่วง โดยนำไปต้มในปี๊บ ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่สีลงไปตามด้วยผือที่ต้องการย้อม6. นำผือที่ย้อมแล้วมาล้างด้วยน้ำเปล่า จากนั้นนำไปผึ่งแดดให้แห้ง 7. กางโฮงสำหรับทอเสื่อโดยนำเชือกไนลอนสำหรับทอเสื่อมาโยงใส่ฟืมจนเสร็จนำเส้นผือที่ย้อมสีตากจนแห้งแล้วนำมาทอเสื่อลายตามต้องการ8. พอทอเสร็จก็ตัดแล้วหลังจากนั้นก็นำไปตากแดดเพื่อให้สีไม่ออก หลังจากนั้นก็นำมาเก็บในที่ร่ม เห็นได้ว่า ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เสื่อผือแต่ละผืนออกมา ดังนั้นราคาจึงอยู่ที่ ผืนละ 200-600 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสวยงามของลวดลายอีกด้วย เสื่อผือนั้นนอกจากจะแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นของคนในชุมชน ที่นำพืชมาทอเป็นเครื่องใช้ภายในบ้านแล้วยังแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความประณีตในการคิดค้นลวดลายใหม่ ๆ ที่มีความสวยงามและตั้งใจทอออกมาเพื่อเพิ่มราคาให้เสื่อผือนั้นมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น*รูปภาพถ่ายโดยผู้เขียนทั้งหมด