เรื่องที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ฉันได้รับจากประสบการณ์จริง ๆ ในเซี่ยงไฮ้ และบางเรื่องฉันก็เห็นว่ามันสอดคล้องกับการตลาด เลยเอามันมาจับวิเคราะห์คู่กัน เพราะเห็นว่ามันน่าสนใจ และบางอย่างก็ดูแปลกใหม่สำหรับประเทศไทย ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรนั้นไปดูกันเลยจ้า“Ads ในรถไฟฟ้า”ฉันยอมการทำโฆษณาบนรถไฟฟ้าของที่นี่มาก เขามีการใช้ผนังกำแพงระหว่างที่รถไฟฟ้ากำลังเคลื่อนที่ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งถ้าติดป้ายโฆษณาที่ผนังเวลาที่รถไฟฟ้าเคลื่อนที่เราก็จะมองไม่เห็นโฆษณา ทั้งด้วยความมืด และการเคลื่อนที่อันรวดเร็วของรถไฟ แต่เขาใช้ความมืดให้เป็นประโยชน์ คือเขาจะฉายภาพจากเลเซอร์ที่ติดข้างบนรถไฟฟ้า แล้วฉายไปที่ผนัง ทำให้แม้ว่ารถไฟฟ้ากำลังเคลื่อนที่ เราก็ยังสามารถเห็นโฆษณาได้ ถือว่าเป็นการโฆษณาที่เจ๋งจริงอะไรจริง “Starbucks Reserve Roastery”Starbucks Reserve Roastery ที่เซี่ยงไฮ้นั้นเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ภายในร้านนั้นจะมีการคั่วกาแฟให้เห็นกันสด ๆ และ counter bar ก็จะล้อมที่คั่วกาแฟและที่ชงกาแฟ เพื่อสร้างบรรยากาศในการดื่มด่ำกาแฟ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ที่ภาษาทางการตลาดเรียกว่า “Sensory Marketing”รูปก็คือสิ่งที่เราเห็นภายในร้านกาแฟ Strabucks Reserve Roasteryรสภายในร้านกาแฟ Strabucks Reserve Roastery ก็คือ รสชาติของการาได้ลิ้มลองรสชาติของกาแฟและเบเกอรี่ ที่สุดแสนอร่อย และมีเอกลักษณ์ของตัวเองกลิ่น ก็คือกลิ่นของการคั่วเมล็ดเมล็ดกาแฟ ที่คั่วกันให้เห็นกันแบบซึ่ง ๆ หน้า แบบกั๊กใด ๆ และยังมีกลิ่นของกาแฟและ เบเกอรี่ที่หอมกรุ่น ชวนหลงใหลเสียง คือ เสียงเพลงที่เปิดเคล้าคลอภายในร้าน สร้างอารมณ์ในการดื่มกาแฟให้ดูละมุนมากขึ้น และยังมีเสียงของการคั่วกาแฟให้เราเหมือนตกไปอยู่โลกของกาแฟอย่างเต็มตัวสัมผัส คือการที่เราสัมผัสสิ่งต่าง ๆ ภายในร้าน โดยเฉพาะของที่ระลึกต่าง ๆ ของสตาร์บัค ที่หลากหลายกว่าสาขาอื่นให้ลูกค้าได้เลือกกันได้อย่างจุใจ “รองเท้าสเกต”ถ้าจะพูดถึงร้านอาหารที่ฉันไปกินที่เซี่ยงไฮ้ (จำชื่อร้านไม่ได้555) เขามีการทำการตลาดโดยการสร้างกิมมิคให้กับร้านตัวเอง คือ พนักงานจะใส่รองเท้าสเกตในการให้บริการ เพื่อความรวดเร็วการให้บริการ ที่ถือว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เน้นที่เพียงอาหารเท่านั้น แต่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง และเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้บริโภคได้ “เหอหม่า”เหอหม่าเป็นซุปเปอร์มาเก็ตของอะลีบาบา ที่มีหน้าร้านและมีระบบที่ให้สั่งของออนไลน์จากซุปเปอร์มาเก็ต แล้วทางเหอหม่าจะจัดส่งของให้ ซึ่งระบบนั้นมีลักษณะเป็นสายพานบนเพดานที่มีจุดวางของแล้วของนั้นก็จะไหลไปตามสายพาน ซึ่งถ้ามองในมุมของธุรกิจนั้น เขาเริ่มต้นจากธุรกิจแบบ offline แล้วเพื่มช่องทางการขายแบบ online ขึ้นมา เพราะตอนนี้กระแสของธุรกิจ E-commerce มาแรง ถ้าเขาปรับตัวเองเขาอาจตายได้ อาจถูกคู่แข่งแซงหน้าไปได้ “ขนมรูปหมา”ที่เซี่ยงไฮ้จะมีขนมมันฝรั่งทอดคล้ายกับขนมเลย์ ซึ่งก็ไม่ได้ดูแปลกอะไร แต่สิ่งที่แปลกและสร้างแรงดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจ คือ บรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบเป็นรูปหมา สร้างความสงสัยให้ผู้บริโภคว่าคือขนมที่ให้คนกิน หรือให้หมากิน คือสามารถสร้าง awareness ได้ ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเพราะบรรจุภัณฑ์ ซึ่งสิ่งนี้ก็ถือว่าเป็นการทำการตลาดอย่างหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างตรงที่ว่าถ้าสินค้าคือมันฝรั่งมีรสชาติไม่ดี บรรจุภัณฑ์นั้นก็สามารถดึงดูดใจให้คนซื้อ คนลองได้แค่ครั้งเดียว ก็จะไม่เกิดการซื้อซ้ำ ยอดขายที่ได้ก็จะเป็นยอดขายเพียงระยะสั้นเท่านั้นสำหรับเรื่องที่การตลาดในเซี่ยงไฮ้ที่ฉันเจอก็จะมีประมาณเท่านี้แหละจ้า หวังว่าทุกคนที่อ่านถึงจุดนี้แล้วจะได้ประโยชน์กันนะคะ และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจหรือชีวิตประจำวันกันได้นะคะ